Equality for All
OSP : บมจ.โอสถสภา
3Q25 คาดกำไรสุทธิหดตัวแรง q-q จากปัจจัยฤดูกาล และจากปีก่อนขาดทุน : โดยผลการดำเนินงานจะต่ำกว่าที่เราเคยคาดจากผลกระทบทั้งตลาดต่างประเทศที่ได้รับผลจากปัจจัยฤดูกาล และในส่วนของใช้ส่วนบุคคลยอดขายต่ำกว่าคาด เราคาดยอดขายรวมอยู่ที่ 5,810 ลบ. หด -4% y-y และ -15% q-q ดังนี้
กลุ่มเครื่องดื่ม : (สัดส่วน 84%) คาดยอดขาย 4,793 ลบ. เพิ่ม +8% y-y และ +6% q-q โดยในประเทศยังเติบโตได้ทั้ง y-y และ q-q ทั้งจากเครื่องดื่มชูกำลังและกลุ่ม Functional drink ขณะที่ต่างประเทศคาดยอดขายจะหดตัว -13% y-y และ -55% q-q จากปัจจัยฤดูกาล รวมถึงการปิดด่านในพม่า, ปัญหาความไม่สงบในอินโดนีเซีย และปัญหาในกัมพูชา
กลุ่มของใช้ส่วนบุคคล : (สัดส่วน 11%) คาดยอดขายอยู่ที่ 667 ลบ. หด -5% y-y และ -8% q-q ยอดขายกลุ่มกลุ่มนี้ต่ำกว่าที่เคยคาดจากการแข่งขันที่มากในประเทศ ขณะที่ตลาดต่างประเทศได้รับผลกระทบจากปัจจัยที่กล่าวข้างต้นเช่นกัน ส่วนตลาดใหม่ ๆ อย่างเวียดนามแม้ยังเติบโตแต่ไม่สามารถชดเชยการอ่อนตัวของยอดขายในตลาดหลักได้
อัตรากำไรขั้นต้น : คาด 38.4% ดีขึ้นจาก 36.1% ใน 3Q24 จากราคาวัตถุดิบที่ลดลง แต่หากลดจาก 41.9% ใน 2Q25 จากสัดส่วนยอดขายในต่างประเทศ และยอดขายของใช้ส่วนบุคคลที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงลดลง
ค่าใช้จ่ายขายและบริหาร ยังควบคุมได้ดีและใช้อย่างเหมาะสมทำให้ค่าใช้จ่ายขายและบริหารต่อยอดขายใกล้เคียง q-q ที่ 24.4% แต่ลดจาก 26% ใน 3Q24
คาดกำไรปกติอยู่ที่ 698 ลบ. +4% y-y และ -31% q-q และคาดไม่มีรายการพิเศษทำให้มีกำไรสุทธิ 698 ลบ. +293% y-y แต่ -31% q-q เนื่องจากปีก่อนมีตัดด้อยค่าเงินลงทุนเกิดขึ้น
ส่วนแบ่งตลาดเดือน ก.ย.ฟื้นตัว m-m : จากข้อมูล AC Nielsen แจ้งมูลค่าตลาดเครื่องดื่มชูกำลังเดือน ก.ย. -2.7% y-y โดย OSP มีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มเป็น 44% จาก 43.9% m-m ขณะที่ในส่วนของ CBG อยู่ที่ 26.6% จาก 27.3% m-m
สินค้าอื่น ๆ ที่ OSP ดำเนินธุรกิจอยู่ส่วนใหญ่มูลค่าตลาดหดตัวลง y-y จากกำลังซื้อที่อ่อนแอโดยเฉพาะกลุ่ม ของใช้ส่วนบุคคล
ปรับประมาณการลง 4% : จากแนวโน้มการดำเนินงานที่ดูอ่อนแอกว่าที่คาดทั้งจากในประเทศ และต่างประเทศ ทำให้เรามีปรับลดประมาณการลง 4% จากเดิม แม้เราคาดว่าจะเห็นการฟื้นตัว q-q ก็ตาม แต่อาจฟื้นตัวจำกัดกว่าที่เคยคาด ปรับลดยอดขายลงเหลือ 25,837 ลบ. ลดลง -5% y-y ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นคาดยังทำได้ดีจากการควบคุมบริหารจัดการภายใน รวมถึงในส่วนค่าใช้จ่ายขายและบริหารเช่นกัน
ปรับกำไรปกติลงเหลือ 3,378 ลบ. +11% y-y และปรับสุทธิลงเหลือ 3,673 ลบ. เพิ่มขึ้น +124% y-y เนื่องจากมีรายการพิเศษเกิดขึ้นปีก่อน -1,400 ลบ. ขณะที่ในปีหน้าเราคาดว่าการดำเนินงานอาจขยายตัวได้ไม่มากแล้ว โตได้เพียง +2% y-y เราปรับลด P/E เหลือ 18.0x สะท้อนการเติบโตที่ลดลง ราคาเหมาะสมอยู่ที่ 20.70 บาท/ หุ้น
ผิดหวังเล็กๆ
“แนวโน้มกำไร 3Q25 อาจดูน้อยกว่าที่เราเคยคาดไปจากปัจจัยแวดล้อมหลายอย่างที่ทำให้ไม่เป็นดังคาด แม้ภาพ 4Q25 จะฟื้นตัวแต่อาจไม่เด่นมากนัก สิ่งที่ OSP ยังทำได้ดีคือการคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ
เราชอบน้อยลง แต่ยังถือว่าราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขาย P/E25E ที่ 13.6x ไม่แพงหากเทียบกับกลุ่ม และผลตอบแทนเงินปันผล 6.0% ต่อปี เน้นตั้งรับจะดีกว่าในเวลานี้”
นารี อภิเศวตกานต์
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน #17971
naree.a@liberator.co.th