วันจันทร์ที่ผ่านมาดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดช่วงเวลาการซื้อขาย โดยมีแรงซื้อหนุนจากหุ้นกลุ่ม Big-Cap นำโดย อิเล็กทรอนิกส์พลังงาน และค้าปลีก ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาการประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/68 ของบริษัทจดทะเบียน ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,284.47 จุด +9.86 จุด +0.77% มูลค่าการซื้อขาย 36,556 ลบ. Program Trading +980.5 ลบ. ต่างชาติ+73.2 ลบ. TFEX +17,744 สัญญาตราสารหนี้-662.3 ลบ.

ปัจจัยบวก
+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 515.97 จุด หรือ +1.12% โดยหุ้นกลุ่มการเงินและกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้นนำตลาด ขานรับผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียน และนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับคุณภาพสินเชื่อของธนาคารระดับภูมิภาคในสหรัฐฯ รวมทั้งความหวังว่าการชัตดาวน์หน่วยงานของรัฐบาลจะสิ้นสุดลงในสัปดาห์นี้
+ หลังจากการชัตดาวน์ย่างเข้าสู่วันที่ 20เควิน แฮสเซ็ตต์ ที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว กล่าวว่า การปิดหน่วยงานรัฐบาลหรือชัตดาวน์ มีแนวโน้มสิ้นสุดลงในสัปดาห์นี้ แต่หากยังไม่เกิดขึ้นรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์อาจใช้มาตรการที่เข้มงวดขึ้นเพื่อบังคับให้พรรคเดโมแครตให้ความร่วมมือ
+ ปากีสถานและอัฟกานิสถานยืนยันว่าได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิงเพื่อยุติการโจมตีข้ามพรมแดน และส่งเสริมการเคารพในบูรณภาพแห่งดินแดนของกันและกัน นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยืนยันว่าจะแก้ไขข้อพิพาทผ่านการเจรจาและหลีกเลี่ยงการโจมตีกองกำลังความมั่นคงพลเรือน หรือโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของอีกฝ่าย
+ ครม.เศรษฐกิจ เห็นชอบมาตรการเศรษฐกิจด้านพลังงานภายใต้นโยบาย ควิก บิ๊ก วิน ของกระทรวงพลังงาน ซึ่งจะเป็นการลดค่าครองชีพให้กับประชาชน สร้างรายได้ชุมชน และเตรียมพร้อมอุตสาหกรรมเป้าหมายให้ลงทุนในไทย โดยมี 3 มาตรการ 9 โครงการ

ปัจจัยลบ
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 2 เซนต์ หรือ -0.03% ปิดที่ 57.52 ดอลลาร์/บาร์เรล นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มอุปทานน้ำมันล้นตลาด และสถานการณ์ตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนจะส่งผลกระทบต่อและความต้องการใช้น้ำมัน
- ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ กดดันอย่างหนักให้ประธานาธิบดี โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ยอมยกดินแดนบางส่วนให้รัสเซียและหยุดยิงตามแนวรบปัจจุบัน พร้อมปฏิเสธคำขอขีปนาวุธพิสัยไกลโทมาฮอว์ก สร้างความผิดหวังแก่คณะผู้แทนจากกรุงเคียฟ
- ส.อ.ท.หารือ ธปท. วันนี้ (21 ต.ค.) แก้ปมค่าเงินบาทที่ผันผวนย้ำภาวะเศรษฐกิจไตรมาส 4 น่าเป็นห่วงจากหลายปัจจัยเสี่ยงคาด GDP ไตรมาส 4 อาจโตเพียง 0.3% ส่งผล GDP ตลอดทั้งปีนี้ขยายตัวได้เพียง 2%

แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสปรับตัวขึ้นตามทิศทางตลาดโลก โดยมีแรงหนุนจากความหวังที่ว่าการชัตดาวน์หน่วยงานของรัฐบาลจะสิ้นสุดลงในสัปดาห์นี้ ขณะที่ในประเทศมีแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มธนาคารที่ประกาศงบดีกว่าตลาดคาด คาดกรอบดัชนีในวันนี้ 1,280-1,290 จุด

กลยุทธ์การลงทุน
-ปลดล็อกขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารช่วง 14.00-17.00 น. : CBG MENA BJC CPALL CPAXT TNP KK MOTHER
- โครงการคนละครึ่งพลัส : CPALL BJC CPAXT CBG OSP SAPPE TNP MOTHER
- เงินบาทกลับมาอ่อนค่า : CPF TU ITC BTG TFG
- Direct PPA : GULF BGRIM GPSC EGCO RATCH
- มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว : MINT ERW CENTEL AWC BA AAV