AT THE OPEN (#ATO)
SET Index แกว่งออกข้าง
กลยุทธ์เลือกหุ้นงบ 3Q68 คาดฟื้นตัว
Market Strategy
SET Index คาดแกว่งออกข้างตามกรอบ 1305-1325 จุด จากเข้าใกล้เหตุการณ์สำคัญของสัปดาห์ คือ การประชุม FED การประชุมผู้นำสหรัฐฯ-จีนและรายงานงบหุ้นเทคฯขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ ทำให้นักลงทุนกลับมาอยู่ในภาวะ Wait & See หุ้นเด่นวันนี้เลือก TRUE ที่ราคาย่อตามตลาดสวนทางแนวโน้มกำไรที่ฟื้นตัวเด่น

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับขึ้นแต่โมเมนตัมเริ่มชะลอลงในช่วง 0.2%-0.8% จากการเข้าใกล้เหตุการณ์สำคัญ ในสัปดาห์นี้ 3 เรื่อง คือ 1) การประชุม FED (รู้ผลช่วงตี 1 วันพรุ่งนี้) คาดว่าจะลดดอกเบี้ยฯ 0.25% มาที่ 4% แต่สิ้งที่ให้น้ำหนักมากกว่าคือการส่งสัญญาณดำเนินนโยบายการเงินในระยะถัดไป (เช่น การลดดอกเบี้ยฯ หรือความชัดเจนการทำ QT) 2) การประชุมระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐฯ-จีน ในวันที่ 30 ต.ค. ที่อาจสะท้อนถึงความสัมพันธ์ของ 2 ประเทศในอนาคตและ 3) การประกาศงบของบริษัทเทคใหญ่ของสหรัฐฯในช่วง 1-2 วันนี้ Alphabet Meta Microsoft Apple และ Amazon ที่จะถูกนำมาตีความต่อมุมมองอุตสาหกรรมเทคฯ AI ต่อไป ภายใต้สภาพแวดล้อมข้างต้น ทำให้แรงหนุนมายังต่อตลาดหุ้นบ้านเรามีจำกัด

ปัจจัยในประเทศน้ำหนักอยู่ที่การรายงานงบ 3Q68 จากการรายงานรวมเฉพาะหุ้นที่มี Bloomberg Consensus คาดการณ์ มีรายงานแล้วคิดเป็นสัดส่วน 31% Market Cap ทำกำไรดีกว่าตลาดคาด 14% หลักๆมาจากกลุ่มธนาคารที่จากรายได้ค่าธรรมเนียม รายได้เงินลงทุนและการตีมูลค่ายุติธรรม และ DELTA ที่ยอดขายในกลุ่มธุรกิจ AI/Data Center และกำไรจากการตีมูลค่าสินค้าคงคลัง ทำให้ปัจจุบันยังไม่ได้เปิดความเสี่ยงต่อการปรับลดประมาณการ ซึ่ง Bloomberg Consensus คาดที่ 89.7 บาท/หุ้น ในเชิงกลยุทธ์สำหรับหุ้นใน Theme Earnings Play เราชอบหุ้นที่คาดกำไร 3Q68 ขยายตัวดี Valuation อยู่ในจุดน่าสนใจอย่าง GFPT MTC TRUE

Market Summary
SET Index ปรับลง 9 จุด หรือ 0.7% แรงกดดันหลักมาจากกลุ่มพลังงาน -1.6% ที่กดดันจากทั้งกลุ่มโรงไฟฟ้าที่ถูกขายทำกำไร GULF -2% EGCO -4% BPP -7% และกลุ่มน้ำมัน PTTEP -1.4% เช่นเดียวกับกลุ่มอิเล็คฯ DELTA -0.9% ส่วนกลุ่มอื่นๆ ค้าปลีกยังปรับลงจากความกังวลต่อการชะลอภาคบริโภค CPAXT -2.9% BJC -2.6% และ HMPRO -2.9% ที่รายงานงบ 3Q68 อ่อนแอตามคาด ส่วนกลุ่มที่ปรับขึ้นสวนคือกลุ่มท่องเที่ยว +0.9% และ AOT +1.3% หลังรายตัวเลขนักท่องเที่ยวสัปดาห์ก่อน (20-26 ต.ค.) เพิ่มขึ้น 6.4% และกลุ่มบรรจุภัณฑ์จาก SCGP +1.1% หลังงบ 3Q68 ออกมาตามคาด

