Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

TCL ส่ง C6K ลุยตลาดพรีเมียมเต็มตัว ชูเทคโนโลยี QD-Mini LED ให้ภาพ เสียง สีสมจริงที่สุด ยืนยันคุณภาพด้วยรางวัล EISA “GAMING TV 2025-2026” ทีวีสำหรับคอเกม

92


สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 16 ตุลาคม 2568)-------TCL ส่ง C6K หนึ่งในไลน์อัป C Series เดินเกมรุกตลาดทีวีพรีเมียม ชูเทคโนโลยี QD-Mini LED สุดล้ำ ขนาดหน้าจอ 55 – 98 นิ้ว ให้ภาพสีสมจริง คมชัดทุกมุมมอง หน้าจอแบบ HVA Panel ให้คอนทราสต์ที่สูงมาก สีสันสดใส และมุมมองภาพที่ดีขึ้น ยกระดับคุณภาพทั้งภาพและเสียง ด้วยฟีเจอร์ ขั้นสูง All-domain HaloControl ควบคุมรายละเอียดสูงสุด 512 โซน ระบบเสียง ONKYO 2.1 Hi-Fi และชิป AI อัจฉริยะ AiPQ Pro Processor ปรับแต่งภาพอัจฉริยะ เพื่อการรับชมอย่างสมบูรณ์แบบที่พัฒนาโดย TCL มอบประสบการณ์ความบันเทิงเต็มอิ่มทุกอารมณ์ คมชัดทุกฉาก ลึกทุกมิติ ดีไซน์ “Minimal Elegance” ลง EISA ตัวกับทุกไลฟ์สไตล์ในบ้าน ยืนยันคุณภาพด้วยรางวัล “GAMING TV 2025-2026” ทีวีสำหรับคอเกม ตอบโจทย์สายบันเทิง สายเกม และผู้บริโภคยุคใหม่

นายแกรี่ จ้าว กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีซีแอล อิเล็กทรอนิกส์ (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้นำระดับโลกด้านเทคโนโลยีเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน แบรนด์ทีวีระดับโลก เปิดเผยว่า TCL มุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยี QD-Mini LED เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคใหม่ โดยเฉพาะรุ่น C Series เพื่อยกระดับภาพลักษณ์ สู่แบรนด์เทคโนโลยีระดับพรีเมียมทั้งคุณภาพของภาพและเสียงระดับพรีเมียมที่เข้ากับดีไซน์ทันสมัย


ทั้งนี้ รุ่น C6K Premium QD-Mini LED หนึ่งใน C Series รุ่นนี้จะเหมาะกับคนที่อยากอัปเกรดจากทีวีทั่วไปสู่ Smart TV คุณภาพระดับพรีเมียม โดยยังคงไว้ซึ่งคุณภาพ ความแตกต่างด้วย ขนาด 55 - 75 นิ้ว ใช้หน้าจอแบบ HVA Panel เทคโนโลยีล่าสุดของ TCL และขนาด 85 และ 98 นิ้ว หน้าจอเป็นแบบจอแมตต์ Matte HVA Panel หรือจอแบบด้าน ช่วยลดแสงสะท้อน ไม่มีแสงรบกวน มาพร้อมกับ ภาพ4K HDR หรือ High HDR Brightness แม้ห้องสว่างแค่ไหนภาพก็คมชัดและมีชีวิตชีวาแม้แสงแดดส่องเข้ามา เพลิดเพลินไปกับทุกรายละเอียดที่ซ่อนอยู่ในฉากที่มีทั้งแสงและเงาได้อย่างชัดเจน


