วันพุธที่ผ่านมาดัชนีเคลื่อนไหว Sideway เนื่องจากนักลงทุนจับตาผลการประชุมเฟด ขณะที่มีแรงซื้อนำโดยหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ขนส่ง และไอซีที เป็นปัจจัยหนุนดัชนี อย่างไรก็ตามมีแรงขายมากในหุ้นกลุ่มพลังงานจากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวลง ตามด้วยแรงขายในหุ้นกลุ่มอาหาร และค้าปลีก ส่งผลให้ดัชนีSET Index ปิดตลาดที่ 1,315.64 จุด +1.36 จุด +0.10% มูลค่าการซื้อขาย 33,460.18 ลบ. ProgramTrading -1,215.1 ลบ. ต่างชาติ-830.2 ลบ. TFEX -11,477 สัญญา ตราสารหนี้+24,640.1 ลบ.

ปัจจัยบวก
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 33 เซนต์ หรือ -0.55% ปิดที่60.48 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังสหรัฐฯ เปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบและน้ำมันเชื้อเพลิงลดลงมากกว่าคาด และการที่ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ แสดงมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับการเจรจาการค้ากับปธน.สี จิ้นผิง ผู้น าจีน ที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันนี้ทำให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้าที่จะมีต่อเศรษฐกิจ
+ คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯมีมติ 10-2 ปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นลง 0.25% สู่ระดับ 3.75-4.00%ตามการคาดการณ์ของตลาด รวมทั้งประกาศว่าจะยุติการลดขนาดงบดุล หรือยุติการใช้นโยบายคุมเข้มเชิงปริมาณ (Quantitative Tightening: QT)ในวันที่ 1 ธ.ค. ซึ่งถือเป็นการผ่อนคลายนโยบายการเงินของ FED
+ ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ โพสต์ข้อความบน Truth Social เมื่อวานนี้ระบุว่าเตรียมพบกับปธน.สี จิ้นผิง ผู้น าจีน ในวันนี้ โดยคาดว่าการเจรจาจะเป็นไปอย่างราบรื่น
+ BOI เปิดเผยว่า แนวโน้มการลงทุนในไทยในปี 68 เติบโตต่อเนื่อง 9 เดือน(ม.ค.-ก.ย. 2568) ยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ทั้งในแง่จำนวนโครงการและเงินลงทุน โดยมีจำนวน 2,622 โครงการ เพิ่มขึ้น 23%YoYมูลค่าเงินลงทุนรวม 1.37 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 94% สะท้อนว่า นักลงทุนให้ความเชื่อมั่นต่อประเทศไทย

ปัจจัยลบ
- ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 74.37 จุด หรือ -0.16% ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน หลังจาก FED ปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมล่าสุดตามคาด และนายเจอโรม พาวเวล ประธาน FED ส่งสัญญาณว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในเดือนธ.ค.ยังไม่แน่นอน ทำให้นักลงทุนให้น้ำหนัก 71%ในการคาดการณ์ว่า FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในการประชุมเดือนธ.ค. ซึ่งลดลงจากที่เคยให้น้ำหนักสูงถึง 90% ก่อนหน้านี้
- ผู้ว่าการรัฐและอัยการสูงสุดของพรรคเดโมแครตจาก 25 รัฐของสหรัฐฯยื่นฟ้องรัฐบาลของปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อคัดค้านข้อสรุปของรัฐบาลที่ระบุว่ารัฐบาลไม่มีอำนาจใช้เงินฉุกเฉินเพื่อให้ความช่วยเหลือด้านอาหารแก่ประชาชนหลายล้านคนในเดือนหน้า

แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway ออกข้าง โดย Fund Flow ที่ไหลออกกดดันการปรับตัวขึ้นของดัชนีประกอบกับมีแรงกดดันจากประธานเฟดส่งสัญญาณว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในเดือนธ.ค.นั้น ยังไม่แน่นอนมองกรอบดัชนี 1,305-1,325 จุด

กลยุทธ์การลงทุน
-เงินบาทกลับมาอ่อนค่า : CPF TU ITC BTG TFG
- Direct PPA : GULF BGRIM GPSC EGCO RATCH
- ครม. อนุมัติมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว “เที่ยวดีมีคืน” : MINT ERW CENTEL AWC BA AAV
- สินค้าส่งออกเดือน ก.ย. เติบโต : KCE HANA DELTA CCET TFG GFPT