คาด SET Index แกว่งตัว Sideways down:มองแรงกดดันมาจากความกังวลต่อความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯกับจีน โดยเฉพาะประเด็นที่เกิดขึ้นในช่วงวันหยุดที่ผ่านมา ซึ่งได้จุดประกายความกังวลสงครามการค้า หากแต่มองยังพอมีแรงพยุงจากความหวังต่อมาตรการภาครัฐในประเทศ

แนวรับ-ต้าน
1,275–1,290

กลยุทธ์การลงทุน
1) มาตรการภาครัฐ: ADVANC, AMATA, BJC,CPALL, CENTEL, CK, ERW, ICHI, KTB, MINT,OR, PTG, STECON, TKS, TNP, TRUE, WHA
2) Anti-comm.: AAV, BA, BGRIM, GPSC, GULF,SCGP, TASCO, TOA
3) เก็งงบ 3Q68: BH, KBANK, KKP, SCB, PRM,PSL, STECON, TIDLOR, TTA

บอกไฟไม่ไหม้ หลังจุดกองเพลิง

จุดประกายความกังวลสงครามการค้า: คาด Sentimentเชิงลบมาจากความกังวลต่อความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯกับจีน แม้ในวันที่ 12ต.ค.68 ปธน.ทรัมป์จะโพสต์ Truth Social โดยใจความตอนหน่ึงระบุว่าไม่ต้องกังวลเรื่องจีนทุกอย่างจะเรียบร้อย และสหรัฐฯอยากช่วยจีนไม่ได้อยากทำร้าย ประกอบกับในวันที่ 13 ต.ค.68 รมว.คลังสหรัฐฯได้เผยว่าผู้นำสหรัฐฯกับจีนยังคงมีก าหนดการพบกันนอกรอบการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปคที่เกาหลีใต้สิ้นเดือนนี้แต่จากสถาการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานับเป็นการจุดประกายความกังวลสงครามการค้าระหว่าง 2 ประเทศ หลังในวันที่ 9 ต.ค.68 จีนได้ประกาศมาตรการควบคุมการส่งออกแร่หายากชุดใหม่และมีผลบังคับใช้ ส่งผลให้ในช่วงวันที่ 10-11 ต.ค.68 ปธน.ทรัมป์โพสต์ Truth Social ระบุว่าจีนกำลังเป็นปฏิปักษ์ทางการค้าครั้งใหญ่ โดยจีนก าลังควบคุมการผลิตที่เกี่ยวข้องกับแร่หายาก ซึ่งเป็นวัสดุสำคัญในการผลิตเทคโนโลยีขั้นสูงซึ่งการกระทำนี้ไม่เคยมีมาก่อนในการค้าระหว่างประเทศและเป็นแผนการที่คิดไว้ล่วงหน้า และเพื่อเป็นการตอบสนองสหรัฐฯจะเรียกเก็บภาษี 100% สำหรับสินค้าจากจนีทั้งหมด นอกเหนือจากภาษีใดๆที่มีผลบังคับใช้อยู่ในปัจจุบัน โดยมีผลในวันที่ 1 พ.ย.68 ซ่งึเป็นเวลา 9 วันก่อนมาตรการระงับภาษีเดิมจะหมดอายุ และในวันที่ 1 พ.ย.68 สหรัฐฯจะบังคับใช้การควบคุมการส่งออกสำหรับซอฟต์แวร์ที่มีความส าคัญต่อประเทศทั้งหมด ด้านจีนในวนั ที่ 12 ต.ค.68 ได้มีการออกแถลงการณ์ตอบโต้โดยระบุว่าจีนจะใช้มาตรการที่เด็ดขาดเพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายของตนอย่างแน่นอน นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาจากการตอบรับของตลาดหุ้นในภูมิภาควานนี้พบว่าปรับตัวลงและปิดในแดนลบเกือบทุกแห่ง ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐฯแม้เมื่อคืนที่ผ่านมาจะปิดในแดนบวก แต่ยังไม่สามารถชดเชยการปรับตัวลงไปในคืนวันศุกร์

หวังแรงพยุงจากมาตรการภาครัฐ:คาดแรงพยุงมาจากความหวังต่อมาตรการภาครัฐ หลังแหล่งข่าวเผยพรุ่งนี้จะมีการประชุมครม.เศรษฐกิจซึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมารองนายกฯและรมว.คลังเผยจะเสนอแพ็กเกจมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวต่อที่ประชุมข้างต้น อีกทั้งสัปดาห์นี้ติดตามการประชุมบอร์ด BOIซ่งึเตรยีมเสนอขอความเห็นชอบเพื่อเร่งรัด และส่งเสริมการลงทุน ส่วนการประชุมครม.วันนี้สิ่งที่น่าสนใจ ได้แก่ แผนลงทุนรัฐวิสาหกิจปี 69และการขออนุมัติงบซีเกมส์-งานมาราธอนในเมืองหลวง

ปัจจัยเพิ่มเติม
(+)กกพ.เผยแนวโน้มค่าไฟงวดเดือนม.ค.-เม.ย.69 จะพยายามรักษาเสถียรภาพของราคาค่าไฟฟ้าให้อยู่ในระดับคงที่ แม้ในช่วงปลายปีตลาดโลกจะมีความต้องการซื้อ-ขายพลังงาน และมีความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติสูง
(-) ราคาน้ำมันดิบ WTIปรับตัวลง 3%เทียบกับราคาปิด ณ วันพฤหัสบดี โดยปิดที่$59.5 ต่อบาร์เรล โดยหนึ่งในแรงกดดันมาจากกังวลสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน ส่งผลให้เรามองเป็น Sentimentเชิงลบต่อหุ้นในกลุ่มพลังงาน
(-) จีนประกาศว่าจะเริ่มเก็บค่าธรรมเนียมจากเรือสหรัฐฯที่เข้ามาเทียบท่ายังท่าเรือจีน เพื่อตอบโต้ที่สหรัฐฯเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากเรือจีนที่เดินทางไปเทียบท่ายังท่าเรือสหรัฐฯ โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันเดียวกันคือวันที่ 14ต.ค.68
(-) พรรคโคเม (Komeito) ประกาศในวันที่ 10 ต.ค.68 ว่าจะถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลที่นำโดยพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ซึ่งจะส่งผลให้พรรคLDP กลายเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยของญี่ปุ่น

ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน
ธรีดา ชาญยิ่งยงค์- นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ และทางเทคนิค #9501
ชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ, CISA – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน และทางเทคนิค #37928
ภัทรดนัย จตุรพร – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #094041
พศุตม์ โงวิวัฒน์ชัย, CISA – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #127632
ฐนพงษ์ แซ่โล้ – ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
ชนพัฒน์ สุวิยานนท์ – ผู้ช่วยนักวิเคราะห์