เทคโนโลยี All-domain Halo Control ครอบคลุมการควบคุมแสงแบบละเอียดสูงสุดถึง 512 โซน ด้วยการผสานระหว่าง ชิปกำเนิดแสงประสิทธิภาพสูง และ Condensed Micro Lens ที่พัฒนาโดย TCL ได้รับการรับรองด้วยสิทธิบัตรระดับโลกกว่า 34 รายการ ซึ่งเทคโนโลยีนี้ช่วยลดแสงฟุ้ง (halo) และเพิ่มความคมชัดให้กับภาพในทุกระดับ ทั้งความสว่าง พร้อมด้วย Algorithm ที่ควบคุมความลึกของแสงและเงาอย่างแม่นยำทำให้สามารถแสดงรายละเอียดของภาพได้อย่างสมจริงในทุกฉาก เทคโนโลยี HVA Panel พร้อมมุมมองกว้างพิเศษ ภาพสว่างและคมชัดจากทุกมุมมอง ช่วยให้สีดำลึกขึ้น และลดการรั่วของแสงรอบขอบภาพ เฉดสีสดใส เด่นชัด สะดุดตา ยกระดับการแสดงผลของหน้าจอให้มีคุณภาพในระดับ Ultra-high Contrast และ Ultra-wide Color Gamut


อีกทั้งมาพร้อมกับ ระบบเสียง ONKYO 2.1 Hi-Fi ที่ให้เสียงคมชัดทรงพลัง ครบมิติ ทั้งในฉาก แอ็กชันหนักหน่วงหรือซีนอารมณ์ละเอียดอ่อน เสริมด้วย AiPQ Pro Processor ชิป AI อัจฉริยะที่วิเคราะห์เนื้อหาบนหน้าจอแบบเรียลไทม์ ปรับแต่งคุณภาพของภาพโดยอัตโนมัติ ให้เหมาะสมที่สุดกับสิ่งที่กำลังรับชม พร้อมลดสัญญาณรบกวนของภาพอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยอัตรารีเฟรชสูงถึง 144Hz Native Refresh Rate ลื่นไหลทุกการเคลื่อนไหว ภาพชัดทุกรายละเอียดตั้งแต่การประมวลผลสัญญาณไปจนถึงการแสดงผล รุ่น C6K รองรับอัตรารีเฟรช 4K 144Hz แบบ Native เต็มระบบ ช่วยลดอาการกระตุกของภาพและมอบประสบการณ์รับชมที่ราบรื่นยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกับภาพเคลื่อนไหวความเร็วสูง รองรับ VRR (Variable Refresh Rate) สูงสุดถึง 288Hz ทำให้ C6K เหมาะสำหรับการดูหนังแอ็กชัน การแข่งขันกีฬา ไปจนถึงการเล่นเกม ที่ต้องการการตอบสนองไวและภาพลื่นไหลไม่มีสะดุด และรองรับการเชื่อมต่อที่ครบครัน ทั้ง Google TV, Google Assistant และระบบเสียงที่รองรับ Dolby Atmos สำหรับการออกแบบมาพร้อมแนวคิด "Minimal Elegance" เพื่อให้กลมกลืนได้กับทุกพื้นที่ภายในบ้าน ด้วยขอบจอบางเฉียบและตัวเครื่องแบบพรีเมียม ให้ความรู้สึกทันสมัย ทั้งในห้องนั่งเล่น ห้องดูหนัง หรือห้องทำงาน รองรับการแสดงผลความละเอียดระดับ 4K UHD เพื่อให้ทุกเฟรมเต็มไปด้วยรายละเอียดอันคมชัด


นอกจากนี้ TCL TV C6K Premium QD-MiniLED TV ที่ให้ภาพสีสมจริง คมชัดทุกมุมมอง รุ่นนี้ ยังถือเป็น Entry Premium ที่เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่มองหาความคุ้มค่ากับประสบการณ์ระดับพรีเมียมในราคาที่จับต้องได้ เหมาะสำหรับทั้งสายบันเทิงและสายเกม ด้วยฟีเจอร์ครบครัน โดย TV รุ่น C6K ขนาด 55 นิ้ว ยืนยันคุณภาพด้วยรางวัล EISA “GAMING TV 2025–2026” ถือเป็นรางวัลอันทรงเกียรติสูงสุด

