Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

98

 

 

Market Wrap-Up

  • SET วันที่ 14 ต.ค.68 ปิด -60 จุด อยู่ที่ 1,266.38 จุด มูลค่าการซื้อขาย 42,503 ลบ. สถาบันขาย 754 ลบ. ต่างชาติขาย 2,886 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 1,081 ลบ. และรายย่อยซื้อ 4,658 ลบ. NVDR มียอดขายสุทธิ 2,090 ลบ.โดยมียอดซื้อในหุ้น THAI,ADVANC,EGCO,COM7,TOP และยอดขายหุ้น PTTEP,PTT,KBANK,BDMS,KTB มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 2,120 ลบ.หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ TDEX,CKP,JTS โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 21,259 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 27,286 สัญญา ต่างชาติขายสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 105 ลบ.
  • ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA +0.44%, S&P500 -0.61%, Nasdaq -0.76% ได้แรงหนุนจากกลุ่มสินค้าอุปโภค +72%, อุตสาหกรรม +1.17% ขณะที่กลุ่มเทคโนโลยี -1.6%, สินค้าฟุ่มเฟือย -0.26% ส่วนรายงานกำไร Q3/68 ของกลุ่มธนาคารสหรัฐ เช่น JP Morgan, Wells Fargo, Citi Group, Goldman Sachs ออกมาดีกว่าคาด ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 -0.37% ถูกกดดันจากกลุ่มเหมืองแร่ -1.6%, ยานยนต์ -2.5% นำโดย Michelin -8.9%, Continental ผู้ผลิตชิ้นส่วนเยอรมัน -4.3% และยังได้แรงหนุนจาก Ericsson บริษัทโทรคมนาคมสวีเดน +18% รับกำไรดีกว่าคาด

