คาด SET Index แกว่งตัวออกข้าง: แรงกดดันจากความกังวลสงครามการค้าระหว่าง 2 เศรษฐกิจขนาดใหญ่ หลังจีนออกมาตรการตอบโต้ที่เกี่ยวโยงกับสหรัฐฯ หากแต่คาดได้แรงหนุนจากการเก็งงบกลุ่มธนาคาร ประกอบกับลุ้นแรงหนุนเพิ่มเติมจากการประชุมครม.เศรษฐกิจในวันนี้
แนวรับ-ต้าน
1,255 –1,275
กลยุทธ์การลงทุน
1) เก็งงบ 3Q68: ADVANC, BH, KBANK, KKP,KTB, SCB, PRM, PSL, STECON, TRUE, TTA
2) Anti-comm.: AAV, BA, BGRIM, GPSC, GULF
3) หวังมาตรการภาครัฐ: AMATA, CPALL, CPAXT,CENTEL, CK, ERW, ICHI, TKS, WHA
เทรดวอร์กดดัน แต่ยังมีงบแบงก์หนุน
ตึงเครียดการค้าสหรัฐฯ-จีน หลังโต้ตอบไปมา:คาด Sentimentเชิงลบมาจากความกังวลสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน หลังวานนี้จนีได้เพิ่มบริษัทในเครอื 5 แห่งของ Hanwha Ocean ซึ่งเป็นบริษัทต่อเรือสัญชาติเกาหลีใต้ เข้ารวมในบัญชีรายชื่อบริษัทที่ถูกคว่าบาตร โดยระบุว่า บริษัทในเครือทั้ง 5 แห่งซึ่งตั้งอยู่ในสหรัฐฯมีส่วนเกี่ยวข้องกับการที่สหรัฐฯดำเนินการสอบสวนอุตสาหกรรมการเดินเรือของจีนประกอบกับในวันเดียวกันจีนยังแถลงการณ์ว่าได้เริ่มกระบวนการไต่สวนอย่างเป็นทางการ เพื่อตรวจสอบผลกระทบจากการที่สหรัฐฯใช้มาตรการไต่สวนภายใต้กฎหมายการค้ามาตรา 301 ที่มีต่ออุตสาหกรรมการขนส่งทางเรือ อุตสาหกรรมต่อเรือ และความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทานของจีน ขณะที่ฝั่งสหรัฐัฯ เมื่อคืนที่ผ่านมาปธน.ทรัมป์ได้โพสต์ใน Truth Social โดยใจความสำคัญระบุว่าเขาเชื่อว่าการที่จีนจงใจไม่ซื้อถั่วเหลืองของสหรัฐฯถือเป็นการกระทำที่เป็นปรปักษ์ทางเศรษฐกิจและเขากำลังพิจารณาที่จะยุติการทำธุรกิจกับจีนในส่วนที่เกี่ยวข้องกับน้ามันปรุงอาหารและองค์ประกอบทางการค้าอื่นๆเพื่อเป็นการตอบโต้
หวังแรงเก็งงบหุ้นกลุ่มธนาคาร: มองทางลงจำกัด โดยคาด SETIndex จะได้แรงหนุนจากการเก็งงบ 3Q68 โดยเฉพาะต่อหุ้นในกลุ่มธนาคาร หลังวานนี้ TISCOเผยรายได้และ EPS ซึ่งนับเป็นการ Surpriseทางบวก โดยมากกว่าตลาดคาดไป 6.12% และ 4.45% ตามลำดับ โดยรายได้ขยายตัว 10% y-y และ EPS ขยายตัว 1% y-y และหากพิจาณาจากงบกลุ่มธนาคารสหรัฐฯนับเป็น Sentiment เชิงบวกเช่นกัน หลังWellsFargo, JP Morgan,GoldmanSachs และ Citi group ต่างเผยรายได้และ EPS ขยายตัว y-y ประกอบกับนับเป็นผลการดำเนินงานที่Surprise ทางบวก กล่าวคือมีรายได้และ EPS ที่มากกว่าตลาดคาดเกือบทัง้ หมด(Citi groupมี EPS ต่ากว่าตลาดคาดเล็กน้อยเพียง 0.3%)
ลุ้นมาตรการรัฐจากการประชุมครม.เศรษฐกิจ: นอกจากนี้ SETIndex ยังมีแนวโน้มได้แรงหนุนเพิ่มเติมจากการประชุมครม.เศรษฐกิจในวันนี้ โดยนอกจากจะมีการเสนอมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นส่วนหน่ึงของ Roadmap ที่ก าหนด Action Plan ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในช่วงระยะเวลา 4 เดือน แหล่งข่าวยังคาดว่าจะมีการเสนอแผนและมาตรการในการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณในช่วง 1QFY69
ปัจจัยเพิ่มเติม
(+)ครม.มีมติเห็นชอบการขอรับการจัดสรรงบฯ 69 สำหรับค่าใช้จ่ายในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันซีเกมส์ครั้งที่ 33 และอาเซียนพาราเกมส์ครั้งที่ 13 วงเงิน456 ล้านบาท ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวฯเสนอ โดยประมาณการมูลค่าทางเศรษฐกิจ 5,285 ล้านบาท พร้อมกันนี้ยังได้เห็นชอบกรอบวงเงินค่าใช้จ่ายในการเป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันวิ่ง มาราธอนในเมืองหลวง 264 ล้านบาท
(+)ครม.มีมติเห็นชอบกรอบงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจในปีงบฯ 69 วงเงินรวมทั้งสิ้น 1.6 ล้านล้านบาท ซึ่งสภาพัฒน์รายงานว่างบลงทุนดังกล่าวจะมีส่วนช่วยกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยให้เพิ่มขึ้นได้อีก 0.3%
(+)คุณพาวเวล ปธ.เฟด เผยการลดขนาดการถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ หรือมาตรการคุมเข้มเชิงปริมาณ (QT) อาจยุติลงในเร็วๆนี้
(-) ราคาน้ำมันดิบ WTIลดลง 1.33%ปิดที่ $58.7ต่อบาร์เรล จากความกังวลสงครามการค้า และ IEAเตือนว่าอุปทานน้ำมันในตลาดโลกจะเพิ่มขึ้นอย่างมากในปีหน้า
ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน
ธรีดา ชาญยิ่งยงค์- นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ และทางเทคนิค #9501
ชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ, CISA – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน และทางเทคนิค #37928
ภัทรดนัย จตุรพร – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #094041
พศุตม์ โงวิวัฒน์ชัย, CISA – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #127632
ฐนพงษ์ แซ่โล้ – ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
ชนพัฒน์ สุวิยานนท์ – ผู้ช่วยนักวิเคราะห์