ด้านนวัตกรรมเสียงและภาพของยุโรป โดยรุ่นนี้ถือเป็นรุ่นที่ตอบโจทย์เกมเมอร์ ที่ต้องการประสิทธิภาพขั้นสูงสุด มาพร้อม คุณสมบัติ Game Master Mode, AMD FreeSync Premium Pro และ SuperWide GameView ซึ่งเป็นฟีเจอร์สำหรับคอเกมที่ครบครันสำหรับการเล่นเกมที่เข้มข้น เน้นการตอบสนองเร็ว และช่วยเพิ่มความดื่มด่ำได้อย่างแท้จริง วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการผ่านตัวแทน TCL ทั่วประเทศแล้ววันนี้
“TCL ไม่เพียงแต่แข่งขันด้านคุณภาพและดีไซน์เท่านั้น แต่ยังมุ่งยกระดับประสบการณ์ทีวีภายในบ้านให้เป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ดิจิทัลยุคใหม่ TCL TV C6K Premium QD-MiniLED TV ถือเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายสำคัญที่สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของ TCL ในการขับเคลื่อนนวัตกรรมเทคโนโลยีเพื่อผู้บริโภคทั่วโลก ที่รวมความล้ำสมัย ความคุ้มค่า และฟังก์ชันอัจฉริยะไว้ในเครื่องเดียว” นายแกรี่ กล่าว


ซีบีอาร์อี เผยตลาด Branded Residence ในไทย ก้าวสู่ผู้นำในเอเชียแปซิฟิก มากกว่าความหรูหรา แต่คือมาตรฐานระดับโลกที่สร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพ

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 16 ตุลาคม 2568)--------ซีบีอาร์อี ประเทศไทย บริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำระดับโลก เผยภาพรวมตลาด Branded Residence ในประเทศไทยยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยมีภูเก็ตและกรุงเทพฯ เป็นเมืองหลักที่น่าจับตามอง อีกทั้งชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างที่สำคัญของตลาด Branded Residence ในประเทศไทย ซึ่งไม่ได้จำกัดอยู่แค่ดีไซน์ที่หรูหราและการบริการระดับโลกเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงมาตรฐานคุณภาพในทุกมิติของการอยู่อาศัยที่สร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค

นางสาวอาทิตยา เกษมลาวัณย์ หัวหน้าแผนกซื้อขายโครงการที่พักอาศัย ซีบีอาร์อี ประเทศไทย กล่าวว่า "ท่ามกลางความท้าทายทางเศรษฐกิจ ตลาด Branded Residence ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถก้าวข้ามผ่านวิกฤตเศรษฐกิจในทุกช่วงเวลาได้อย่างสวยงาม"

"ลูกค้าส่วนใหญ่มีความเชื่อมั่นในแบรนด์ และชื่นชอบงานบริการที่มาพร้อมกับแบรนด์นั้น ๆ แม้หลายคนอาจมองว่า Branded Residence โดดเด่นแค่เรื่องดีไซน์และการบริการ แต่ความจริงแล้ว ผู้ประกอบการโรงแรม (Hotel Operator) ได้เข้ามาร่วมกำหนดมาตรฐานในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในหลากหลายมิติเพื่อมุ่งเน้นให้ผู้อยู่อาศัยได้รับความสะดวกสบายสูงสุด อาทิ ขนาดห้องพัก วัสดุอุปกรณ์ที่เลือกใช้ในโครงการ พื้นที่ส่วนกลาง ตลอดจนถึงมาตรฐานงานระบบความปลอดภัย สุขอนามัย หรือแม้กระทั่งการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม มาตรฐานเหล่านี้ถูกยกระดับตามข้อกำหนดที่เป็นมาตรฐานสากลซึ่งถูกกำหนดมาจากแบรนด์โรงแรมต่างๆ ซึ่งอาจแตกต่างกันไปในรายละเอียดของแต่ละแบรนด์ แม้สิ่งเหล่านี้จะเพิ่มต้นทุนในการพัฒนา แต่ก็แลกมาด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงและได้มาตรฐานเดียวกันทั่วโลก มาตรฐานเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ส่วนประกอบที่สามารถ 'plug in' ได้ภายหลังจากที่โครงการสร้างแล้วเสร็จ แต่เป็นฐานรากของงานดีไซน์ที่ล้วนถูกออกแบบมาอย่างพิถีพิถันตั้งแต่เริ่มต้น ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับที่พักอาศัยได้อย่างยั่งยืน ทำให้ Branded Residence ได้รับความนิยมอย่างสูง ไม่ว่าเพื่อการอยู่อาศัยเองหรือเพื่อการลงทุน"

