Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

เอ็มเอ็มเอ็ม แคปปิตอล สรุปราคาไอพีโอที่ 5.50 บาท/หุ้น เปิดขาย28-30ต.ค.68

106


สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(27 ตุลาคม 2568)--------------บริษัท เอ็มเอ็มเอ็ม แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) MMM ประเภทธุรกิจตัวแทนการขายอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยทุกประเภทให้กับเจ้าของโครงการ เช่น บ้านเดี่ยว บ้านแฝด บ้านทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียม เป็นต้น รวมถึงการวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดและการขายผ่านเครือข่ายนายหน้าอิสระ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังทำธุรกิจซื้อขายอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยมือสอง โดยนำมาปรับปรุงซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพที่ดีก่อนนำออกจำหน่ายผ่านเครือข่ายนายหน้าอิสระ เปิดเผยว่า บริษัทได้สรุปราคาเสนอขายหุ้นไอพีโอที่ 5.50 บาทต่อหุ้น ระยะเวลาการเสนอขายวันที่ 28 ตุลาคม 2568 - 30 ตุลาคม 2568

หุ้นที่เสนอขายไม่เกิน 64,200,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 21.40 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯในครั้งนี้

โดยเป็นการเสนอขาย (1) หุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ จำนวน 52,200,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 17.40 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ ในครั้งนี้ และ (2) หุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดย บริษัท ณัชชา โฮลดิ้ง จำกัด จำนวน 12,000,000 หุ้นคิดเป็นร้อยละ 4.00 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯในครั้งนี้


สัดส่วนการเสนอขายหุ้น

ประเภทผู้ลงทุน จำนวนหุ้นที่เสนอขาย (หุ้น) สัดส่วนที่เสนอขาย (ร้อยละ)

1. บุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ ไม่น้อยกว่า 54,570,000 85.00
2. ผู้มีอุปการคุณของบริษัทฯ ไม่เกิน 9,630,000 15.00

รวมทั้งหมด 64,200,000 100.00

ในกรณีที่มีหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เหลือจากการจัดสรรเพื่อเสนอขายให้แก่ผู้มีอุปการคุณของบริษัท ให้นำหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เหลือดังกล่าวไปจัดสรรเพื่อเสนอขายต่อบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ต่อไป

 

ที่มาของการกำหนดราคาเสนอขายและข้อมูลทางการเงินเพื่อประกอบการประเมินราคาหุ้นที่เสนอขาย

การกำหนดราคาของหุ้นสามัญของบริษัทฯ ที่จะเสนอขายในครั้งนี้ กระทำโดยการประเมินมูลค่าหลักทรัพย์ของบริษัทฯ ด้วยวิธีอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (Price to Earnings Ratio : P/E) ทั้งนี้ ราคาหุ้นสามัญที่เสนอขายหุ้นละ 5.50 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิเท่ากับ 11.14 เท่า (ก่อนการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้) และคิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิเท่ากับ 13.41 เท่า (ภายหลังการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้) โดยคำนวณกำไรสุทธิต่อหุ้นจากผลการดำเนินงานในช่วง 4 ไตรมาสล่าสุด ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฏาคม 2567 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2568 ซึ่งมีกำไรสุทธิรวมเท่ากับ 122.30 ล้านบาท และคำนวณจากจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วภายหลังเสนอขายต่อประชาชนในครั้งนี้จำนวน 300,000,000 หุ้น (Fully diluted) จะได้กำไรสุทธิต่อหุ้นประมาณ 0.41 บาทต่อหุ้น

 

สัดส่วนหุ้นของ “ผู้มีส่วนร่วมในการบริหาร” ที่ไม่ติด Silent Periodจำนวน 54,997,900 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 18.33 ของจํานวนหุ้นที่ออกและเรียกชําระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯภายหลังการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้

 

วัตถุประสงค์การใช้เงิน จำนวนเงินที่ใช้ (ล้านบาท) ระยะเวลาที่ใช้เงินโดยประมาณ

1. เพื่อใช้วางเงินประกันสัญญาในธุรกิจการให้บริการที่ปรึกษางานขายโครงการ (BU1) สัญญาการบริหารงานขายโครงการ (BU2) และสัญญาและบริหารงานขายแบบวางหลักประกันการซื้อ (Hybrid) ไม่เกินร้อยละ 200.97 ภายในปี 2569