 Market View

  • ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ DJIA +44% ได้แรงหนุนจาก Caterpillar +4.5% หลังโบรกเกอร์ปรับเพิ่มคำแนะนำการลงทุน และ Walmart +5% รับข่าวการเป็นพันธมิตรกับ OpenAI ในการให้บริการซื้อสินค้าโดยตรงกับ ChatGPT ขณะที่กลุ่มเทคโนโลยี, สินค้าฟุ่มเฟือย ปรับลดลงจากความกังวลข้อพิพาทสหรัฐ - จีน หลังจีนเรียกภาษีเรือสหรัฐที่เข้าเทียบท่าจีน ซึ่งเป็น ม.ตอบโต้แบบเดียวกันกับสหรัฐ โดยสหรัฐได้ยุติการซื้อน้ำมันปรุงอาหารจากจีน เพื่อเป็นการตอบโต้จีนที่งดการนำเข้าถั่วเหลืองจากสหรัฐ ส่วนถ้อยแถลงของ ปธ.เฟด วานนี้ในการประชุมของสมาคมเศรษฐศาสตร์ธุรกิจแห่งชาติสหรัฐชี้เฟดใกล้ยุติการลดขนาดการถือครองพันธบัตรสหรัฐ และยังชี้การจ้างงานใหม่ได้ลดลงอย่างมาก แม้อัตราว่างงาน ส.ค. ยังอยู่ในระดับต่ำ ถือว่าเป็นสัญญาณ Dovish ก่อนการประชุมเฟดวันที่ 29 ต.ค.นี้
  • ตลาดยุโรปวานนี้ -0.37% จากแรงชายกลุ่มเหมืองแร่ -1.6% และกลุ่มยานยนต์ -2.5% นำโดย Michelin -9% หลังปรับลดคาดการณ์กำไรปีนี้ลง ขณะที่กลุ่มโทรคมนาคม Ericsson +18% ตอบรับรายงานกำไร Q3/68 ดีกว่า และได้รับผลกระทบน้อยจาก ม.ภาษีของสหรัฐ ส่วนปัจจัยการเมืองฝรั่งเศสนั้น นายก ฯ เลอกอร์นูเสนอให้เลื่อนการปฏิรูประบบบำนาญออกไปหลังเลือกตั้ง ปธน.ในปี 2570 เพื่อลดความขัดแย้งรับฝ่ายซ้ายในการผ่านร่างงบประมาณรายจ่ายปี 69 ค่ำวันนี้ติดตามข้อมูลผลผลิตภาคอุต ฯ ยูโรโซน ส.ค.
  • ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ ดัชนีนิเกอิ -2.58% หลังพรรคโคเมโตะประกาศถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลกับทางพรรค LDP ส่งผลให้การลงคะแนนเสียงรับรองนายก ฯ คนใหม่ในวันที่ 20 ต.ค. มีความไม่แน่นอน ขณะที่ค่าเงินเยนที่แข็งค่า ส่งผลลบต่อหุ้นกลุ่มส่งออกญี่ปุ่น ส่วนดัชนีเซี่ยงไฮ้วานนี้ -0.62%, ฮั่งเส็ง -1.73% จากความกังวลต่อข้อพิพาททางการค้าสหรัฐ - จีน รอบใหม่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น ทางข้อมูลเศรษฐกิจวันนี้ติดตาม CPI - PPI จีน ก.ย.
  • SET วานนี้ -1.60% ปริมาณการซื้อขาย 4.25 หมื่น ลบ. สถาบันขาย 754 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 1,018 ลบ. ต่างชาติขาย 2,886 ลบ. และรายย่อยซื้อ 4,658 ลบ. โดยดัชนีปรับลดลงจากแรงขายกลุ่มขนส่ง -4.09% และท่องเที่ยว -3.5% หลังข้อมูลจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสัปดาห์ที่ผ่านมาอยู่ที่ 5.2 แสน คน -13.6% WoW โดยจำนวนนักท่องเที่ยวปรับลดลงทุกกลุ่ม กอปร THAI -3% จากความกังวลการเสนอเปลี่ยนแปลงจำนวนบอร์ดผู้บริหารในการประชุมวันที่ 23 ต.ค. ขณะที่กลุ่ม Global Play เช่น ปิโตรเคมี, บรรจุภัณฑ์ก็ถูกแรงขายจากคาดการณ์กำไร Q3/68 มีแนวโน้มชะลอตัว กอปรกับถูกกดดันจากความขัอแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐ - จีนรอบใหม่ ส่งผลให้ Fund Flow ต่างชาติชะลอการเข้าลงทุนในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ ประเด็นสำคัญวันนี้ติดตามการประชุม ครม.เศรษฐกิจที่จะพิจารณาออก ม.กระตุ้นภาคท่องเที่ยว และการเร่งงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจปี 69 วงเงิน 1.6 ล.ลบ.ที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ราว +0.3% โดยนักลงทุนอยู่ระหว่างรอการ รายงานกำไร Q3/68 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ โดย BB.Consensus คาด -4.0% QoQ และทรงตัว YoY