“นอกจากนี้ Branded Residence ยังดึงดูดกลุ่มผู้ซื้อจากหลากหลายประเทศทั่วโลกที่เชื่อมั่นในแบรนด์ และมั่นใจว่าจะได้รับมาตรฐานเดียวกันทั้งในด้านผลิตภัณฑ์และบริการ รวมถึงสิทธิประโยชน์ต่างๆ ในเครือโรงแรมทั่วโลกอีกด้วย” นางสาวอาทิตยา กล่าวเสริม

ปัจจุบันภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (APAC) กำลังก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางสำคัญของ Branded Residence อย่างน่าจับตา โดยมีสัดส่วนการครองตลาดของโครงการที่สร้างแล้วเสร็จในเอเชียแปซิฟิกอยู่ที่ 24% ตามหลังอเมริกาเหนือ ซึ่งมีส่วนแบ่ง 34% ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาโครงการที่สร้างแล้วเสร็จและโครงการที่อยู่ในระหว่างก่อสร้าง (Pipeline) คาดการณ์ว่าทั้งสองภูมิภาคจะมีส่วนแบ่งตลาดที่เท่ากันที่ 23% ซึ่งสะท้อนถึงศักยภาพการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของเอเชียแปซิฟิก

 


สำหรับประเทศไทยได้ก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาด Branded Residence ของเอเชียแปซิฟิกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ครองตำแหน่งประเทศที่มีโครงการที่สร้างแล้วเสร็จมากที่สุดในภูมิภาค ปัจจุบันประเทศไทยมีโครงการ Branded Residence ที่สร้างแล้วเสร็จกว่า 40 โครงการ ซึ่งเป็นจำนวนที่สูงที่สุดในเอเชียแปซิฟิก และเป็นลำดับถัดจากเวียดนามในแง่ของโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง อย่างไรก็ตาม เมื่อรวมโครงการที่สร้างแล้วเสร็จและโครงการที่อยู่ในระหว่างดำเนินการทั้งหมดแล้ว ประเทศไทยจะก้าวขึ้นเป็นประเทศที่มีจำนวน Branded Residence มากที่สุดในเอเชียแปซิฟิกและเป็นอันดับ 4 ของโลก รองจากสหรัฐอเมริกา สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเม็กซิโก นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาในระดับเมือง ภูเก็ตและกรุงเทพฯ นั้นติดอันดับเมืองน่าจับตา โดยภูเก็ตได้ก้าวขึ้นเป็นเมืองที่มี Branded Residence มากที่สุดเป็นอันดับ 5 ของโลก และกรุงเทพฯ อยู่ที่อันดับที่ 7 ของโลก

 

 

จากข้อมูลของซีบีอาร์อีในครึ่งแรกของปี 2568 พบว่า ภูเก็ตมี Branded Residence คิดเป็น 10% ของจำนวนยูนิตคอนโดมิเนียมทั้งหมด ขณะที่กรุงเทพฯ มี Branded Residence เพียง 1% ของจำนวนยูนิตคอนโดมิเนียมใจกลางเมืองทั้งหมด สะท้อนให้เห็นว่าที่พักอาศัยประเภทนี้มีจำนวนจำกัด ด้วยคุณสมบัติเฉพาะตัวทั้งด้านมาตรฐานระดับโลกและการบริหารจัดการภายใต้แบรนด์โรงแรมชั้นนำ อีกทั้งทำเลที่ตั้งก็ล้วนอยู่บนไพร์มโลเคชั่น Branded Residence จึงถือเป็น ‘แรร์ไอเท็ม’ ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ ที่ให้ผลตอบแทนที่เหนือกว่าและมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตอบโจทย์นักลงทุนที่มองหาทรัพย์สินที่มีเอกลักษณ์และความมั่นคง

