Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

บล.เอเซีย พลัส : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

109

 

เอนเอียงมาหุ้นมีปัจจัยโลกหนุน

HORIZON MARKET VIEW
วันศุกร์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวขึ้นราว 0.8%-1.2% จากหลายปัจจัยบวก เริ่มจากตัวเลข CPI ของสหรัฐฯ เดือน ก.ย. ต่ำกว่าคาด อีกทั้ง ตัวเลข PMI ภาคการผลิต ของ S&P GLOBAL ประจำเดือน ต.ค.68 ออกมาสูงกว่าคาด จึงเพิ่มความคาดหวังว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) จะมีพื้นที่ “ลดดอกเบี้ย" เร็วกว่าที่คิด

ส่วนสหรัฐฯ และจีน บรรลุฉันทามติทางการค้า ข้อตกลงจะครอบคลุมการควบคุมการ ส่งออก, การระงับภาษี, มาตรการเกี่ยวกับ FENTANYL และค่าธรรมเนียม SECTION 301 (สินค้าจีนไปสหรัฐฯ) โดยสหรัฐฯ จะยกเว้นภาษี 100% สำหรับสินค้าจีน ส่วนจีนจะสั่งซื้อถั่ว เหลืองของสหรัฐฯ + คาดว่าจะเลื่อนการบังคับใช้มาตรการส่งออกแร่ RARE EARTH ออกไปประมาณ 1 ปี ซึ่งต้องติดตามการเจรจาของ 2 ผู้นำในวันพฤหัสบดีนี้ว่าจะมี ผลลัพธ์เหมือนแนวทางตามที่ รมต.คลังของทั้ง 2 ประเทศคุยกันหรือไม่

 

REGION RADAR
สรุปการประชุม 4TH PLENUM โดยในช่วง 5 ปีข้างหน้า จีนจะให้ ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยีในด้าน AI และพลังประมวลผล รวมถึง เซมิคอนดักเตอร์ และเครื่องมือไฮเอนด์ แนะนำเก็งกำไรหุ้นกลุ่ม ชิป SMIC23 และ HUAHONG23

สัปดาห์นี้มี EVENT สำคัญคือ ASEAN SUMMIT 2025 ติดตามการ เจรจากันระหว่าง TRUMP และ XI JINPING หากสหรัฐฯ-จีน บรรลุ กรอบข้อตกลงการค้าเบื้องต้นได้จะส่งผลสหรัฐฯ ชะลอการขึ้นภาษี 100% และจีนจะเลื่อนมาตรการควบคุมการส่งออก RARE EARTH

 

THAI FOCUS
เช้านี้จับตาตัวเลขส่งออกไทยเดือน ก.ย. 68 คาด +7.4%YOY ฟื้นตัวจากเดือนก่อนที่ +5.8%YOY ตามค่าเงินบาทที่อ่อนค่าช่วงก่อนหน้านี้ และตัวเลขส่งออกประเทศเพื่อนบ้านเดือน ก.ย. 68 ที่ฟื้นตัวขึ้น

การลงนามถ้อยแถลงร่วมสู่สันติภาพไทย-กัมพูชาที่มี "ทรัมป์" ลงนามเป็นไปด้วยดี ซึ่งคาดว่าจะทำให้สถานการณ์ชายแดนเบาลง และข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐ-ไทย ฉบับใหม่ ซึ่งทั้งสองประเทศจะเจรจารายละเอียดและลงนามข้อตกลงภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

 

SYNAPSE STRATEGY
การเจรจาสหรัฐกับจีน ไทยกับกัมพูชาคืบหน้า ต่อเนื่องด้วย FED น่าจะลดดอกเบี้ย 29 ต.ค. หนุนเม็ดเงินไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยงใน สัปดาห์นี้ต่อ หลังต่างชาติซื้อหุ้นไทยสัปดาห์ที่แล้ว 7.7 พันล้านบาท

