Company Note
Prima Marine

การขยายกองเรืออย่างต่อเนื่องจะผลักดันกำไรให้เติบโต มูลค่ายังไม่สะท้อนพื้นฐาน

เราคาดกำไร 3Q25F ของ PRM จะเติบโตทั้ง YoY และ QoQ หลักๆ มาจากรายได้และกำไรของธุรกิจ FSU ที่เติบโตจากการรับรู้รายได้เต็มไตรมาสของเรือ FSU ลำใหม่ที่มีอัตราค่าเช่าสูง เสริมด้วยธุรกิจ OSV แนวโน้มกำไรใน 4Q25F อาจจะลดลงเล็กน้อย QoQ เนื่องจากมีเรือ VLCC เข้าอู่ แต่แนวโน้มกำไรปีหน้ายังเติบโตต่อเนื่อง เนื่องจากบริษัทจะยังมีเรือใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง เรามองว่าราคาหุ้น PRM ยังอยู่ในระดับต่ำ และมี Dividend Yield ที่โดดเด่น จึงยังคงคำแนะนำ “ซื้อ”

คาดกำไร 3Q25F เติบโตทั้ง YoY และ QoQ จาก Utilization Rate ที่สูงขึ้นของธุรกิจ FSU

เราคาดกำไรสุทธิใน 3Q25F อยู่ที่ 560 ลบ. เติบโต 25% YoY และ QoQ แต่หากไม่รวม FX loss ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 10 ลบ.ในไตรมาสนี้ กำไรปกติจะอยู่ที่ 570 ลบ. โต 9% YoY และ 6% QoQ หลักๆมาจากรายได้ที่คาดว่าจะเติบโต 6% YoY และ 4% QoQ จากการให้บริการเต็มไตรมาสของเรือ FSU ลำใหม่ที่มีอัตราค่าเช่าสูง โดยคาดว่า Utilization rate จะเพิ่มขึ้น YoY และ QoQ เป็น 93.4% จาก 82.4% และ 88.1% รวมถึงรายได้ของธุรกิจ OSV ที่เติบโต แต่รายได้ธุรกิจ PCT ลดลงเนื่องจากหน้าฝนคนเดินทางท่องเที่ยวน้อยลง ประกอบกับผลกระทบจากความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทยกัมพูชาทำให้ต้องมีการเปลี่ยนเส้นทางในช่วงแรกๆ ส่วนธุรกิจ COC คาดมีรายได้ใกล้เคียงกับ 2Q25 ส่วน Gross margin คาดว่าจะดีขึ้น YoY จาก 36.3% เป็น 36.8% แต่ใกล้เคียงกับ 2Q25 ที่ 37%

คาดกำไรปีหน้าเติบโตจากเรือที่เพิ่มขึ้น แต่แนวโน้ม 4Q25F จะลดลงเนื่องจากมีเรือเข้าอู่

เราคาดว่ากำไรของบริษัทในปีหน้า จะยังคงเติบโตต่อเนื่องจากการใช้กำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น โดยเรือใหม่ที่ทยอยเข้ามาในปีนี้จะสามารถดำเนินงานได้เต็มปี ซึ่งจะช่วยผลักดันรายได้ให้สูงขึ้น นอกจากนี้บริษัทมีแผนทยอยรับเรือใหม่ในกลุ่ม PCT ที่สั่งต่อไว้จำนวน 6 ลำ โดยจะเริ่มรับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปีหน้าเป็นต้นไป ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและอัตราค่าเช่า ส่งผลบวกต่อรายได้และอัตรากำไรขั้นต้นของบริษัท อีกทั้งบริษัทยังคงมีแผนขยายกองเรืออย่างต่อเนื่อง โดยจะมีการรับมอบเรือเคมีลำใหม่ปลายเดือนตุลาคม ซึ่งในช่วงแรกจะรับงาน Spot ไปก่อน 3-6 เดือนก่อนเซ็นสัญญา Time Charter นอกจากนั้นบริษัทยังมีแผนจะเพิ่มเรือ Crew Boat อีก 2 ลำให้บริการกับลูกค้ารายใหม่ และอยู่ระหว่างการเจรจากับลูกค้าในการเพิ่มค่าระวางเรือ AWB 2 ลำ อีกทั้งบริษัทยังอยู่ระหว่างประมูลงานเรือ AHTS อีกด้วย แต่กำไร 4Q25F อาจลดลง QoQ เนื่องจากมีเรือ VLCC เข้าอู่ประมาณ 45 วัน แต่คาดว่าจะยังเติบโต YoY จากฐานที่ต่ำในปีก่อน

คงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าเหมาะสม 10 บาท

เรามีแผนปรับประมาณการกำไรลงหลังประกาศงบ 3Q25 เพื่อสะท้อนจำนวนเรือ FSU ที่น้อยลงในช่วง 5 เดือนแรกและสถานการณ์ในปัจจุบัน ณ ตอนนี้เรายังคงประมาณการกำไรและราคาเป้าหมายที่ 10 บาท โดยอิงจาก PER ปี 2025F ที่ 9 เท่า ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีไว้ และเรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” PRM เนื่องจากแนวโน้มยังดี ราคาหุ้นยังถูก และปันผลดีประมาณ 7-8% ปัจจัยเสี่ยงคือความผันผวนของราคาพลังงาน ซึ่งอาจกระทบต่อดีมานด์การใช้เรือและต้นทุนดำเนินงาน และบาทแข็ง โดยทุก 1 บาท/US$ ที่แข็งค่าขึ้นจะกระทบรายได้ 40 ล้านบาท/ไตรมาส