วันพฤหัสบดีที่ผ่านมาดัชเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดช่วงเวลาการซื้อขาย โดยมีแรงซื้อหนุนจากหุ้น DELTAและ GULF ขณะที่แรงขายนำโดยหุ้น PTT เป็นปัจจัยกดดันดัชนีปรับตัวขึ้นได้อย่างจำกัด โดยนักลงทุนจับตาการประกาศผลประกอบการงวด 3Q68 ของบริษัทจดทะเบียน ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่1,291.46 จุด +4.77 จุด +0.37% มูลค่าการซื้อขาย 33,202.91 ลบ. Program Trading -2,4044.94 ลบ.ต่างชาติ-2,003.83 ลบ. TFEX -8,142 สัญญา ตราสารหนี้-883.66 ลบ.

ปัจจัยบวก
+ สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านปรับตัวขึ้น 5 จุด สู่ระดับ37 ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 33
+ ผู้จัดการสำนักงานบริหารกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน(ส.กทอ.) ยืนยันพร้อมเดินหน้าตามนโยบาย Quick Big Win ของกระทรวงพลังงานและรัฐบาล โดยจะจัดสรรงบประมาณปี 2568 เพื่อสนับสนุนโครงการด้านอนุรักษ์พลังงาน เน้นความสำคัญโครงการที่เป็นชุมชนอยู่ในพื้นที่ทุรกันดาร ไฟฟ้ายังเข้าไม่ถึงเป็นหลัก
+ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ โพสต์ข้อความบน TruthSocial ระบุว่า จะพบกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียที่กรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี เพื่อเจรจาหาทางยุติความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน
+ ที่ประชุมวุฒิสภาพิจารณาผ่านร่างพระราชบัญญัติการขนส่งทางรางคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ได้ในปี 2569
+ สัปดาห์หน้าที่ประชุมครม.จะพิจารณา "4 มาตรการใหญ่" กระตุ้นกำลังซื้อเพิ่มการเดินทางเมืองรอง ครอบคลุมสิทธิลดหย่อนภาษี ซึ่งคาดว่าจะช่วยเพิ่ม GDP ปี 2568 ราว 0.05-0.06% สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนหลายหมื่นล้านบาท

ปัจจัยลบ
- ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 301.07 จุด หรือ -0.65% ถูกกดดันจากสัญญาณที่บ่งชี้ถึงความอ่อนแอของธนาคารระดับภูมิภาคในสหรัฐฯรวมทั้งความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดด้านการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 81 เซนต์ หรือ -1.39% ปิดที่57.46 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังมีรายงานว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ผู้นำสหรัฐฯ และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย จะพบปะกันที่ฮังการีในเร็ว ๆ นี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับการยุติสงครามในยูเครน ซึ่งอาจทำให้อุปทานน้ำมันในตลาดโลกเผชิญกับความไม่แน่นอน ขณะที่ EIAเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 3.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้วสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 300,000 บาร์เรล
- สหรัฐฯเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตในภูมิภาคมิดแอตแลนติก ดิ่งลง 36 จุดสู่ระดับ -12.8 ในเดือนต.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ+9.5 โดยดัชนีที่มีค่าเป็นลบบ่งชี้ถึงภาวะหดตัวของภาคการผลิตในภูมิภาคมิด-แอตแลนติกจากผลกระทบของการจ้างงานที่ชะลอตัวลง
- โฆษกกระทรวงพาณิชย์ของจีนกล่าวว่า มาตรการควบคุมการส่งออกแร่หายากของจีน เป็นมาตรการที่ชอบด้วยกฎหมายและสอดคล้องกับกฎระเบียบของจีน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาระบบการควบคุมการส่งออกให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสแกว่งตัวในลักษณะ Sideway ออกข้าง โดยนักลงทุนยังมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน ประกอบกับราคาน้ำ มันดิบ WTI ที่ปรับตัวลงต่อเนื่อง กดดันหุ้นกลุ่มพังงานมองกรอบดัชนีในวันนี้ 1,284-1,300 จุด

กลยุทธ์การลงทุน
- ปลดล็อกขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารช่วง 14.00-17.00 น. : CBG MENA BJC CPALL CPAXT TNP KKMOTHER
-โครงการคนละครึ่งพลัส : CPALL BJC CPAXT CBG OSP SAPPE TNP MOTHER
- เงินบาทกลับมาอ่อนค่า : CPF TU ITC BTG TFG
- Direct PPA : GULF BGRIM GPSC EGCO RATCH
- มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว : MINT ERW CENTEL AWC BA AAV