กลยุทธ์การลงทุนเอนเอียงไปหุ้นมีปัจจัยโลกหนุน 3 ธีม คือ หุ้น CHINA PLAY: SCGP, IVL, SCC หุ้น TARIFF PLAY: DELTA, KCE, HANA, TU, ITC, CPF, WHA, AMATA, PTTEP และหุ้น CAMBODIA PLAY: CBG, DOHOME, GLOBAL

 

HORIZON MARKET VIEW

หลายปัจจัยผ่อนคลายลง หนุนเม็ดเงินไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยงต่อเนื่อง
วันศุกร์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวขึ้นราว 0.8%-1.2% จากหลายปัจจัยบวก เริ่มจากตัวเลข CPI (ดัชนีราคาผู้บริโภค) ของสหรัฐฯ เดือน ก.ย.68 อยู่ที่ 3.0% YOY ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 3.1%YOY เช่นเดียวกับ CORE CPI ที่ออกมาต่ำคาดเช่นกัน อีกทั้ง ตัวเลข PMI ภาคการผลิตของ S&P GLOBAL ประจำเดือน ต.ค.68 ออกมา 52.2 จุด ดีกว่าคาดที่ 52.0 จุด จึงเพิ่มความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) จะมีพื้นที่ “ลดดอกเบี้ย" เร็วกว่าที่คิด โดย FED WATCH TOOL คาดว่าการประชุม 2 ครั้งในช่วงที่เหลือของปี จะลดดอกเบี้ยทั้ง 2 ครั้ง ครั้งละ 25 BPS. ด้วยความน่าจะเป็น >90%

 

ขณะที่งบ 3Q68 ของ S&P500 ออกมา 145 บริษัท ดีกว่าตลาดคาด 7.70% ซึ่งสัปดาห์นี้ติดตามงบ 3Q68 ของ META PLATFORMS, MICROSOFT, ALPHABET, AMAZON.COM และ APPLE ซึ่งเป็น 5 ใน 7 บริษัทในกลุ่ม "MAG-7" ซึ่งนักลงทุนคาดหวังว่ากำไรจะออกมา BEAT ESTIMATE ได้ แม้อัตราการเติบโต YOY ของกลุ่ม MAG-7 อาจชะลอลงตามการลงทุนด้าน AI ที่มากขึ้นของบริษัท และยังไม่สามารถสร้างรายได้ในเร็ววัน

 

ส่วนอีกประเด็น คือ สหรัฐฯ และจีน บรรลุฉันทามติทางการค้า ข้อตกลงจะครอบคลุมการควบคุมการส่งออก, การระงับภาษี, มาตรการเกี่ยวกับ FENTANYL และค่าธรรมเนียม SECTION 301 (สินค้าจีนไปสหรัฐฯ) โดย สหรัฐฯ จะยกเว้นภาษี 100% สำหรับสินค้าจีน ส่วนจีนจะสั่งซื้อถั่วเหลืองของสหรัฐฯ + คาดว่าจะเลื่อนการบังคับ ใช้มาตรการส่งออกแร่ RARE EARTH ออกไปประมาณ 1 ปี ซึ่งต้องติดตามการเจรจาของ 2 ผู้นำในวันพฤหัสบดี นี้ว่าจะมีผลลัพธ์เหมือนแนวทางตามที่ รมต.คลังของทั้ง 2 ประเทศคุยกันหรือไม่

 

อย่างไรก็ตาม 5 พ.ย.68 ศาลฎีกาไต่สวนคดีภาษีนำเข้าของทรัมป์ ซึ่งทาง BLOOMBERG ประเมินว่าภาษีนำเข้า ภายใต้ IEEPA คิดเป็น 71% ของภาษีทั้งหมดที่ทรัมป์ประกาศในปีนี้ ซึ่งหากศาลตัดสินให้ยกเลิก อัตราภาษีนำเข้า เฉลี่ยของอเมริกาจะลดลงจาก 17.4% เหลือเพียง 6.8% และคาดว่ารัฐบาลสหรัฐฯจะสูญเสียรายได้ที่ราว 2.8 ล้านล้านดอลลาร์ จนถึงปี 2035 ซึ่งเป็นประเด็นที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด

