สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(17 ตุลาคม 2568)-------ในวันที่โลกของการเงินการลงทุนมีความผันผวนสูงและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว บริดจ์ไวส์ (BridgeWise) ผู้นำระดับโลกด้านการวิเคราะห์ข่าวสารการลงทุนด้วย AI ได้เปิดตัววิดเจ็ต AltWise โซลูชันวิเคราะห์ข่าวสารการลงทุนด้วย AI สำหรับสินทรัพย์ทางเลือก เพื่อช่วยให้โบรกเกอร์และเทรดเดอร์รับมือกับโลกของการลงทุนที่ซับซ้อนมากขึ้นในปัจจุบัน โดยโซลูชันดังกล่าวครอบคลุมตั้งแต่ คริปโท ฟอเร็กซ์ รวมถึงสินค้าโภคภัณฑ์ อย่างน้ำมันดิบหรือทองคำ เป็นต้น

เมื่อตลาดการเงินทั่วโลกกำลังเข้าสู่ยุคแห่งการเปลี่ยนผ่าน นักลงทุนในยุคนี้ไม่ได้มองเพียงแค่การลงทุนในหุ้นและพันธบัตร ท่ามกลางความไม่แน่นอนของสถานการณ์ทั่วโลก อาทิ การปิดตัวของรัฐบาลสหรัฐฯ หรือชัตดาวน์ และความคาดหวังต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ราคาทองคำพุ่งทะยานมากกว่า 4,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ซึ่งนับว่าเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะเดียวกันสกุลเงินดิจิทัลยังได้รับความสนใจในฐานะเครื่องมือกระจายความเสี่ยง โดยมี Altcoins ที่กำลังกลายเป็นหนึ่งในทางเลือกสำหรับนักลงทุนที่ต้องการกระจายความเสี่ยงจากสินทรัพย์ที่ได้รับผลกระทบจากค่าเงินดอลลาร์

AltWise จึงเป็นคำตอบในฐานะโซลูชันสำหรับโบรกเกอร์ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ประเทศไทย ช่วยให้บริษัทหลักทรัพย์สามารถนำเสนอข้อมูลเชิงลึกที่ขับเคลื่อนด้วย AI อย่างชาญฉลาดให้กับลูกค้า ภายใต้ตลาดสินทรัพย์ทางเลือกที่ผันผวน โดย AltWise เป็นกรรมสิทธิ์ของ BridgeWise ที่ขับเคลื่อนด้วยโมเดลภาษาขนาดเล็ก (Small Language Model หรือ SLM) ซึ่งได้รับการพัฒนาสำหรับตลาดการเงินโดยเฉพาะ รองรับการวิเคราะห์เชิงลึกครอบคลุมสินทรัพย์หลายประเภท ในหลากหลายภาษา ผ่านการปรับแต่งวิดเจ็ต รวมถึงการวิเคราะห์ตลาดและข่าวสารการลงทุนรายวัน ซึ่งสามารถฝังลงไปในแพลตฟอร์มการซื้อขายโดยตรง ช่วยให้เทรดเดอร์ได้รับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสินทรัพย์ทางเลือกอย่างทันท่วงที

เทรนด์การเปลี่ยนแปลงระดับโลกในครั้งนี้ส่งผลต่อประเทศไทยด้วยเช่นกัน จากข้อมูลสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) รายงานว่าในเดือนกันยายน พ.ศ. 2568 มูลค่าตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลของประเทศไทยสูงถึง 10.45 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 9 หมื่นล้านบาทในปีที่ผ่านมา และมีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 2,496 ล้านบาท โดยเหรียญที่ได้รับความนิยมสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ Tether (45%), Bitcoin (12%), Ethereum (10%), Dogecoin (7%), และ Ripple (4%) จาก Altcoins ที่จดทะเบียนทั้งหมดกว่า 300 รายการ และจากข้อมูลของ ก.ล.ต. มีการเปิดบัญชีกับแพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศรวม 2.92 ล้านบัญชี โดยมีประมาณ 218,000 บัญชีที่มีการเทรดอย่างสม่ำเสมอทุกเดือน และมีจำนวนนักลงทุนรายย่อยสูงถึง 60% ของสัดส่วนผู้ลงทุนทั้งหมด