2. เพื่อใช้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ในธุรกิจการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ (BU3) ไม่เกินร้อยละ 57.42 ภายในปี 2569

3. เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการรองรับการขยายธุรกิจ ส่วนที่เหลือจาก (1) และ (2) ภายในปี 2569

รวมทั้งหมด 287.10

การประมาณการจำนวนเงินดังกล่าวเป็นไปตามแผนธุรกิจปัจจุบันของบริษัทฯ ทั้งนี้ แผนงานของบริษัทฯ ในอนาคต และค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงอาจแตกต่างไปจากการประมาณการที่กล่าวข้างต้น และทำให้บริษัทฯ อาจมีความจำเป็นต้องจัดสรรเงินที่จะได้รับจากการเสนอขายหลักทรัพย์ในครั้งนี้แตกต่างไปจากวัตถุประสงค์การใช้เงินที่ระบุไว้ข้างต้น โดยกรณีดังกล่าวบริษัทฯ จะดำเนินการให้เป็นไปตามประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ที่ สจ. 63/2561 เรื่องการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์การใช้เงินตามแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวน


บริษัทฯ มีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 40.00 ของกำไรสุทธิจากงบการเงินเฉพาะกิจการ ของบริษัทฯ ภายหลังการหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และการจัดสรรเงินทุนสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายและข้อบังคับของบริษัทฯ

 


ในปี 2565 – 2567 และงวดหกเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2568 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิเท่ากับ 35.09 ล้านบาท 47.74 ล้านบาท 80.76 ล้านบาท และ 31.93 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิร้อยละ 20.62 ร้อยละ 18.49 ร้อยละ 22.39 และ ร้อยละ 20.48 ตามลำดับ


ในปี 2566 บริษัทฯ มีอัตรากำไรสุทธิลดลงจากปีก่อน เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการบริหารสูงขึ้น จากค่าธรรมเนียมวิชาชีพและค่าที่ปรึกษาสำหรับการเตรียมความพร้อมในการระดมทุนและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไลฟ์เอ็กเช้นจ์ (LiVEx) และตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ประกอบกับการเพิ่มจำนวนพนักงานเพื่อรองรับแผนการขยายธุรกิจของบริษัทฯ

 

ในปี 2567 บริษัทฯ มีอัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากปีก่อน เนื่องจากรายได้จากการขายและบริการที่เพิ่มขึ้น และอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงขึ้น ประกอบกับค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงานฝ่ายบริหารที่ไม่ได้เพิ่มขึ้นมากเมื่อเปรียบเทียบกับการเติบโตของรายได้


งวดหกเดือนแรก ปี 2568 บริษัทฯ มีอัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนเล็กน้อย แม้ว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะลดลงร้อยละ 2.52 อย่างไรก็ดี อัตรากำไรสุทธิยังปรับตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจากการค่าใช้จ่ายในการบริหารของบริษัทฯ ลดลงร้อยละ 7.92 ทั้งจากค่าธรรมวิชาชีพ และค่าที่ปรึกษาสำหรับการเตรียมความพร้อมในการระดมทุนและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) รวมถึงค่าใช้จ่ายในการบริหารอื่นๆ ที่เป็นค่าใช้จ่ายคงที่ เช่น ค่าใช้จ่ายพนักงานและผู้บริหาร ที่ไม่ได้เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับการเติบโตของรายได้

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

เสด็จสู่สวรรคาลัย By : แม่มดน้อย

เสด็จสู่สวรรคาลัย....สถิตกลางใจประชาราษฎร์ น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดไม่ได้ แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ..

MASTEC เริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ วันแรก

MASTEC เริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ วันแรก

มัลติมีเดีย

หุ้นอินไซด์ทอล์ค : รู้จักพื้นฐาน ATLAS เคาะราคาไอพีโอที่ 3 บาทต่อหุ้น เปิดจองซื้อ 7-10 ตุลาคมนี้

หุ้นอินไซด์ทอล์ค : รู้จักพื้นฐาน ATLAS เคาะราคาไอพีโอที่ 3 บาทต่อหุ้น เปิดจองซื้อ 7-10 ตุลาคมนี้

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้