Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

บล.เมย์แบงก์ : DELTA คงคำแนะนำ “ขาย” ปรับราคาเป้าหมายตามวิธี DDM ขึ้นเป็น 109 บาท

85

 

Delta Electronics (Thailand) (DELTA TB)
DELTA ซื้อขายที่พรีเมียมเมื่อเทียบกับกลุ่มหุ้น AI แม้มีอัตราการเติบโตต่ำกว่า

“ขาย” ราคาเป้าหมาย 109 บาท เนื่องจากมูลค่าสูงเกินจริง
เรายังคงคำแนะนำ “ขาย” หุ้น DELTA แต่ปรับราคาเป้าหมายตามวิธี DDM ขึ้นเป็น 109 บาท (จากเดิม 63 บาท) หลังปรับประมาณการกำไรหลักปี 68*69 ขึ้น 17%/21% เพื่อสะท้อนอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ที่สูงกว่าคาด แม้เราคาดว่ากำไรหลักของ DELTA จะเติบโต 10% ในปี 68 และ 25% ในปี 69 แต่เรายังคงคำแนะนำ “ขาย” เนื่องจากมูลค่าหุ้นที่สูงถึง PE ปี 69 ที่ 95 เท่า ซึ่งใกล้ระดับ +2SD ของค่าเฉลี่ย 5 ปี และสูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มหุ้นที่เกี่ยวข้องกับ AI ซึ่งอยู่ที่ PE ปี 69 เพียง 29 เท่า ปัจจัยเสี่ยงที่อาจกระตุ้นการปรับลดมูลค่าคือการที่นักวิเคราะห์ในตลาดปรับลดประมาณการกำไรปี 69 ลง โดยเราประเมินว่ากำไรปี 69 ของเราต่ำกว่าตลาดคาดประมาณ 8%


ปรับเพิ่มประมาณการกำไรหลักปี 68/69
เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรหลักปี 68/69 ขึ้น 17%/21% เพื่อสะท้อนอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงขึ้น ซึ่งได้แรงหนุนจากสัดส่วนผลิตภัณฑ์ AI ที่มากขึ้น และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) ที่ลดลง โดยคาดว่ากำไรหลักจะอยู่ที่ 2 หมื่นล้านบาท (+10% YoY) ในปี 68 และ 2.5 หมื่นล้านบาท (+25% YoY) ในปี 69 โดยการเติบโตในปี 69 จะได้แรงหนุนจากรายได้ของโรงงานใหม่ที่ Wellgrow 3 และ 4 ซึ่งคาดว่าจะเริ่มเดินเครื่องผลิตได้ภายใน 4Q68 รวมแล้วโรงงาน Wellgrow 3 และ 4 จะเพิ่มพื้นที่การผลิตของ DELTA ในประเทศไทยขึ้น 39%


คาดตลาดปรับลดคาดการณ์ปี 69
เรามองว่าตลาดมีแนวโน้มจะปรับลดประมาณการกำไรปี 69 เนื่องจากประมาณการ GPM ของนักวิเคราะห์สูงเกินจริง เราคาดว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐจะอ่อนค่าลงต่อในปี 69 และค่าใช้จ่าย SG&A ที่ตลาดคาดไว้นั้นต่ำเกินไป เมื่อเทียบกับ ค่าธรรมเนียมลิขสิทธิ์ (royalty payments) ที่ DELTA ต้องจ่ายให้บริษัทแม่สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากโรงงาน Wellgrow 3 และ 4 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นดีไซน์ของบริษัทแม่ นอกจากนี้ เรายังมองว่า มูลค่าหุ้น DELTA อยู่ในระดับพรีเมียมที่ไม่สมเหตุสมผล เมื่อเทียบกับแนวโน้มกำไร โดยค่า PEG ปัจจุบันอยู่ที่ 6.2 เท่า (PE ปี 68 ที่ 106 เท่า, อัตราเติบโตเฉลี่ยกำไรต่อหุ้นปี 68-70 อยู่ที่ 17%) ในขณะที่หุ้นกลุ่ม AI ระดับโลกมี PEG เฉลี่ยเพียง 1.5 เท่า (PE ปี 68 ที่ 31 เท่า EPS ปี 68-70 อยู่ที่ 21% CAGR)



คาดกำไรหลัก 3Q68 ที่ 4.9 พันล้านบาท
เราคาดว่า DELTA จะรายงานกำไรหลัก 3Q68 ที่ 4.9 พันล้านบาท (-17% YoY, +6% QoQ) การลดลง YoY มาจาก อัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลง เนื่องจากไม่มีการรับรู้กำไรจากการตีมูลค่าสินค้าคงคลังขนาดใหญ่เหมือนปีก่อน ขณะที่การเติบโต QoQ มาจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นและสัดส่วนผลิตภัณฑ์ AI ที่สูงขึ้น เราประมาณการเบื้องต้นว่า กำไรหลัก 4Q68 จะอยู่ที่ 5.4 พันล้านบาท (+164% YoY, +10% QoQ) โดยการเติบโต YoY ที่สูงจะมาจากฐานกำไรที่ต่ำใน 4Q67 ซึ่งมีค่าใช้จ่ายลิขสิทธิ์สูง และไม่มีส่วนลด (rebates) จำนวนมากเหมือนปีก่อน ทั้งนี้ DELTA มีกำหนดประกาศผลประกอบการในวันที่ 24 ตุลาคมนี้

 


Yugi Takeshima
yugi.takeshima@maybank.com
(66) 2658 5000 ext 1530

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้