DAILY Stock Pick
TRUE
กำไรไตรมาส 3 โตเด่น
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 14.40 บาท
คาดกำไรหลัก 3Q68 ที่ 4.8 พันล้านบาท (+67%YoY,+15%QoQ) จากการประหยัดต้นทุนค่าเสื่อมราคาของเครือข่ายจากการลดจำนวนเสาสัญญาณและการประหยัดต้นทุนคลื่นความถี่ (5 พันล้านบาทต่อปี เริ่มตั้งแต่ 4 ส.ค. 68)
กำไรหลักปี 68/69 โตแข็งแกร่งที่ +108%/+18%YoY สูงกว่า ADVANC ที่ +21%/+8% YoY แต่ PER69 อยู่ที่ 17.9x ต่ำกว่า ADVANC มากถึง 10.6%

Technical View
แนวรับ : 11.00 บาท
แนวต้าน : 12.00 บาท
จุดตัดขาดทุน : 10.00 บาท

WEEKLY Stock Pick
MTC
อานิสงค์ดอกเบี้ยขาลง
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 45.00 บาท
การประชุม FOMC ในวันที่ 30 ต.ค. CME Fedwatch ให้น้ำหนักถึง 98% ในการลดดอกเบี้ย 25 bps ในการประชุมดังกล่าว และอีก 25 bps ในการประชุมเดือน ธ.ค. นี้ หนุน Sentiment กลุ่มไฟแนนซ์อย่าง MTC
เราคาดว่ากำไรของ MTC เติบโต 12%/8% ในปี 68-69 หนุนจากการเติบโตของสินเชื่อ และคุณภาพสินทรัพย์ที่ดี อีกทั้งบริษัทเห็นแนวโน้มที่ดีขึ้นของราคารถยนต์มือสอง หนุนให้การขาดทุนรถยึดลดลงเทียบกับปี 67 ในขณะที่ ราคาปัจจุบัน ถูกซื้อขาย PBVปี 68 ที่ 2.1 เท่า (-1SD ของค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี)

Technical View
แนวรับ : 40.75 บาท
แนวต้าน : 43.50 บาท
จุดตัดขาดทุน : 40.00 บาท

KEY FACTOR

ตลาดการเงินโลกสะท้อนความคาดหวังการผ่อนคลายทางการเงินทั่วโลก นำโดย การประชุม FOMC ซึ่งคาดว่าจะลดดอกเบี้ย 0.25% บวกกับส่งสัญญาณผ่อนคลาย ทางการเงินต่อเนื่อง (รู้ผลเช้าวันที่ 30 ต.ค. ตามเวลาไทย) 1) หุ้นสหรัฐฯปรับตัวขึ้นในช่วง +0.23% ถึง +0.80% 2) อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ แกว่งทรงตัวต่ำกว่า 4% 3) Dollar Index ยังต่ำกว่าระดับ 99 จุด และก่อนที่จะมีการลงนามขยายระยะเวลาสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ ออกไปก่อนเส้นตาย 10 พ.ย. และสหรัฐฯ อาจพิจารณาลดภาษีนำเข้า หากจีนเข้มงวดการส่งออกสารตั้งต้นผลิตเฟนทานิล

ทางฝั่งยุโรป ECB (ประชุมวันที่ 29-30 ต.ค.) มีแนวโน้มที่จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย หลังจากได้เริ่มรอบการผ่อนคลายนโยบายไปก่อนหน้านี้แล้ว ทั้งนี้ คาดว่าประธาน ECB จะยังส่งสัญญาณคงท่าทีระมัดระวัง ท่ามกลางเศรษฐกิจยุโรปที่ยังเปราะบาง พร้อมๆ กับอัตราเงินเฟ้อที่ยังสูงกว่ากรอบเป้าหมาย

EYES ON
ในสัปดาห์ รายงานงบฯ 3Q68 กลุ่ม Real Sector
30 ต.ค. ผู้นำจีน-สหรัฐฯ มีกำหนดเจรจาการค้า, ผลการประชุม FOMC และ ECB, GDP 3Q68 ของสหรัฐฯ และ Eurozone
31 ต.ค. PMI ภาคการผลิตและบริการของสหรัฐฯ

นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ, ออมทรัพย์ โง้วศิริ