
FOMO ในตลาดหุ้น คือหนึ่งใน “กับดักทางอารมณ์” ที่ทรงพลังที่สุดของนักลงทุน โดยย่อมาจากคำว่า Fear of Missing Out แปลตรงตัวว่า “ความกลัวที่จะพลาดโอกาส” ซึ่งส่งผลให้คนตัดสินใจลงทุนด้วยอารมณ์มากกว่าเหตุผล
FOMO กับ Fibonacci 127.2% – 141.4% – 161.8%
ลองจินตนาการให้โซนนี้เป็น “สนามรบของอารมณ์” ในรอบขาขึ้นสักหนึ่งคลื่นใหญ่
________________________________________
100% → 127.2% : จุดเริ่มต้นของ FOMO
ตลาดเพิ่งเบรก High เดิม → สร้างความสนใจขึ้นมาใหม่
นักลงทุนที่เคยลังเลเริ่มเข้าซื้อ เพราะ “กลัวตกรถ”
ข่าวดีเริ่มออก บรรยากาศในโซเชียลเต็มไปด้วยคำว่า “ยังขึ้นได้อีก”
นี่คือช่วงที่ FOMO เริ่มก่อตัว — พฤติกรรมเริ่มเปลี่ยนจาก “รอดู” เป็น “รีบเข้า”
127.2% – 141.4% : จุดที่ FOMO ระเบิด
นี่คือ “จุดเร่ง” ที่แรงซื้อจากอารมณ์เข้ามาอย่างรวดเร็ว
นักลงทุนที่พลาดทั้งรอบต้นและรอบกลาง รีบกระโดดเข้าอย่างไม่สนมูลค่า
ราคามักพุ่งแรงและเร็วที่สุดในโซนนี้ เพราะเกิดจาก “แรงซื้อปลายทาง”
วอลุ่มและโซเชียลพุ่งขึ้นผิดปกติ
141.4% คือจุดที่อารมณ์เปลี่ยนสถานะ — จาก กลัวพลาด (Fear) กลายเป็น มั่นใจเกินเหตุ (Overconfidence)
นักลงทุนพูดกันว่า “ของดี ซื้อแพงก็ยังขึ้น” หรือ “ไม่ซื้อวันนี้จะเสียใจไปตลอด”
141.4% – 161.8% : จุดสุดยอดของ FOMO – Euphoria Zone
ผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาอย่างบ้าคลั่ง ราคาดูเหมือนจะไม่มีวันหยุด
คนที่เคยบอกว่า “จะแพงเกินไปแล้ว” ก็ทนไม่ไหว รีบกระโดดเข้า
ปริมาณการซื้อส่วนใหญ่ไม่ใช่จากนักลงทุนมืออาชีพ แต่จากอารมณ์ล้วน ๆ
นี่คือช่วงที่ “รายใหญ่ทยอยขาย” ในขณะที่ “รายย่อยเพิ่งเข้าซื้อ”
เมื่อแรงซื้อหมดลง ราคามัก “พักตัวแรง” หรือ “กลับตัวทันที” เพราะตลาดหมดพลังขับเคลื่อน
ตารางเปรียบเทียบพฤติกรรมในแต่ละระดับ Fibonacci
โซน Fibonacci อารมณ์ของตลาด พฤติกรรมฝูงชน กลยุทธ์นักเทรด
100% – 127.2% FOMO เริ่มต้น รีบเข้าซื้อกลัวพลาด ถือกำไร / รอดูจังหวะ
127.2% – 141.4% FOMO เร่งแรง ซื้อเพราะไม่อยาก “ตกรถ” ทยอยขายบางส่วน / ตั้ง Stop
141.4% – 161.8% Euphoria กล้าเกินเหตุ มั่นใจเกินไป ระวังกลับตัวแรง / หลีกเลี่ยงการเข้าใหม่