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ประเทศไทยดึงดูดการลงทุนใน Branded Residence และมีการเติบโตมากที่สุดในเอเชียแปซิฟิก ประกอบด้วย การเติบโตของภาคการท่องเที่ยวที่แข็งแกร่งในฐานะจุดหมายปลายทางระดับโลก (Global Destination), ความพร้อมของระบบโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure), มาตรฐานของระบบบริการสุขภาพที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ระบบการศึกษาที่ได้มาตรฐาน ชื่อเสียงด้านการบริการและคุณภาพชีวิตที่ดี รวมถึงความคุ้มค่าและผลตอบแทนจากการลงทุน เนื่องจากราคาอสังหาริมทรัพย์มีศักยภาพในการทำกำไรและสร้างผลตอบแทนที่ดี ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้ภูเก็ตและกรุงเทพฯเป็นเมืองที่ได้รับประโยชน์สูงสุด และมีจำนวน Branded Residence มากที่สุดในโลก อีกทั้งความต้องการที่พักอาศัยหรูหราและไลฟ์สไตล์ที่เหนือระดับ ที่ต้องการความสะดวกสบายและคุณภาพชีวิตระดับสูง กำลังเป็นเทรนด์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

สำหรับนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนที่คุ้มค่า การลงทุนในคอนโดมิเนียมระดับลักซ์ชัวรี่ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเป็นอันดับต้น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โครงการที่ตั้งอยู่ในทำเลใจกลางเมือง ใกล้ระบบขนส่งสาธารณะ อาคารสำนักงานเกรดเอ และห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ยิ่งไปกว่านั้น หากโครงการเหล่านั้นได้รับการบริหารจัดการโดยแบรนด์ระดับโลก ก็ยิ่งเป็นการเพิ่มมูลค่าและความมั่นใจให้กับทั้งผู้ซื้อและผู้เช่า ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนระยะสั้นหรือระยะยาว การลงทุนในที่พักอาศัยประเภท Branded Residence โดยเฉพาะที่ได้สิทธิ์ความเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์อย่างถาวร (Freehold) จึงมอบผลตอบแทนที่น่าสนใจอย่างยิ่ง จากข้อมูลการซื้อขายของซีบีอาร์อี พบว่า ที่พักอาศัยประเภท Branded Residence ในทำเลเดียวกัน สามารถสร้างผลตอบแทนจากการปล่อยเช่า (Gross Yield) ได้สูงกว่าโครงการที่ไม่ใช่ Branded Residence ถึง 50%-80% ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพอย่างแท้จริง

“Branded Residence จึงถือกำเนิดขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ที่ปรารถนาการใช้ชีวิตเหนือระดับตามมาตรฐานโรงแรม 5 ดาว ซึ่งได้มาตรฐานเดียวกันทั่วโลก และยังสามารถเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ได้อย่างภาคภูมิ” นางสาวอาทิตยา กล่าว

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

NER ต้อนรับคณะสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย เยี่ยมชมโรงงาน จ.บุรีรัมย์

NER ต้อนรับคณะสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย เยี่ยมชมโรงงาน จ.บุรีรัมย์

เวียนกลุ่มเล่น By : แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ เช้านี้ เปลี่ยนหมุนเวียนกลุ่มเล่น จากหุ้นกลุ่มแบงก์ที่ดันตลาดฯ เป็น โรงไฟฟ้า, โรงพยาบาล.....

มัลติมีเดีย

หุ้นอินไซด์ทอล์ค : รู้จักพื้นฐาน ATLAS เคาะราคาไอพีโอที่ 3 บาทต่อหุ้น เปิดจองซื้อ 7-10 ตุลาคมนี้

หุ้นอินไซด์ทอล์ค : รู้จักพื้นฐาน ATLAS เคาะราคาไอพีโอที่ 3 บาทต่อหุ้น เปิดจองซื้อ 7-10 ตุลาคมนี้

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้