Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

InnovestX คาดวันนี้ SET "ยังผันผวนสูงในกรอบ"

108

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 21 ตุลาคม 2568)----InnovestX บริษัทหลักทรัพย์ในกลุ่ม SCBX ออกบทวิเคราะห์ประจำวันที่ 21 ตุลาคม 2568 คาดตลาดไซด์เวย์ การขึ้นยังติด 1290/1300 ในขณะที่การลงมีแนวรับหลัก 1270-1266 ยังแกว่งตัวผันผวนสูงในกรอบ รอเบรก ติดตามการพบกันระหว่างสก็อตต์ เบสเซนต์ รมว.คลังสหรัฐฯ กับเหอ ลี่เฟิง รองนายกฯ จีน ขณะที่โอกาสในการลดดอกเบี้ยเฟดปลายเดือนหนุน วันนี้ ครม. พิจารณามาตรการสนับสนุนการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นผลที่เกิดจากการประชุมครั้งที่แล้ว ส่วน ครม. เศรษฐกิจวานนี้อนุมัติโครงการโซลาร์ ติดตามการประชุมพรรคคอมมิวนิสต์จีน 4th Plenum ต่อ

 

ประเด็นสำคัญ
• ประชาชนใช้สิทธิ์ลงทะเบียน “คนละครึ่งพลัส” ครบ 20 ล้านเสียงในวันเปิดลงทะเบียนวันแรก รมว. คลังกำลังพิจารณาขยายสิทธิ์เพิ่มเติม หากมีผู้รับสิทธิ์ไม่ใช้จ่ายภายในวันที่ 11 พ.ย. นี้ สิทธิ์ดังกล่าวจะถูกโอนไปให้ประชาชนรายใหม่ในเฟสต่อไปใน ม.ค. 2569
• รมว. พลังงานประกาศลดราคาเบนซินและดีเซลเพิ่มเติมอีก 30 และ 50 สต./ลิตร ตามลำดับ มีผลในวันนี้ และได้เสนอให้ที่ประชุม ครม. เศรษฐกิจและมีมติเห็นชอบ 3 มาตรการลดค่าครองชีพผ่านการลดค่าไฟฟ้า คือ โครงการประมูล Direct PPA, 4 โครงการโซลาร์ และการสร้างความยั่งยืนรองรับ Net Zero 2050 ซึ่งรวมถึงการเร่งปรับปรุงแผน PDP ทั้งหมดเป็นส่วนหนึ่งของนโยบาย Quick Big Win
• จีนเผยตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญใน ก.ย. 2568 ส่วนใหญ่สูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ ได้แก่ 3Q68 GDP ของจีนขยายตัว 4.8%YoY, ยอดค้าปลีกใน ก.ย. 2568 ขยายตัว 3.0%YoY และผลผลิตภาคอุตสาหกรรมใน ก.ย. 2568 ขยายตัว 6.5%YoY แต่การลงทุนสินทรัพย์ถาวรช่วง 9M68 พลิกหดตัว 0.5%YoY ผิดจากที่ตลาดคาดว่าจะขยายตัว 0.1%YoY
• การประชุม รมต. พลังงานของ EU มีมติเห็นชอบข้อเสนอการยุติการนำเข้าพลังงานจากรัสเซียโดยสมบูรณ์ก่อนวันที่ 1 ม.ค. 2571 โดยข้อเสนอดังกล่าวจะถูกนำเสนอต่อที่ประชุมสภาสหภาพยุโรปเพื่อเห็นชอบอีกครั้ง ปัจจุบัน EU นำเข้าก๊าซฯ จากรัสเซียเพียง 12% ของการนำเข้าทั้งหมด จากในปี 2565 ที่เคยนำเข้าในสัดส่วน 45%
• ผู้ให้บริการระบบ Cloud AWS ของ Amazon (AMZN.US) เกิดเหตุขัดข้องครั้งใหญ่ ทำให้เว็ปไซด์และแอปฯ หลายพันแห่งทั่วโลก รวมถึง Snapchat และ Reddit ได้รับผลกระทบ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นเวลาหลายชั่วโมงก่อนที่ระบบต่างๆ กลับมาใช้งานได้ เป็นเหตุชะงักทางอินเตอร์เน็ตครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เหตุการณ์ CrowdStrike ในปี 2567


