วันอังคารที่ผ่านมาดัชนีปรับตัวลง โดยมีแรงกดดันจาก ธปท. เผยเศรษฐกิจไทยเดือนส.ค. ชะลอตัวจากเดือนก่อนตามภาคการผลิต เกษตร และส่งออกไปสหรัฐ มีแรงขายในหุ้นกลุ่ม Big Cap นำโดยกลุ่มพลังงานจากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวลง ตามด้วยแรงขายในหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ไอซีที และค้าปลีกส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,274.17 จุด -13.90 จุด -1.08% มูลค่าการซื้อขาย 49,548.34 ลบ.(ในเดือนที่ผ่านมาดัชนี +37.56 จุด +3.04% และไตรมาส 3/68 ดัชนี +184.61 จุด +16.94%) ProgramTrading -3,424.33 ลบ. ต่างชาติ-3,776.54 ลบ. TFEX -8,305 สัญญา ตราสารหนี +345.73 ลบ
ปัจจัยบวก
+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 81.82 จุด หรือ +0.18% และปรับตัวขึ้นทั้ในรายเดือนและรายไตรมาส แม้ว่านักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงที่หน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ จะถูกปิดทำการ (ชัตดาวน์) ซึ่งอาจทำให้การรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญมีความล่าช้า และส่งผลให้แนวโน้มนโยบายอัตราดอกเบี ยของ FEDเผชิญกับความไม่ชัดเจน
+ สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษเปิดเผยว่าเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักร (UK)ใน 2Q68 ขยายตัว 0.3%YoY ส่งผลให้ในช่วงครึ่งปีแรก เศรษฐกิจของ UK เติบโตเร็วที่สุดในกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ7 ชาติ (G7)
+ กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานเพิ่มขึ น19,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 7.227 ล้านตำแหน่งในเดือนส.ค. สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 7.185 ล้านตำแหน่ง จากระดับ 7.208 ล้านตำแหน่งในเดือนก.ค.
+ แหล่งข่าวจากกลุ่มฮามาสเปิดเผยว่า ฮามาสได้เริ่มการหารือและปรึกษากับกลุ่มปาเลสไตน์อื่น ๆ เกี่ยวกับแผนสันติภาพที่เสนอโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เพื่อยุติสงครามในฉนวนกาซา
ปัจจัยลบ
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 1.08 ดอลลาร์ หรือ -1.7% ปิดที่62.37 ดอลลาร์/บาร์เรล ถูกกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาดหลังมีข่าวว่ากลุ่มโอเปกพลัสมีแผนเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันอีกในเดือนพ.ย. รวมทั้งการที่ภูมิภาคเคอร์ดิสถานของอิรักกลับมาส่งออกน้ำมันผ่านทางตุรกีอีกครั้ง
- สหรัฐฯ ใกล้เผชิญกับการปิดหน่วยงานรัฐบาลหรือชัตดาวน์ในอีกไม่กี่ชั่วโมงขณะที่พรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตยังคงมีความขัดแย้งกันเกี่ยวกับการบรรลุข้อตกลงในการจัดสรรงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานของรัฐบาลสามารถดำเนินการต่อไปได้
- ผลสำรวจของ Conference Board ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐฯ ปรับตัวลง 3.6 จุด สู่ระดับ 94.2 ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 96.0
- รมช.คลัง เปิดเผยว่าปัญหาหนี้ครัวเรือนของไทยอยู่ที่ 13.55 ล้านล้านบาทหรือเกือบ 90% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) โดย 50%เป็นหนี้ไม่มีหลักประกันซึ่งแตกต่างจากประเทศอื่นที่หนี้ส่วนใหญ่มีหลักประกัน
- ธปท. เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในเดือน ส.ค.68 ชะลอลงจากเดือนก่อนจากภาคเกษตรและการผลิตภาคอุตสาหกรรม ส่งผลให้ภาคการค้าและขนส่งสินค้าลดลงขณะที่ภาคการท่องเที่ยวปรับดีขึ้นจากรายรับนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ ส่วนการส่งออกในเดือน ส.ค.68 ขยายตัว 5.5%YoY
- กระทรวงการคลังรายงานผลการจัดเก็บรายได้รัฐในช่วง 11 เดือนของปีงบประมาณ 68 (ต.ค.67-ส.ค.68) จัดเก็บรายได้สุทธิ 2.50 ล้านล้านบาทสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 1.9% แต่ต่ำกว่าประมาณการ 1.3% โดยภาษีรถยนต์จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ เนื่องจากมาตรการส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าและปริมาณรถยนต์ที่ชำระภาษีต่ำกว่าที่ประมาณการไว้ ขณะที่การจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้าจัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้ มีโอกาสแกว่งตัวผันผวนระหว่างวัน โดยมีแรงกดดันจากความเสี่ยงที่หน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐจะถูกชัตดาวน์ ประกอบกับราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวลงต่อเนื่อง กดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน คาดกรอบดัชนีวันนี้ ที่1,270-1,280 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
- หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก กนง. ลดดอกเบี ย : MTC SAWAD TIDLOR THANI NCAP SAK
- ปลดล็อกขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารช่วง 14.00-17.00 น. : CBG MENA BJC CPALL CPAXT TNP KKMOTHER
- โครงการคนละครึ่งพลัส : CPALL BJC CPAXT CBG OSP SAPPE TNP MOTHER