Company Note
Osotspa
คาดกำไรหลัก 3Q25F เติบโต YoY แต่ลดลง QoQ จาก energy drink ในประเทศเพิ่มขึ้น แต่ส่งออกลดลงตามปัจจัยฤดูกาล ส่วนแบ่งการตลาดรวม 3Q25 ของกลุ่ม M-150 ลดลงจาก 40bps QoQ อยู่ที่ 44.4% และเดือน ก.ย.25 อยู่ที่ 44% ลดลง 50bps เทียบกับ ธ.ค.24 แนวโน้มผลประกอบการ Q4 คาดลดลงจากช่วงค่าใช้จ่ายปลายปีที่เพิ่มขึ้น แม้ว่าคาดยอดขายจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากยอดขายในเมียนมาที่คาดจะเพิ่มขึ้น เราปรับประมาณการลงสะท้อนแนวโน้มผลประกอบการทั้งปีของ energy drink ต่ำกว่าที่คาดไว้ ราคาเป้าหมายใหม่อยู่ที่ 18 บาท
คาดกำไรสุทธิ 3Q25F เพิ่มขึ้น YoY แต่ลดลง QoQ
เราคาด OSP จะมีกำไรสุทธิ 3Q25F ที่ 703 ล้านบาท พลิกจาก 3Q24 ที่รับรู้ขาดทุน 361 ล้านบาท (โดยหากไม่รวมรายการพิเศษตั้งสำรองขาดทุนจากการขายธุรกิจขวดแก้วในเมียนมา เราคาดกำไรหลักจะเพิ่มขึ้น 5% YoY) แต่ลดลง -30% QoQ โดยรายได้รวมลดลงคาดลดลง -4% YoY และ -15% QoQ มาจาก 1) กลุ่มเครื่องลดลง YoY และ QoQ โดยแบ่งเป็น energy drink ในประเทศเพิ่มขึ้นจากการทำการตลาด ส่วนแบ่งการตลาด 3Q25 ลดลง 40bps QoQ มาอยู่ที่ 44.4% จาก 2Q25 ที่ 44.8% สำหรับ energy drink ต่างประเทศลดลง โดยเฉพาะในเมียนมา ตามปัจจัยฤดูกาลและผลกระทบในการขนส่งจากแผ่นดินไหว 2) ธุรกิจ personal care คาดลดลง YoY และ QoQ จากช่วง low seasonal 3) ธุรกิจ OEM รับจ้างผลิตสินค้าขวดลดลง YoY แต่ทรงตัว QoQ จากการปิดโรงงานขวดแก้วก่อนหน้านั้นและการเน้นผลิตให้สินค้าตนเองมากขึ้น อัตราทำกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น YoY จากการบริหารจัดการต้นทุนที่ดีขึ้น แต่ลดลง QoQ ตามรายได้ที่ลดลง โดยเฉพาะธุรกิจต่างประเทศ ด้านค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายคาดลดลง YoY แต่ทรงตัว QoQ จากการควบคุมค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
ปรับประมาณการลง คาดกำไรหลักเติบโตเฉลี่ยปีละ 8% (CAGR3Y) จากการบริหารควบคุมต้นทุน
แนวโน้ม 4Q25F เราคาดรายได้จะเติบโตได้ QoQ จากผ่านจุดต่ำสุดของธุรกิจต่างประเทศใน Q3 แล้ว แต่คาดกำไรสุทธิอ่อนตัวลงจากช่วงปลายปีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น เราปรับประมาณปี 2025-26F ลดลงจากคาดเดิม 2% และ 7% ตามลำดับ การสะท้อนผลประกอบการ 9M25F ต่ำกว่าที่คาดไว้เดิม เราคาดประมาณการกำไรหลักปี 2025-26F เติบโตเฉลี่ยปีละ 8% (CAGR3Y) โดยคาดรายได้กลุ่มเครื่องดื่ม energy drink ปี 2025F เพิ่มขึ้นเล็กน้อย จาก คาดส่วนแบ่งการตลาด M-150 ในประเทศจะเพิ่มขึ้นตั้งแต่ 3Q25F เป็นต้นไป จากการทำการตลาดเพิ่ม M-150 ราคาปลีก 10 บาท ดึงส่วนแบ่งการตลาดที่เพิ่มขึ้น สำหรับธุรกิจ Personal care เราคาดปีนี้เติบโต 2% และปีหน้า 5% จากการออกสินค้าใหม่เพิ่มขึ้น คาดอัตราทำกำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นเป็นหลักจากการบริหารจัดการควบคุมต้นทุนเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต และต้นทุน packaging ที่ลดลง คาดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาจากการควบคุมค่าใช้จ่าย
เปลี่ยนคำแนะนำเป็น “ถือ” จาก “ซื้อ” ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 18 บาท
จากการปรับกลยุทธ์การตลาดใหม่เน้นขยายตลาด Traditional trade เพื่อดึงส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้น ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 18 บาท อ้างอิง PER forword-1SD ของ OSP อยู่ที่ 15X (จากเดิม อ้างอิง Per forward ที่ 22x) จากกลุ่มเครื่องดื่มพลังงานในประเทศ และธุรกิจ Personal Care มีการแข่งขันสูง ราคาหุ้นปัจจุบันมี PER26F อยู่ที่ 13.9X และมี Dividend Yield 26F น่าสนใจ อยู่ที่ 7.2% โอกาส : การขยายตลาดส่งออก ความเสี่ยง : ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นมากกว่าคาด, ต้นทุน commodities ที่สูงขึ้น, เศรษฐกิจชะลอตัว