กลยุทธ์การลงทุน
ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัวผันผวนในกรอบ 1270-1320 ประเมินความเสี่ยงหลัก คือ สงครามการค้าสหรัฐฯ กับจีนจะมีต่อเนื่องจนกว่าทั้งสองฝ่ายจะเจรจาในช่วงก่อนประชุม APEC ปลายเดือน ต.ค. นี้, การประชุม คกก. พรรคคอมมิวนิสต์จีน (20–23 ต.ค.) คาดจะส่งสัญญาณสนับสนุนด้านเทคโนโลยี, การบริโภค และจำกัดการเพิ่มขึ้นของกำลังการผลิตใหม่, เงินเฟ้อ ก.ย. ของสหรัฐฯ (24 ต.ค.) อาจมีผลต่อตลาดไม่มากนัก โดยมองเฟดมีแนวโน้มลดดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือของปีนี้ และงบ 3Q68 ของ บจ. สหรัฐฯ มีแนวโน้มออกมาดีกว่าตลาดคาด โดย 6 ใน 11 กลุ่มอุตสาหกรรมคาดจะปรับตัวขึ้น YoY ได้ ด้านปัจจัยในประเทศติดตามแผนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มของรัฐบาล, ตัวเลขส่งออกไทย ก.ย. 2568 ที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง และงบ 3Q68 ของ บจ. ไทย โดยกลุ่มธนาคารใหญ่จะประกาศงบสัปดาห์หน้าและถัดไปจะเป็นกลุ่ม Real Sector

 

แนวรับ – แนวต้าน : 1270/1266– 1290/1300


ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์
ช่วงสั้นมอง SET จะเคลื่อนไหวผันผวนจากความเสี่ยงภายนอกเป็นหลัก กลยุทธ์ลงทุนแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 2 ธีมหลักและ 3 ธีมเทรดดิ้ง ดังนี้
1. หุ้น Earnings Play ซึ่งคาดผลการดำเนินงาน 3Q68 จะยังเติบโตดีทั้ง QoQ และ YoY และเราแนะนำ Outperform จากแนวโน้มธุรกิจดีและราคาหุ้นยังมี Upside ได้แก่ ADVANC BCP KTB LHSC OR PTT TRUE
2. หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากเข้าสู่วัฏจักรดอกเบี้ยขาลง โดยเราคาด กนง. จะมีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายปีนี้อีก 1 ครั้งในเดือน ธ.ค. และปีหน้า 2 ครั้งในช่วง 1H69 อาทิ หุ้นที่จะมีต้นทุนการเงินลดลง เพราะมีภาระหนี้สินซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยลอยตัวสูง แนะนำ CENTEL GPSC TRUE และหุ้นที่จะมีต้นทุนการดำเนินการลดลง หรือ กำลังซื้อผู้บริโภคดีขึ้น แนะนำ AP MTC TIDLOR
3. Trading Idea: นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้และต้องการเก็งกำไร แนะนำ 1) หุ้นที่คาดได้อานิสงส์ค่าเงินบาทอ่อนค่าในช่วงที่ผ่านมา แนะนำ TU GFPT KCE HANA 2) หุ้นที่มีโอกาสได้ประโยชน์จากสงครามการค้าจีน-สหรัฐมีความตึงเครียดเพิ่มขึ้น แนะนำ WHA AMATA FTREIT และ 3) หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากกำลังซื้อที่จะดีขึ้น จากรัฐผลักดันนโยบายสร้างรายได้ ลดค่าครองชีพ แนะนำ CPALL CPAXT และ BJC

 

Daily Top Picks
KTB: มีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากโมเมนตัมกำไรสุทธิ 3Q68 คาดจะเติบโตสูงที่สุดในกลุ่ม เนื่องจากประเมินกําไร FVTPL จากเงินลงทุนใน THAI 1.4 หมื่นลบ. (1 บาท/หุ้น) KTB มีความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ตํ่ากว่าธนาคารใหญ่อื่นๆ มี ROE ที่ดีกว่า Valuation ถูก และคาด Div. Yield ปี 2568 ที่ราว 6.3% เป้าหมายระยะสั้น 26.50 บาท

HANA: มีปัจจัยกระตุ้นสั้นจากการฟื้นตัวของหุ้นอิเล็กทรอนิคส์ในต่างประเทศ ความหวังต่อสินค้าใหม่ด้าน AI อย่าง Solid-state Cooling Device ที่บริษัทจะติดตั้งสายการผลิตใน 4Q68 และเริ่มผลิตใน 1H69 เป็นผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับ AI ที่มีโอกาสหนุนผลประกอบการในอนาคตและมีศักยภาพในการเติบโต เป้าหมายระยะสั้นที่ 24.60 บาท

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ลุยแบงก์ By : แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ เห็นแรงซื้อ แรงเก็งกำไรเข้ามาในหุ้นแบงก์หลายตัว หลังจาก BAY KBANK อวดโฉมกำไรไตรมาส3 ปีนี้ ....

มัลติมีเดีย

หุ้นอินไซด์ทอล์ค : รู้จักพื้นฐาน ATLAS เคาะราคาไอพีโอที่ 3 บาทต่อหุ้น เปิดจองซื้อ 7-10 ตุลาคมนี้

หุ้นอินไซด์ทอล์ค : รู้จักพื้นฐาน ATLAS เคาะราคาไอพีโอที่ 3 บาทต่อหุ้น เปิดจองซื้อ 7-10 ตุลาคมนี้

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้