Equality for All
CPF : บมจ. ซีพีเอฟ
3Q25 คาดกำไรสุทธิ 5,363 ลบ. หดตัว -27% y-y และ -48% q-q จากราคาหมูที่ลดลง แม้ราคาวัตถุดิบจะลดลง แต่ก็ชดเชยไม่ได้ :
ยอดขาย คาดหดตัว -1% y-y อยู่ที่ 141,276 ลบ. แม้คาดปริมาณขายจะเพิ่มขึ้นก็ตาม แต่จากราคาขายเฉลี่ยในตลาดหลัก ๆ อย่างไทยและเวียดนามคิดเป็น 60% ของยอดขายกลุ่ม Farm โดยราคาหมูไทยหดตัว -10% y-y ส่วนเวียดนาม -4% y-y
อัตรากำไรขั้นต้น คาดปรับตัวลงจาก 19.8% ใน 2Q25 เหลือ 16.8% ใน 3Q25 จากราคาหมูไทยลดลง -27% q-q และหมูเวียดนาม -13% จากผลของฝนตกทั้งในไทย และเวียดนาม ทำให้การบริโภคลดลง โดยในส่วนเวียดนามนั้นได้รับผลเพิ่มเติมจากโรคระบาดที่เกิดขึ้นทำให้ผู้เลี้ยงเร่งทยอยขายออกมา แต่จะเห็นอัตรากำไรขั้นต้นฟื้นจาก 15.4% ใน 3Q24 จากราคาข้าวโพดหด -15% y-y, กากถั่วเหลืองหด -28% y-y
ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วม คาดจะดีขึ้น y-y จากการดำเนินงานของ CPALL และ Hylife ที่ดีขึ้น แต่คาดดอกเบี้ยจ่ายเพิ่ม +3% y-y และ +4% q-q จากเงินกู้ยืมเพิ่มขึ้น
รายการพิเศษสุทธิ จากราคาหมูที่ลดลงทั้งในไทยและเวียดนามทำให้คาดจะมีขาดทุนจากสินทรัพย์ชีวภาพตามราคาหมูที่ลดลง
จากผลที่กล่าวข้างต้นทำให้เราคาดกำไรสุทธิใน 3Q25 ที่ 5,363 ลบ. หดตัวแรง -27% y-y และ -48% q-q
คาดหวังมาตรการต่าง ๆ จะส่งผลให้ราคาหมูฟื้นใน 4Q25 : สำหรับมาตรการพยุงราคาหมูของสมาคมผู้เลี้ยงหมูซึ่งมีผลตั้งแต่ 1 ต.ค. ที่ผ่านมาเพื่อกระตุ้นกำลังซื้อ และลดการขยายฟาร์มของผู้ประกอบการ คาดว่าจะช่วยให้ราคาหมูกลับมาฟื้นตัวได้ใน 4Q25 ส่วนที่เวียดนามนั้น ผบห. แจ้งว่าหลังเกิดโรคระบาด และวงจรจะกลับสู่ภาวะปกติ คาดใช้เวลาราว 6 เดือนกว่าที่อุปทานจะฟื้นกลับมา ซึ่งเหตุการณ์นี้คาดจะช่วยให้ราคาหมูดีขึ้นเช่นกัน
ส่วนเรื่องการนำเข้าวัตถุดิบหลักทั้งข้าวโพด และกากถั่วเหลืองนั้นยังไม่มีความคืบหน้าเพิ่มเติม อยู่ระหว่างพิจารณาเงื่อนไขเพื่อไม่ให้กระทบต่อผู้ปลูกข้าวโพดในไทย สำหรับการซื้อในประเทศ และนำเข้า รวมถึงกระบวนการอื่น ๆ
มีโอกาสปรับประมาณการลง : จากแนวโน้มการดำเนินงาน 3Q25 ที่ออกมาจะต่ำกว่าที่เคยคาดพอควร อีกทั้งปกติไตรมาส 4 การดำเนินงานจะหดตัว q-q ทำให้เราคาดว่ามีโอกาสต้องปรับลดประมาณการลงจากเดิมจากแนวโน้มราคาเนื้อสัตว์ที่อ่อนตัวแรงกว่าที่เคยคาดไว้ แม้คาดว่ามาตรการต่าง ๆ ที่ทยอยออกมาจะช่วยราคาปรับขึ้นได้ รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและเข้าสู่เทศกาลท่องเที่ยวและส่งออก แต่คาดว่าราคาคงไม่ขึ้นมากนัก
เราขอคงประมาณการเดิมไว้ก่อนที่ยอดขาย 588,575 ลบ. โตอ่อนๆ +1% y-y อัตรากำไรขั้นต้น 18.5% ตามราคาเนื้อสัตว์เพิ่มขึ้น และราคาวัตถุดิบที่ลดลง และค่าใช้จ่ายขายและบริหารเพิ่มขึ้นจากค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น คาดกำไรก่อนรายการพิเศษอยู่ที่ 34,467 ลบ. ขยายตัว +81% y-y
เข้าโหมดชะลอตัว
“ คาดการดำเนินงานจะหดตัวแรงทั้ง y-y และ q-q ตามราคาเนื้อสัตว์ที่ลดลงทั้งในไทย และเวียดนาม อีกทั้งภาพการดำเนินงาน 4Q25 เราคาดว่ายังคงลดลงทั้ง y-y และ q-q แต่สิ่งที่ตลาดกำลังรอคือหลังมาตรการของสมาคมผู้เลี้ยงหมูที่เริ่มมีผลตั้งแต่ 1 ต.ค. ที่ผ่านมาจะช่วยให้ราคาหมูกลับมาฟื้นตัวได้หรือไม่
กลยุทธ์การลงทุน ยังไม่ใช่ตัวเลือกแรก ๆ สำหรับการเก็งกำไรผลการดำเนินงานเนื่องจากเข้าสู่โหมดชะลอตัวในครึ่งปีหลัง คงรอดูว่าหลังกินเจสิ้นสุดลงช่วงปลายเดือน ต.ค. ราคาหมูจะกลับมาได้หรือไม่ ซึ่งจะเป็นจังหวะกลับไปสู่การเก็งกำไรรอบใหม่อีกครั้ง ”
นารี อภิเศวตกานต์
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน #17971
naree.a@liberator.co.th