
หุ้น DELTA กลับมาร้อนแรงอีกครั้ง ราคาทะยานขึ้นแตะระดับ Fibonacci 127.2% ที่ราว 206.50 บาท — จุดที่สะท้อนแรงซื้อมหาศาลจากทั้งกลุ่มเก็งกำไรและนักลงทุนที่มองอนาคตอุตสาหกรรม AI–EV แต่ในขณะเดียวกัน ก็เป็นระดับที่หลายคนเริ่มตั้งคำถามว่า…
“ราคานี้ยังสะท้อนพื้นฐานอยู่ไหม?”
ลองประเมินทุกมิติไปพร้อมกันครับ
การขึ้นมาถึง 127.2% — สัญญาณเตือนของแรงซื้อที่อาจหมดรอบ
กราฟ DELTA ล่าสุดแสดงการขึ้นแรงต่อเนื่องจนถึงโซน Fibonacci 127.2% @ 206.50 บาท
ซึ่งในเชิงเทคนิคถือเป็น “จุดเร่งสุดท้าย” ของขาขึ้นรอบใหญ่
เมื่อราคาวิ่งแรงขนาดนี้:
- โอกาสเกิด “การพักฐาน (Pullback)” หรือ “กลับตัวชั่วคราว” สูงมาก
- นักลงทุนที่เข้ามาช่วงต้นรอบ มักเริ่มทยอยขายทำกำไร
- ถ้าไม่มีปัจจัยใหม่มารองรับ เช่น งบโตแรงกว่าคาด หรือข่าวดีด้านอุตสาหกรรม ราคามักเข้าสู่ช่วง “ย่อเพื่อหาฐานใหม่”
ด้านพื้นฐานล่าสุด (Q2/2025) บริษัทมีรายได้เติบโตเพียง 6.5% YoY
แต่ กำไรสุทธิลดลงกว่า 29.5% YoY — จุดนี้คือสัญญาณ “แรงซื้อมากกว่าพื้นฐาน” อย่างชัดเจน
สรุป:
ราคาที่ขึ้นถึง 127.2% บ่งชี้แรงซื้อมหาศาล แต่ก็สะท้อน “ความร้อนแรงเกินจริง” และความเสี่ยงในการกลับตัว หากไม่มีปัจจัยใหม่หนุนในรอบถัดไป
งบ Q3/2025 (24 ต.ค. 68) – ราคานี้เกินมูลค่าหรือยัง?
มาดูตัวเลขพื้นฐานกันชัด ๆ
|
รายการ
|
ตัวเลขโดยประมาณ
|
|
รายได้ Q2/2025
|
44,490 ล้านบาท (+6.5% YoY)
|
|
กำไรสุทธิ
|
4,629 ล้านบาท (−29.5% YoY)
|
|
EPS 12 เดือนล่าสุด
|
~1.46 บาท
|
|
ราคาหุ้น (อิงกราฟ)
|
~200 บาท
|
|
P/E โดยประมาณ
|
≈ 137 เท่า!
|
แม้บทวิเคราะห์บางสำนักคาดว่า
- ปี 2025 กำไรอาจโต +11.6% YoY (ราว 21,130 ล้านบาท)
- ปี 2026 โตต่ออีก +36% (ราว 28,820 ล้านบาท)
แต่ถึงอย่างนั้น P/E ยังสูงเกิน 80–100 เท่า
ถือว่า “ราคานำหน้าอนาคตไปไกล” และเปิดช่องให้เกิดแรงขายได้ง่าย หากผลประกอบการไม่ถึงเป้า
สรุป:
ราคาช่วง 200 บาทสะท้อนความคาดหวังเกินจริง (Overvalued)
เว้นแต่งบ Q3 จะสร้างเซอร์ไพรส์เชิงบวก — ไม่เช่นนั้นความเสี่ยงในการ “ปรับฐานหลังประกาศงบ” มีสูงมาก
ความหมายของ “ติดแคชบาลานซ์” – เมื่อการเก็งกำไรแรงเกินพื้นฐาน
หลายคนสงสัยว่า “ติดแคชบาลานซ์” คืออะไร?