     Daily Strategy

  • ประเมินแนวรับดัชนี SET วันนี้ที่ 1,250 - 1,260 แนวต้าน 1,280 – 1,290 คาดดัชนีชะลอตัวรอประเมินปัจจัยเสี่ยงข้อพิพาทสหรัฐ – จีน และรายงานกำไร Q3/69 ของกลุ่มธนาคาร แนะนำทยอยซื้อกลุ่มโรงไฟฟ้า GULF,BGRIM,GUNKUL ได้ประโยชน์จากโครงการโซลาร์ชุมชุน & Direct PPA และ EGCO,BCGP มีพอร์ตโรงไฟฟ้าในสหรัฐ / กลุ่มไอซีที ADVANC,TRUE คาดกำไร Q3/68 เติบโตดี กอปรได้แรงหนุนจากเทรนด์การใช้ AI /กลุ่มท่องเที่ยว ERW,CENTEL คาดได้ประโยชน์จาก ม.กระตุ้นท่องเที่ยว
  • RCL* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 7.70 บาท) มีโอกาสได้รับอานิสงส์จากการตอบโต้มาตรการเก็บค่าธรรมเนียมท่าเรือระหว่างจีนกับสหรัฐที่จะมีผลตั้งแต่ 14 ต.ค.68 เรือไทยอาจได้ประโยชน์จากการเป็นทางเลือกของการขนส่งให้กับจีนและสหรัฐ นอกจากนี้การเรียกเก็บภาษีส่งออกสินค้าจีนไปยังสหรัฐ 100% ทุกรายการที่จะเริ่มในวันที่ 1 พ.ย.68 ก็อาจส่งผลให้การกักตุนสินค้าและระยะทางในเการเดินเรือเพิ่มขึ้นการจากเลี่ยงภาษีของจีนด้วย IAA consensus คาดกำไรปี 68 ที่ 5,846 ลบ.
  • MC* (ซื้อ/ ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 13.07 บาท) กำไรสุทธิปี68(งวด สิ้น มิ.ย.68) อยู่ที่ 760 ลบ.+7%YoY แม้รายได้จาก Free-standing Shop และ Department Store จะปรับลดลง แต่มีแรงหนุนจากการขาย Online(+69%YoY) ส่วนการดำเนินงานในช่วงปี69 ผู้บริหารวางเป้ารายได้ +6%YoY ขยับสัดส่วนยอดขาย Online มาที่ 25% ทั้งนี้ เราคาดว่าช่วงต.ค.-ธ.ค.68 MC* จะได้แรงหนุนทั้งตามฤดูกาลการใช้จ่าย และประโยชน์ทางอ้อมจากม.กระตุ้นกำลังซื้อของภาครัฐฯ ปัจจุบัน ตลาดคาดว่าในปี69และ70 กำไรสุทธิของ MC* จะอยู่ที่ 804 ลบ.(+6%YoY) และ 848 ลบ.(+5%YoY)

 

 

Daily Key Factors

Oil Update(-) WTI พ.ย.-$0.79 อยู่ที่ $58.70 / บาร์เรล, Brent ธ.ค. -$0.93 อยู่ที่ $62.39/บาร์เรล หลัง IEA เตือนตลาดน้ำมันโลกอาจเผชิญกับภาวะอุปทานส่วนเกินเพิ่มขึ้นในปีหน้า อาจสูงถึง 4 ล.บาร์เรล/วัน หลังกลุ่มโอเปกพลัสเพิ่มกำลังการผลิต

 

Gold Update(+) Comex Gold ธ.ค.+$30.40 อยู่ที่ $4,163.40 /ออนซ์. โดยนักลงทุนเลือกพักในสินทรัพย์ปลอดภัย จากความกังวลข้อพิพาทการค้าสหรัฐ – จีนรอบใหม่ กอปรกับเฟดอาจจะปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 29 ต.ค. โดย Bank of America และ Societe Generale คาดราคาทองคำมีโอกาสปรับขึ้นที่ระดับ $5,000/ออนซ์ ในปีหน้า

 

Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ -176.51 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -88.33 ล.ดอลลาร์หสหรัฐ ขายหุ้นอินโดฯ -82.24 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -5.95 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

 

(0) ค่าเงินบาทเช้านี่แข็งค่าอยู่ที่ 32.56 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(+) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 4.024 %

(-) ดัชนี BDI วานนี้ -122 อยู่ที่ 2,022

(-) BitCoin เช้านี้ -1.24% อยู่ที่ 112,861 ดอลลาร์สหรัฐ

 Economic Calendar

 

ในประเทศ

สัปดาห์ที3 ส.อ.ท. แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม

สัปดาห์ที4 ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วน

ยานยนต์

กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศ

สัปดาห์ที5 สศอ. แถลงดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม

สศค.รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค,

ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค

 

ต่างประเทศ

10 ต.ค.     US อัตราการว่างงาน (ก.ย.)

US รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมง (เดือนต่อเดือน) (ก.ย.)

US การจ้างงานนอกภาคการเกษตร (ก.ย.)

15 ต.ค.     US ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ก.ย.)

16 ต.ค.     US ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) (เดือนต่อเดือน) (ก.ย.)

                US ดัชนียอดขายปลีก (ก.ย.)

17 ต.ค.     EU ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ปีต่อปี) (ก.ย.)

