บริษัท เอ็กโซติค ฟู้ด จำกัด (มหาชน) XO
ปรับลดประมาณการกำไรปี 68 จากคำสั่งซื้อที่ชะลอตัว
Investment Highlight
คาดกำไร 2H68 หดตัว 12%YoY
เราคาดการณ์รายได้ 2H68 ราว 1.0 พันลบ. หดตัว 9%YoY โดยรายได้ที่หดตัวตามคำสั่งซื้อที่ชะลอตัวเนื่องจากสต๊อกสินค้าที่ทรงตัวในระดับสูง และคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะอ่อนตัวลงจากระดับ 46.7% เนื่องจากการใช้กำลังการผลิตที่ลดลง นอกจากนี้คาดว่าค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารจะปรับตัวขึ้นใน 2H68 เนื่องจากเป็นปกติใน 4Q68 ที่ค่าใช้จ่ายในการบริหารจะสูงในทุก ๆ ปีจากการจ่ายโบนัสพนักงาน ส่งผลให้กำไร 2H68 อยู่ที่ราว 240-260 ลบ.จะหดตัว 12%YoY
รายงานกำไร 2Q68 หดตัว 32%YoY แต่เพิ่มขึ้น 50%QoQ
รายงานกำไร 2Q68 ที่ 170 ลบ. หดตัว 32%YoY แต่เพิ่มขึ้น 50%QoQ โดยรายได้ปรับตัวลง 14%YoY แต่เพิ่มขึ้น 26%QoQ สู่ 608 ลบ. ได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อที่เลื่อนมาจาก 1Q68 ราว 40 ลบ. และคำสั่งจากสหรัฐที่เพิ่มขึ้นก่อนมีการเก็บภาษีนำเข้า ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวขึ้นจาก 46.5% ใน 2Q68 สู่ 46.8% ตามการใช้กำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น ด้านค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายปรับตัวลงจาก 20.0% ใน 1Q68 สู่ 15.2% แต่เมื่อพิจารณาเป็นตัวเงินลดลง 4.5 ลบ. สู่ 92 ลบ. ทั้งนี้ รายงานกำไร 1H68 ที่ 283 ลบ.
-45%YoY และคิดเป็น 48% ของประมาณการเดิมการ
เราปรับลดคาดการณ์กำไรปี 68 ลงจากคำสั่งซื้อที่ชะลอตัว พร้อมปรับลดคาดการณ์กำไรปี 69 ลงจากการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป
เราปรับลดคาดการณ์รายได้ปี 68 จาก 2,355 ลบ. เหลือ 2,107 ลบ. ลดลง 11% จากประมาณการเดิม เนื่องจากคู่ค้ามีการสั่งซื้อสินค้าไปก่อนหน้านี้ทำให้สต๊อกสินค้าสูงและต้องใช้เวลาในการระบายสินค้าก่อนเริ่มสั่งซื้อใหม่ โดยเราคาดว่าคำสั่งซื้อจะกลับมาในต้นปี 69 ขณะที่คาดว่า GPM จะปรับตัวดีขึ้นจาก 43.5% เป็น 45.0% เนื่องจาก 1H68 มีอัตรากำไรขั้นต้น 46.7% โดยอัตรากำไรขั้นต้นที่ชะลอตัวเนื่องจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นและอัตราการใช้กำลังการผลิตที่ปรับตัวลงตามยอดขายที่ชะลอตัว ในส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายคาดว่าจะปรับตัวขึ้นจาก 14.7% สู่ 16.1% ตามการปรับตัวลงของยอดขาย เมื่อพิจารณาเป็นตัวเงินค่าใช้จ่ายดังกล่าวปรับตัวลง 18 ลบ.เหลือ 339 ลบ. เนื่องจากปี 67 เป็นปีครบรอบ 25 ปีทำให้มีค่าใช้จ่ายพนักงานเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ เราปรับลดคาดการณ์กำไรปี 68 จาก 595 ลบ. เหลือ 532 ลบ. ลดลง 11%จากประมาณการเดิม
เราปรับลดคาดการณ์รายได้และกำไรปี 69 จาก 2.52 พันลบ. และ 672 ลบ. สู่ 2.25 พันลบ. และ 577 ลบ. ลดลง 11% และ 14% จากประมาณการเดิม เนื่องจากคาดว่ารายได้จะค่อย ๆ ฟื้นตัวตั้งแต่ 1Q69
คงคำแนะนำ “ถือ” พร้อมปรับใช้ราคาเหมาะสมปี 69 ที่ 18.00 บาท
เราประเมินราคาเหมาะสม XO โดยอิง Prospective P/E Ratio ที่ 13.3x ซึ่งเป็นระดับค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 1 ปี และคาดการณ์กำไรสุทธิต่อหุ้นปี 69 ที่ราว 1.36 บาทต่อหุ้น คำนวณเป็นราคาเหมาะสมปี 69 ที่ 18.00 บาทลดลงจากราคาเหมาะสมปี 68 ที่ 18.60 บาท โดยราคาหุ้นมีอัพไซต์จากราคาปัจจุบันราว 14% และเงินบาทที่แข็งค่าเป็นปัจจัยกดดันต่ออัตราการทำกำไร เราจึงคงคำแนะนำ “ถือ”
เป้าหมาย Net Zero Emission ในปี 2050
XO ได้เปิดตัวโครงการ Climate Change Management - Transition to Net Zero Project 2050 โดยมีเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2040 และเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ภายในปี 2050 และเป็นผู้ผลิตซอสและเครื่องปรุงรสรายแรกในไทยที่ได้รับรองมาตรฐาน ISO 14064-1สำหรับการจัดการก๊าซเรือนกระจก นอกจากนี้ XO เน้นการพัฒนาที่ยั่งยืนในทุกมิติ โดยเปลี่ยนจากการมุ่งเน้นที่ผลกำไร (Profit) เพียงอย่างเดียว เป็น 3P (People – Planet - Profit) อีกทั้งได้รับการรับรอง SET ESG Ratings ระดับ A (ณ ปี 2567) และเคยได้รับ ESG 100 Certificate อีกด้วย
ปัจจัยเสี่ยง
i) ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นทำให้รายได้จากการขายลดลง
ii) ราคาพริก กระเทียม และน้ำตาลปรับตัวขึ้นทำให้ต้นทุนขายปรับตัวขึ้น
Analyst: Nuttawut Wongyaowarak
02-672-5805
nuttawut@globlex.co.th