ตลาดหลักทรัพย์จะใช้มาตรการนี้ เมื่อหุ้นมีการซื้อขายผิดปกติ — เช่น ราคาพุ่งแรง หรือมีการเก็งกำไรสูงกว่าค่าเฉลี่ยปกติ
ความหมายสั้น ๆ:
หุ้นที่ “ติด Cash Balance” ต้องซื้อด้วยเงินสดเต็มจำนวน ห้ามใช้เครดิต หรือ Margin
ผลกระทบที่มักเกิดขึ้น:
- แรงซื้อจากรายย่อยลดลงทันที (เพราะใช้วงเงินไม่ได้)
- ราคาหุ้นมักเข้าสู่ภาวะ “พักตัวหรือย่อแรง” ชั่วคราว
- หุ้นที่พื้นฐานยังดี มักฟื้นหลังพ้นระยะ 3 สัปดาห์
- หุ้นที่ราคานำหน้าพื้นฐาน มักเข้าสู่รอบปรับฐานระยะกลาง
ในกรณีของ DELTA —
ด้วยราคาที่สูงกว่าปัจจัยพื้นฐานและ P/E ระดับเกิน 100 เท่า
หากมีการวิ่งแรงต่อเนื่อง ก็เข้าข่ายเสี่ยง ถูกเข้ามาตรการ Cash Balance ได้ง่ายมาก
สรุป:
Cash Balance ไม่ได้แปลว่าหุ้นไม่ดี
แต่หมายถึง “แรงเก็งกำไรสูงผิดปกติ”
และบ่งชี้ว่า “ตลาดกำลังส่งสัญญาณเตือนให้ระวัง”
บทสรุปภาพรวมความเสี่ยง DELTA
|
มิติ
|
สถานะปัจจุบัน
|
ความเสี่ยง
|
|
ราคาเทียบเทคนิค
|
ขึ้นแตะ 127.2% @206.50
|
เสี่ยงพักฐานหรือกลับตัว
|
|
พื้นฐาน Q2/25
|
รายได้โตแต่กำไรลด 29.5%
|
ผลประกอบการยังไม่รองรับราคา
|
|
มูลค่า (P/E)
|
~130–140 เท่า
|
สูงกว่าค่าเฉลี่ยตลาดหลายเท่า
|
|
งบ Q3 (24 ต.ค. 68)
|
ความคาดหวังสูง
|
ถ้าผิดคาด = แรงขายทันที
|
|
Cash Balance
|
มีโอกาสเข้ามาตรการ
|
ลดแรงซื้อและสภาพคล่อง
|
มุมมองเชิงกลยุทธ์
- ผู้ถืออยู่แล้ว:
แนะนำทยอยขายหรือปรับลดพอร์ตบางส่วน เพื่อป้องกันแรงย่อหลังประกาศงบ
- ผู้รอจังหวะเข้า:
ยังไม่เหมาะจะ “ไล่ราคา” ควรรอให้ราคาย่อตัวมาที่โซนฐานใหม่ หรือรอผ่านรอบ Cash Balance ก่อน
- นักลงทุนระยะยาว:
DELTA ยังเป็นบริษัทเทคโนโลยีที่แข็งแกร่งในเชิงธุรกิจ
แต่ “ราคาปัจจุบัน” สะท้อนอนาคตมากเกินไป — ควรรอจังหวะที่ Valuation สมเหตุสมผลกว่านี้
บทสรุปสุดท้าย
DELTA วันนี้ ไม่ใช่หุ้นน่ากลัว — แต่เป็นหุ้น “น่าระวัง”
เพราะราคานำหน้ากำไรไปไกล
และเมื่อแรงซื้อสะสมมากเกินไป … ตลาดย่อมต้องพักหายใจ