 

Theme Strategy

เลือกหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากนโยบายหลักของรัฐบาลอนุทิน (รัฐบาลระยะสั้น 4 เดือน) เร่งใช้จ่ายในการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบ Quick wins, วงจรดอกเบี้ยโลกเป็นขาลง และ Earning momentum / Seasonal 3Q68-4Q68

 

(1) ค้าปลีก / บริโภค นโยบายคนละครึ่งพลัส – กระตุ้นกำลังซื้อ, ลดค่าใช้จ่าย CPAXT*, BJC, TNP*, KK*, MOTHER*, ICHI*, CBG*

 

(2) การเงิน / นอนแบงค์ นโยบายแก้ปัญหาหนี้สิน เพิ่มสภาพคล่อง SME, คาดการณ์ลดดอกเบี้ยนโยบาย MTC*, SAWAD*, TIDLOR*, KTC*, NCAP*, SINGER*, SGC*, FSMART*, AP*, SPALI*, CPN*, DIF*, 3BBIF*

 

(3) รับเหมาก่อสร้าง เร่งเบิกจ่ายงบประมาณ โครงการก่อสร้างภาครัฐ และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน STECON, CK, SEAFCO*, PYLON*

 

(4) ท่องเที่ยว ฟื้นความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยว, มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ AOT, CENTEL*, ERW*

 

(5) ไอซีที / ดิจิทัล ปราบปรามภัยไซเบอร์, การลงทุนด้าน Digital, Cyber Security, Data Center ADVANC, DELTA*, GULF*, BGRIM*, BCPG*, SECURE*

 

(6) ด้านสาธารณสุข ศูนย์ฟอกไตฟรีทุกอำเภอและเครื่องฉายรังสีรักษามะเร็งฟรีทุกจังหวัด KTMS*, BIZ* ลดค่ายาและเวชภัณฑ์โรงพยาบาลเอกชน การเปิดเผยราคายาให้ผู้ป่วยมีทางเลือกในซื้อยาเองได้ HL* (เก็งกำไร)

 

(7) Solar ภาคประชาชน, มาตรการลดหย่อยภาษี Solar rooftop ครัวเรือน / Direct PPA GULF*, GUNKUL*

 

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

 

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 35% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%

 

Today Fundamental Research: -

 

 

Monthly Portfolio October 2025: TNP*, CPN*, PRM*, BJC, BCPG*

 

Analysts

Apichai Raomanachai  

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  002939

Tel  02-829-6999  Ext  2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Meena Tunlayanitigun

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  033662

Tel  02-829-6999 Ext  2201

Email : meena.tu@kfsec.co.th

Nopporn Chaykaew     

Fundamental Analysis ID No.  043964

Tel  02-829-6999  Ext  2203

Email : noppoen.ch@kfsec.co.th

Nattawat Poosunthornsri  

Fundamental Analysis ID No.  087077

Tel  02-829-6999  Ext  2204

Email : nattawat.po@kfsec.co.th

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

รีบาวน์ หุ้นไทย By : แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ หุ้นไทยเช้านี้ เทคนิคอลรีบาวน์ แนวรับที่ 1,255 จุด ยังเอาอยู่ SET เด้งกลับไปยืนเหนือ....

ลุ้นรีบาวน์ By : เจ๊มดแดง

เจ๊มดแดง ไต่กิ่งมะม่วง วันนี้ต้องลุ้น SET จะรีบาวน์ได้หรือไม่ หลังวานนี้ ทรุด แบบเสียทรง เสียเหลี่ยม สถาบัน, ....

มัลติมีเดีย

หุ้นอินไซด์ทอล์ค : รู้จักพื้นฐาน ATLAS เคาะราคาไอพีโอที่ 3 บาทต่อหุ้น เปิดจองซื้อ 7-10 ตุลาคมนี้

หุ้นอินไซด์ทอล์ค : รู้จักพื้นฐาน ATLAS เคาะราคาไอพีโอที่ 3 บาทต่อหุ้น เปิดจองซื้อ 7-10 ตุลาคมนี้

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้