คุณดอร์ เอลิกูลา ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรกิจของบริดจ์ไวส์ กล่าวว่า “นักลงทุนรายย่อยที่เป็นลูกค้าของบริษัทหลักทรัพย์ต่างๆ มักเผชิญกับข้อจำกัดด้านข้อมูลการลงทุนที่ไม่เท่าเทียมกับกลุ่มสถาบันการเงินหรือเทรดเดอร์มืออาชีพ AI จึงเข้ามาสร้างความแตกต่างได้อย่างแท้จริง ช่วยให้บริษัทหลักทรัพย์ และโบรกเกอร์นำเครื่องมือวิเคราะห์อย่าง AltWise มาช่วยยกระดับการตัดสินใจและประสบการณ์ของนักลงทุน โดยเฉพาะตลาดในประเทศไทยที่มีผู้ลงทุนรายย่อยเข้าร่วมเป็นจำนวนมากและสินทรัพย์ดิจิทัลกำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน”

ด้วยความสามารถในการประมวลผลข้อมูลในหลากหลายภาษาพร้อมกับความแม่นยำของวิดเจ็ตที่ไม่มีใครเทียบ BridgeWise มีความมุ่งมั่นที่จะช่วยให้โบรกเกอร์ลดภาวะ information asymmetryหรือ ภาวะที่เทรดเดอร์ในตลาดมีข้อมูลไม่เท่าเทียมกัน พร้อมทั้งส่งเสริมศักยภาพให้นักลงทุนรายย่อยสามารถตัดสินใจบนพื้นฐานของข้อมูลอย่างครบถ้วนในตลาดการลงทุนที่ซับซ้อนอย่างสกุลเงินดิจิทัล
จับตาอนาคตของสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทย

การเปลี่ยนผ่านของตลาดการลงทุนแบบดั้งเดิมสู่สินทรัพย์ดิจิทัลและเหรียญ Altcoin ต่างๆ ไม่ได้จำกัดอยู่ที่ภาคเอกชนเท่านั้น ซึ่งในอนาคตของสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทย ยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างเห็นได้ชัดจากโครงการต่างๆ อาทิ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และกระทรวงการคลังต่างมุ่งมั่นเดินหน้าแผนงานในด้านสินทรัพย์ดิจิทัลของประเทศไทย อย่างโครงการ G-Token พันธบัตรดิจิทัลที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ และการศึกษาวิจัยต่อเนื่องเกี่ยวกับสกุลเงินบาทดิจิทัลของธนาคารแห่งประเทศไทย (Central Bank Digital Currency หรือ CBDC) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในยกระดับความก้าวหน้าด้านระบบการเงินของประเทศไทยที่ควรจับตามอง

“ประเทศไทยเป็นหนึ่งในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลที่กำลังเติบโตมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” คุณดอร์ เอลิกูลา กล่าวเสริม “วิสัยทัศน์และความก้าวหน้าของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในการกำกับดูแลโทเค็น รวมถึงการทดลองสกุลเงินบาทดิจิทัลของธนาคารแห่งประเทศไทย ล้วนเป็นสัญญาณของระบบนิเวศทางการเงินยุคใหม่ที่พร้อมจะพัฒนาไปอีกขั้น วิดเจ็ตอย่าง AltWise พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงนี้ เราไม่ได้เข้ามาแทนที่การตัดสินใจของมนุษย์ แต่เข้ามาช่วยลดความซับซ้อนของข้อมูลให้ชัดเจนและเข้าใจง่ายยิ่งขึ้น”