 

REGION RADAR

สรุปการประชุม 4th PLENUM กลุ่มชิปได้ประโยชน์มากที่สุด
สรุปการประชุม 4th PLENUM โดยในช่วง 5 ปีข้างหน้า จีนจะให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยีในด้าน AI และพลังประมวลผล รวมถึง เซมิคอนดักเตอร์ และเครื่องมือไฮเอนด์ เพื่อตอบสนองความต้องการเชิงกลยุทธ์ ระดับชาติ อีกทั้งภาคส่วนที่จะเป็นตัวขับเคลื่อนตลาดในระยะต่อไปคือ โครงสร้างพื้นฐานด้านการประมวลผล การ ขับขี่อัจฉริยะ และการผลิตอัจฉริยะ

 

จากการนับคำ (WORD COUNT) สำหรับการประชุมในครั้งนี้เมื่อเทียบกับครั้งก่อนหน้าพบว่า ลำดับ ความสำคัญของนโยบายเพิ่มขึ้นในประเด็นดังนี้ 1.เทคโนโลยี (TECHNOLOGY), 2. เสถียรภาพ (STABILITY), 3. การบริโภค (CONSUMPTION) และ 4. การควบคุมความเสี่ยง (RISK CONTROL)

 

สำหรับสัปดาห์นี้มี EVENT สำคัญคือ ASEAN SUMMIT 2025 โดยติดตามการเจรจากันระหว่างประธานาธิบดี TRUMP และ XI JINPING หากสหรัฐฯ-จีน บรรลุกรอบข้อตกลงการค้าเบื้องต้นได้จะส่งผลสหรัฐฯ ชะลอการขึ้นภาษี 100% และจีนจะเลื่อนมาตรการควบคุมส่งออกแร่ RARE EARTH ซึ่งจะส่งผลให้ต้นทุนในการผลิตชิปลดลง

 

จากทั้งการประชุม 4th PLENUM และการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่มีความคืบหน้า คาดเป็นบวกต่อหุ้นกลุ่ม ดังต่อไปนี้ 1. กลุ่มชิป SMIC (981 HK), HUA HONG (1347 HK) 2. กลุ่ม BIG TECH: ALIBABA (9988 HK), BAIDU (9999 HK) และ 3. กลุ่มบริโภคภายในประเทศ: MEITUAN (3690 HK), JD.COM (9618 HK)

 

THAI FOCUS

ปัจจัยในประเทศมีอะไรที่ควรทราบบ้าง
เริ่มที่เช้านี้จับตาตัวเลขส่งออกไทยเดือน ก.ย. 68 คาดขยายตัวดีขึ้น อยู่ที่ +7.4%YOY ฟื้นตัวจากเดือนก่อนที่ +5.8%YOY ตาม TRADE TARIFF ที่ผ่อนคลายลง ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าช่วงก่อนหน้านี้ และตัวเลขส่งออกประเทศ เพื่อนบ้านเดือน ก.ย.68 ที่ฟื้นตัวขึ้น ขณะที่แนวทางไว้อาลัยพระบรมราชชนนีพันปีหลวงเสด็จสวรรคต ตาม แนวทางรัฐฯที่ออกไปในทางผ่อนคลายการปรับรูปแบบการนำเสนอสื่อ การจัดกิจกรรมบางส่วนที่จะลดระดับ รูปแบบตามความเหมาะสม อาจจะสร้าง SENTIMENT เชิงลบต่อการท่องเที่ยว และการใช้จ่ายภายในประเทศอยู่ บ้าง ซึ่งกลุ่มหุ้นที่อิงประเด็นดังกล่าว คือ กลุ่มสื่อ กลุ่มท่องเที่ยว เป็นต้น

 

