ภาวะตลาด SET Index วานนี้ ปิดทรงตัวที่ 1275.03 (+0.86 จุด) มูลค่าซื้อขาย 3.5 หมื่นลบ. ทั้งนี้แม้มีแรงขายกระจายไปในหุ้นกลุ่มต่างๆ แต่การปรับขึ้นของหุ้นใหญ่อย่าง DELTA (+6%)และ AOT (+3%)ช่วยพยุงตลาดไว้ นักลงทุนสถาบันในปท.ขายสุทธิ -873 ลบ. ต่างชาติซื้อสุทธิ +1.4 พันลบ.
ปัจจัยต่างประเทศ
• สหรัฐ: ADP เผยจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐลดลง 32,000 ในเดือนก.ย.เป็นการทรุดตัวครั้งใหญ่ในรอบ 2 ปีครึ่ง และสวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าเพิ่มขึ้น 52,000 ตำแหน่ง ส่วน
• สหรัฐ: หน่วยงานรัฐบาลสหรัฐถูกชัตดาวน์ต่อ หลังการลงมติร่างงบประมาณฯ ครั้งที่ 2 ยังไม่ผ่าน คาดมีผลกระทบบ้าง จากการที่หลายหน่วยงานปิดชั่วคราว/ทำงานและให้บริการได้ไม่เต็มที่ แต่ ไม่ถึงกับรุนแรงมากเนื่องจากกระทรวงการคลังสหรัฐยังมีเงินสดสำรอง 760 พันล้านUS$เพื่อใช้จ่ายไปอีกระยะหนึ่ง ขณะเดียวกันคาดว่าผู้นำในสภาคองเกรสจะเร่งเจรจาเพื่อให้หลุดพ้นภาวะชัตดาวน์โดยเร็ว
• สหรัฐ: ทรัมป์ และบริษัทไฟเซอร์บรรลุข้อตกลง โดยไฟเซอร์จะลดราคายาตามใบสั่งแพทย์ในโครงการ Medicaidแลกกับการผ่อนปรนภาษีศุลกากร
• ยูโรโซน: ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนก.ย.25 ลดลงเป็ น 49.8 (จาก50.7 ในส.ค.) เนื่องจากคำสั่งซื้อใหม่หดตัว โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับการส่งออก
• ยูโรโซน: เงินเฟ้อทั่วไปก.ย.ขยับขึ้นแตะ 2.2% (จาก 2.0% เดือนส.ค.) ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐานทรงที่ 2.3%; ตลาดคาดเงินเฟ้อจะกลับสู่เป้าหมายที่ 2%ได้ในไม่ช้าและECB จะยังไม่ลดดอกเบี้ยนโยบายในเร็วๆนี้
• ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปรับขึ้น หนุนโดยหุ้นกลุ่ม Healthcare แต่นักลงทุนมองข้ามการชัตดาวน์ และตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนที่อ่อนแอกว่าคาด สัญญาน้ำมันดิบร่วงอีกราว -1% เป็ น 62-65 US$/bbl เพราะวิตกอุปทานล้น หลังมีข่าวว่ากลุ่มโอเปกพลัสมีแผนเพิ่มการผลิต 5 แสนบาร์เรลในเดือนพ.ย.25 (จะมีประชุมกลุ่มฯ 5 ต.ค.นี้) สัญญาทองคำเพิ่มขึ้นต่อ +24.3 US$ สู่ 3,897.50 US$/ออนซ์ ทำ new high ด้านดัชนีค่าเงิน US$ ทรงที่ 97.7 ค่าเงินบาทอยู่ที่ 32.4 Bt/US$ ส่วน US bond yield 10 ปี ถอยมาที่ 4.09% ดัชนีราคาถ่านหิน (NC) อ่อนเป็น 105.55 ดัชนี Baltic Dry Index ลดสู่ 1,980
ปัจจัยในประเทศ & ข่าวหุ้นเด่น
• ไทย: ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนก.ย.ขยับขึ้น MoM เป็น 48.0 แต่งวด 3Q25 ดัชนีฯลดลง QoQ โดยดัชนีความเชื่อมั่นธุรกิจส่งออกลดลงเกือบทุกหมวดสินค้า โดยเฉพาะ อาหารทะเลแช่แข็ง ทูน่ากระป๋อง ฯลฯ ยกเว้น กลุ่มอิเลคทรอนิกส์ที่ความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นและเหนือระดับ 50 อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นไปตามการฟื้นตัวของวัฎจักรธุรกิจอิเลคทรอนิกส์โลก...เป็น Sentiment บวกกับหุ้นกลุ่มอิเลคทรอนิกส์ ทั้งนี้เห็นว่าธุรกิจผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว และกำลังฟื้นตัว คาดกำไรปี 26F จะเติบโตได้ดีขึ้น เราแนะนำซื้อ HANA (ราคาพื้นฐาน 30 บาท), KCE (ราคาพื้นฐาน 30 บาท)
• นายเอกนิติ รองนายกฯและรมว.คลังมั่นใจว่า เศรษฐกิจไทย 4Q25 จะเติบโตเกิน 1%YoY จากมาตรการกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยและท่องเที่ยวของรัฐบาล (เทียบกับ 0.3%YoY ที่ไม่มีมาตรการ) ซึ่งจะทำให้ศก.ไทยปี 2025ขยายตัวกว่า 2%YoY
กลยุทธ์ : ดัชนีแกว่งรอข่าวใหม่...อ่อนตัวมีแนวรับ 1270, 1265-1260 แนวต้านระยะสั้นอยู่ที่ 1280, 1290-1300...SET ยังแกว่งตัว รอดูการเดินหน้ามาตรการกระตุ้นศก.และผลงานของรัฐบาลใหม่ ให้ แนวรับไว้ที่ 1270, 1265-1260 และแนวต้านระยะสั้น 1280, 1290-1300 หรือสูงกว่า
หุ้นพื้นฐานแนะนำวันนี้ : COM7 – คาดกำไรหลัก 3Q25F เติบโตแข็งแกร่ง +29%YoY เป็น 915 ลบ. หนุนโดยอัตรากำไรที่เพิ่มขึ้น จากสัดส่วนรายได้ธุรกิจมาร์จิ้นสูงมากขึ้น เช่น UFUND, ให้เช่ารถ EV ส่วนรายได้เติบโตประมาณเลขหลักเดียวระดับกลาง แนวโน้ม 4Q25F ยังไปได้ดี ยอดจองซื้อ iPhone 17 เติบโตแตะเลขสองหลักเทียบ YoY ประเมินกำไรหลักปีนี้ขยายตัวแกร่ง +21% และเติบโตต่อ +11% ในปี 2026F แนะนำซื้อ ปรับเพิ่มราคาพื้นฐานเป็น 31.50 บาท
นักวิเคราะห์&กลยุทธ์: อาภาภรณ์ แสวงพรรค : arparporns@dbs.com : Tel 02 587 7829