>161.8% Exhaustion แรงหมด ราคากลับตัว เตรียมรับแรงย่อ / วางแผนกลับตัว
บทสรุป
127.2% – 161.8% คือ FOMO Zone — พื้นที่ที่อารมณ์มนุษย์เข้าควบคุมตลาดแทนเหตุผล
141.4% คือจุดหัวเลี้ยวหัวต่อ ที่อารมณ์เปลี่ยนจาก “กลัวพลาด” เป็น “มั่นใจผิด ๆ”
นักลงทุนที่เข้าใจจุดนี้ จะไม่ใช่คนที่ “รีบกระโดดขึ้นรถ” แต่จะเป็นคนที่ “ทยอยลงจากรถก่อนชน”
คำพูดที่สะท้อนหลักการนี้ได้ดีที่สุดคือ:
“FOMO คือสิ่งที่ทำให้คนซื้อแพงที่สุดในตอนที่มืออาชีพขาย — และ Fibonacci 141.4% คือจุดที่ฝูงชนคิดว่าปลอดภัย ทั้งที่จริงแล้วคือขอบเหว”
ความหมายของ FOMO ในตลาดหุ้น
FOMO เกิดขึ้นเมื่อเรารู้สึกว่า “คนอื่นกำลังได้กำไร แต่เรายังไม่ได้” จึงรีบกระโดดเข้าซื้อหุ้นทั้งที่ไม่ได้วิเคราะห์ข้อมูลอย่างรอบคอบ เพราะกลัวจะ “พลาดรอบใหญ่” หรือ “ตกขบวน” ไปแล้ว ซึ่งพฤติกรรมนี้มักเกิดขึ้นในช่วงที่ตลาด พุ่งแรงต่อเนื่อง หรือหุ้นบางตัว ราคาขึ้นรวดเร็วผิดปกติ
จิตวิทยาที่อยู่เบื้องหลัง FOMO
FOMO ไม่ได้เกี่ยวกับข้อมูลพื้นฐานหรือเทคนิคอลเลย แต่เกิดจาก “อารมณ์และพฤติกรรมมวลชน” เช่น
Social Proof – เมื่อเห็นคนอื่นทำแล้วได้ผล เราเชื่อว่ามันต้องดี
Loss Aversion – เรากลัว “พลาดโอกาส” มากกว่ากลัว “ขาดทุน”
Herd Mentality – เราเผลอตามฝูงโดยไม่ได้คิดเอง
สัญญาณเตือนว่าคุณกำลัง FOMO
คุณซื้อหุ้นเพียงเพราะ “เห็นคนอื่นพูดถึง”
คุณรู้สึกกลัวว่าถ้าไม่รีบเข้า “จะไม่ได้กำไร”
คุณไม่ได้วางแผนจุดเข้าซื้อ–ขาย แต่รีบเข้าเพราะราคาวิ่ง
วิธีรับมือกับ FOMO อย่างมืออาชีพ
ยึดตามแผนเทรด – เขียนกลยุทธ์ให้ชัดเจน ตั้งแต่จุดเข้า จุดออก และความเสี่ยง
วิเคราะห์ด้วยเหตุผล – ก่อนซื้อทุกครั้งให้ตอบได้ว่า “ทำไม” ต้องซื้อ
ยอมพลาดบางจังหวะ – ตลาดหุ้นมีโอกาสใหม่เสมอ การพลาดบางรอบไม่ใช่เรื่องใหญ่
บริหารอารมณ์ – หากรู้ตัวว่ากำลังถูกอารมณ์นำ ให้หยุดและถอยมาทบทวนก่อน
สรุป
FOMO คือ “ความกลัวพลาด” ที่ทำให้นักลงทุนจำนวนมาก ซื้อหุ้นผิดจังหวะและขาดทุน การเอาชนะมันไม่ได้อยู่ที่ความรู้ แต่คือการควบคุม จิตใจและวินัยการลงทุน ให้ได้ เมื่อคุณไม่วิ่งตามฝูงเพียงเพราะกลัวตกรถ คุณก็จะเริ่มคิดแบบนักลงทุนมืออาชีพได้จริง ๆ