ส่วนการลงนามถ้อยแถลงร่วมสู่สันติภาพไทย-กัมพูชาที่มี “ทรัมป์” ประธานาธิบดีสหรัฐลงนามเป็นพยานเป็นไปด้วยดี ซึ่งคาดว่าจะทำให้สถานการณ์ชายแดนเบาลง ส่วนกรอบข้อตกลงการค้าต่างตอบแทนระหว่าง ไทย-สหรัฐฯ ลงนามกรอบความตกลงการค้าต่างตอบแทน มีรายละเอียด ดังนี้

 

ไทยยกเลิกภาษีสินค้าสหรัฐฯ 99% และเปิดตลาดสินค้า-บริการ-ดิจิทัล

สหรัฐฯ คงภาษีสินค้าจากไทย 1% แต่บางรายการลดเหลือ 0%

ไทยงดภาษีบริการดิจิทัล เปิดเสรีข้อมูลข้ามพรมแดน

ไทยมีดีลซื้อสินค้าสหรัฐฯ: สินค้าเกษตร 2.6 พันล้านเหรียญฯ, พลังงาน 5.4 พันล้านเหรียญฯ, เครื่องบิน 1.88 หมื่นล้านเหรียญฯ

 

ซึ่งทั้งสองประเทศจะเจรจารายละเอียดและลงนามข้อตกลงฉบับจริงภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ก่อนเข้าสู่กระบวนการให้สัตยาบันในประเทศ เพื่อให้ข้อตกลงมีผลบังคับใช้

 

SYNAPSE STRATEGY
พอร์ตการลงทุนเน้นหุ้นเก็งกำไรหุ้นอิงปัจจัยโลกบวก
การเจรจาสหรัฐกับจีน ไทยกับกัมพูชาคืบหน้า ต่อเนื่องด้วย FED น่าจะลดดอกเบี้ย 29 ต.ค. หนุนเม็ดเงินไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยงในสัปดาห์นี้ต่อ หลังต่างชาติซื้อหุ้นไทยสัปดาห์ที่แล้ว 7.7 พันล้านบาท อย่างไรก็ดีนักลงทุนต้องระวังการขายทำกำไร หรือ SELL ON FACT หลัง 30 ต.ค. หากการเจรจาการค้าแบบเต็มรูปแบบไม่ได้มีพัฒนาการเชิงบวกเพิ่มเติม และยังจะเข้าสู่ช่วงศาลไต่สวนเรื่อง TARIFF ของปธน.ทรัมป์ 5 พ.ย. ที่จะถึง

กลยุทธ์การลงทุนเอนเอียงไปหุ้นมีปัจจัยโลกหนุน 3 ธีม คือ หุ้น CHINA PLAY : SCGP, IVL, SCC หุ้น TARIFF PLAY : DELTA, KCE, HANA, TU, ITC, CPF, WHA, AMATA, PTTEP และหุ้น CAMBODIA PLAY : CBG, DOHOME, GLOBAL




จัดทำโดย
ภราดร เตียรณปราโมทย์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ภวัต ภัทราพงศ์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 117985
สิริลักษณ์ พันธ์วงค์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

เสด็จสู่สวรรคาลัย By : แม่มดน้อย

เสด็จสู่สวรรคาลัย....สถิตกลางใจประชาราษฎร์ น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดไม่ได้ แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ..

MASTEC เริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ วันแรก

MASTEC เริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ วันแรก

"PTG -สโมสรฟุตบอล พีที ประจวบ เอฟซี" รวมพลังทำดีเพื่อสังคม

"PTG -สโมสรฟุตบอล พีที ประจวบ เอฟซี" รวมพลังทำดีเพื่อสังคม

มัลติมีเดีย

หุ้นอินไซด์ทอล์ค : รู้จักพื้นฐาน ATLAS เคาะราคาไอพีโอที่ 3 บาทต่อหุ้น เปิดจองซื้อ 7-10 ตุลาคมนี้

หุ้นอินไซด์ทอล์ค : รู้จักพื้นฐาน ATLAS เคาะราคาไอพีโอที่ 3 บาทต่อหุ้น เปิดจองซื้อ 7-10 ตุลาคมนี้

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้