สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(1 พฤศจิกายน 2568)---------------บริษัท สีเดลต้า จำกัด (มหาชน)DPAINT เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 7/2568 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2568 ได้พิจารณาขยายการประกอบธุรกิจของบริษัท เพื่อเพิ่มศักยภาพในการเติบโตและสร้างมูลค่าให้บริษัทอย่างยั่งยืน โดยได้มีมติอนุมัติให้บริษัทเข้าร่วมลงทุนกับพันธมิตรทางธุรกิจและองค์กรรัฐวิสาหกิจเพื่อจัดตั้งบริษัทร่วมทุน (“บริษัทร่วมทุน”)
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประกอบธุรกิจด้านการให้บริการคลังสินค้า โดยรายละเอียดเกี่ยวข้องกับบริษัทร่วมทุน ดังนี้
1. ชื่อบริษัทร่วมทุน : (1) องค์การเภสัชกรรม
(2) บริษัท สีเดลต้า จำกัด (มหาชน)
(3) บริษัท ปรมี ลอจิสติกส์ จำกัด
(4) บริษัท ฟลายบริดจ์ เวนเจอร์ส จำกัด
2. วัตถุประสงค์หลัก : เพื่อสร้างศูนย์กระจายสินค้าเภสัชกรรมที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ โดยผสานจุดแข็งของภาครัฐ (GPO) และเอกชน เพื่อผลักดันให้ก้าวสู่การเป็นผู้นำด้าน Pharmaceutical
Warehouse & Logistics
3. ทุนจดทะเบียนและหุ้น : 360,000,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 3,600,000 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้100 บาทต่อหุ้น
4. โครงสร้างการถือหุ้น : (1) องค์การเภสัชกรรม ถือหุ้นร้อยละ 25
(2) บริษัท สีเดลต้า จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นร้อยละ 25
(3) บริษัท ปรมี ลอจิสติกส์ จำกัด ถือหุ้นร้อยละ 25
(4) บริษัท ฟลายบริดจ์ เวนเจอร์ส จำกัด ถือหุ้นร้อยละ 25
5. รายชื่อกรรมการ : จำนวนกรรมการและองค์ประกอบบริษัทจะมีคณะกรรมการจำนวน 5 คน โดยการแต่งตั้ง
กรรมการให้เป็นไปตามสัดส่วนการถือหุ้นของแต่ละฝ่าย ทั้งนี้ GPO จะมีสิทธิเสนอแต่งตั้ง
กรรมการเพิ่มอีก 1 คน เพื่อดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ (Chairman of the Board)
ในปัจจุบัน ธุรกิจคลังสินค้าได้กลายเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญของระบบการค้าและอุตสาหกรรมที่เชื่อมโยงการผลิตการจัดจำหน่าย และการบริโภคเข้าด้วยกันอย่างมีประสิทธิภาพ ธุรกิจคลังสินค้าจึงเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพสูงและมีแนวโน้มเติบโตอย่าง
ต่อเนื่อง ทำให้ความต้องการคลังสินค้าที่ได้มาตรฐานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ธุรกิจคลังสินค้าเป็นหนึ่งในภาคธุรกิจที่มีศักยภาพสูง และมีแนวโน้มเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว
บริษัทเล็งเห็นโอกาสเชิงกลยุทธ์ในการต่อยอดศักยภาพของบริษัทจากธุรกิจเดิมสู่ธุรกิจที่สามารถสร้างรายได้ระยะยาวและมีความมั่นคงสูง จึงมีมติให้เข้าร่วมลงทุนในบริษัทร่วมทุนเพื่อประกอบธุรกิจคลังสินค้า โดยมีหน่วยงานรัฐวิสาหกิจเป็นผู้ร่วมลงทุนและ
บริษัทได้รับการยืนยันจากองค์กรรัฐวิสาหกิจว่าจะเป็นผู้ใช้บริการหลักของคลังสินค้าที่จะจัดตั้งขึ้น ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงด้านการตลาดและสร้างรายได้ที่มั่นคงต่อเนื่องให้แก่บริษัทตั้งแต่ระยะเริ่มต้นของโครงการ
ผลกระทบและความก้าวหน้าที่คาดว่าจะเกิดขึ้น
1. ด้านผลตอบแทนทางการเงินการดำเนินธุรกิจคลังสินค้าภายใต้รูปแบบการร่วมทุนกับภาครัฐมีลักษณะรายได้ที่คงที่และแน่นอน เนื่องจากเป็นธุรกิจที่มีสัญญาให้บริการระยะยาวกับผู้เช่าหรือผู้ใช้บริการหลัก จึงสามารถคาดการณ์กระแสเงินสดได้อย่างแม่นยำและ
ลดความผันผวนของรายได้ ขณะเดียวกัน การลงทุนดังกล่าวมีต้นทุนคงที่ ซึ่งส่งผลให้บริษัทร่วมทุนมีกำไรมีแนวโน้มสูงขึ้นในระยะยาว
2. ด้านโครงสร้างทางธุรกิจและการบริหารจัดการ การขยายไปสู่ธุรกิจคลังสินค้า ซึ่งมีลักษณะการดำเนินงานและโครงสร้างรายได้แตกต่างจากธุรกิจหลักของบริษัทจะกระจายความเสี่ยงจากความผันผวนในตลาดเดิม และเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับบริษัทในสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน และเป็นการเสริมสร้างศักยภาพของบริษัททั้งในด้านการบริหารจัดการ การใช้ทรัพยากร และการสร้างเครือข่ายทางธุรกิจกับหน่วยงานรัฐและพันธมิตรภาคเอกชน และเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาการศักยภาพในการแข่งขันและการเติบโตของบริษัท
3. ผลกระทบต่อเงินทุนและกระแสเงินสดในระยะสั้น
ในการเข้าร่วมลงทุนดังกล่าว บริษัทจะดำเนินการชำระเงินลงทุนเป็นลำดับตามความคืบหน้าของโครงการ โดยบริษัทจะใช้กระแสเงินสดของบริษัทเป็นแหล่งเงินทุนในการชำระเงินลงทุนที่มี ซึ่งคาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องทางการเงินของ
บริษัท
4. เสริมสร้างความร่วมมือกับภาครัฐและเพิ่มความน่าเชื่อถือทางธุรกิจ
การร่วมลงทุนกับหน่วยงานภาครัฐ เป็นโอกาสสำคัญในการสร้างเครือข่ายเชิงยุทธศาสตร์และยกระดับภาพลักษณ์ของบริษัทในฐานะพันธมิตรทางธุรกิจที่ภาครัฐให้ความไว้วางใจ ซึ่งจะส่งผลเชิงบวกต่อความน่าเชื่อถือในสายตานักลงทุน
คู่ค้า และสถาบันการเงิน อีกทั้งยังสร้างโอกาสในการเข้าร่วมโครงการภาครัฐอื่น ๆ ในอนาคตรายการดังกล่าวไม่เข้าข่ายเป็นรายการที่เกี่ยวโยงกัน และขนาดของรายการไม่เข้าข่ายเป็นรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ที่ต้องจัดทำ
รายงานและเปิดเผยสารสนเทศ ตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทนที่ ทจ.20/2551 เรื่องหลักเกณฑ์ในการทำรายการที่มีนัยสำคัญที่เข้าข่ายเป็นการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งทรัพย์สินและประกาศคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
เรื่อง การเปิดเผยข้อมูลและการปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียนในการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ พ.ศ. 2547