Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

TIPMSE ผนึกกำลัง 16,000 สมาชิก เดินหน้า EPR in Action เปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ใช้แล้วเป็นวัตถุดิบ สร้างมูลค่า-ลดปัญหาสิ่งแวดล้อม

85

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(30 กันยายน 2568)-----------สถาบันการจัดการบรรจุภัณฑ์และรีไซเคิลเพื่อสิ่งแวดล้อม (TIPMSE) ระดมพลังภาคีเครือข่ายกว่า 149 องค์กร และสมาชิกสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กว่า 16,000 ราย ร่วมขับเคลื่อน EPR in Action เปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ใช้แล้วให้กลับมาเป็นวัตถุดิบตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียนสร้างมูลค่าเพิ่ม ผลักดันมาตรการจูงใจ ด้วยสิทธิประโยชน์ทางภาษี สร้างกลไกตลาด การส่งเสริม Design for Recycle (D4R) การใช้เม็ดพลาสติกรีไซเคิล (PCR) ลดปัญหาสิ่งแวดล้อม

“TIPMSE” เปิดเวทีแสดงพลังในหัวข้อ” รวมพลังขับเคลื่อน EPR เปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ให้เป็นวัตถุดิบ” เพื่อเดินหน้าขับเคลื่อนการจัดการบรรจุภัณฑ์เพื่อความยั่งยืน ด้วยหลัก EPR (Extended Producer Responsibility) ภายใต้ พ.ร.บ.การจัดการบรรจุภัณฑ์อย่างยั่งยืน โดยได้รับเกียรติจาก คุณปรีญาพร สุวรรณเกษ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธาน พร้อมด้วย
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) นายโฆษิต สุขสิงห์ รองประธาน ส.อ.ท. และประธานสถาบันการจัดการบรรจุภัณฑ์และรีไซเคิลเพื่อสิ่งแวดล้อม หรือ TIPMSE ผู้บริหาร ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคการศึกษา องค์กรอิสระ เข้าร่วม สานต่อภาคีเครือข่ายสู่การผนึกกำลังกับองค์กรต้นทาง กลางทาง และปลายทาง ที่เป็นศูนย์กลางผู้ผลิต ผู้จำหน่าย ผู้บริโภค ผู้รวบรวม และโรงงานรีไซเคิล ในรูปแบบของสมาคม กลุ่มอุตสาหกรรม เครือข่ายพันธมิตร และสภาองค์กรต่างๆ เพื่อเตรียมพร้อมในการรับหน้าที่จัดการบรรจุภัณฑ์ที่มุ่งนำกลับเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล รวมถึงจับมือกับองค์กรสนับสนุน อย่างภาครัฐ ภาคประชาสังคม องค์กรอิสระ องค์กรระหว่างประเทศ เพื่อระดมความคิดเห็น แบ่งปันองค์ความรู้ และทรัพยากรต่างๆ ตามบทบาทที่สอดคล้องกับหลักการขยายความรับผิดชอบของผู้ผลิต ภายใต้ความร่วมมือของ “เครือข่ายการจัดการบรรจุภัณฑ์อย่างยั่งยืน หรือ EPR Network”

 

 


นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวในเวทีสัมมนา รวมพลังขับเคลื่อน EPR เปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ให้เป็นวัตถุดิบ ว่า ส.อ.ท. มีเป้าหมายในการเร่งยกระดับอุตสาหกรรมเดิมและพัฒนาอุตสาหกรรมใหม่ เพื่อตอบโจทย์การพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) สอดรับกับมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมที่หลายประเทศทั่วโลกกำลังให้ความสำคัญ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในความท้าทายระดับโลก (Global Challenges) โดยไทยต้องเร่งปรับตัวเพื่อให้ธุรกิจเดินหน้าต่อได้อย่างมั่นคง ภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)

สำหรับกลไก EPR ของไทย ขณะนี้มีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง ด้วยการสนับสนุนจากทุกภาคส่วน เพื่อผลักดันให้อุตสาหกรรมเติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ TIPMSE ภายใต้ ส.อ.ท. ได้เตรียมความพร้อมให้กับสมาชิกที่มีอยู่กว่า 16,000 ราย เข้าร่วมเป็นเครือข่ายในการขับเคลื่อนการจัดการบรรจุภัณฑ์อย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ TIPMSE ได้วางแผนดำเนินการใน 4 ด้าน เพื่อพัฒนาการเก็บคืนบรรจุภัณฑ์เข้าสู่ระบบรีไซเคิล ประกอบด้วย 1. พัฒนากลไก EPR ที่เหมาะสมกับประเทศไทย เพื่อพัฒนาร่างกฎหมาย รวมถึงร่วมกับองค์กรในและต่างประเทศ ทำระบบจัดการข้อมูล EPR รวมถึงซากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และคำนวณค่าธรรมเนียม (EPR Fee) และโครงสร้างขององค์กรรับผิดชอบการจัดการบรรจุภัณฑ์ (Producer Responsibility Organization : PRO)


2. พัฒนาระบบเก็บกลับ เพื่อให้เกิดต้นแบบการจัดเก็บตามหลักการ EPR โดยได้นำร่องในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ในโครงการ Packback: Chonburi CE City Model และถอดบทเรียน โดยปีนี้มีแผนยกระดับความร่วมมือในการทดลอง Voluntary PRO และศึกษาวิธีทำงานร่วมกันของ PRO หน่วยงานท้องถิ่น และภาคส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง


3. สร้างการมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยขยายความร่วมมือกับองค์กรที่เป็นศูนย์รวมของกลุ่มเป้าหมายตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง รวมถึงองค์กรต่างๆ ที่จะมาสนับสนุนตลอดเส้นทางห่วงโซ่คุณค่าของบรรจุภัณฑ์ เพื่อให้เป็นกลไกเครือข่ายการจัดการบรรจุภัณฑ์อย่างยั่งยืน” หรือ EPR Network

 

 


4. พัฒนาองค์ประกอบอื่นๆ ผลักดันให้เกิดแนวคิดการออกแบบเพื่อการรีไซเคิล (Design for Recycle) ที่จะช่วยให้บรรจุภัณฑ์กลับมาเป็นวัตถุดิบได้ รวมถึงการพัฒนามาตรการจูงใจเพื่อสนับสนุน EPR เช่น ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีเพื่อดึงดูดให้ใช้ PCR จากแหล่งที่มาภายในประเทศมาใช้ การออกใบรับรองหน่วยงานร่วมขับเคลื่อน (EPR Certification) ที่จะเข้ามาช่วยให้ทุกฝ่ายที่เข้ามามีส่วนร่วมได้รับประโยชน์จากการทำงาน เพื่อใช้ในการสื่อสารและสร้างภาพลักษณ์

นายโฆษิต สุขสิงห์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และประธาน TIPMSE กล่าวว่า ปีนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญ เนื่องจาก TIPMSE ดำเนินงานมาจะครบ 20 ปี ของการก่อตั้งสถาบันฯ ในเดือนธันวาคมนี้ โดยสถาบันฯ มีเป้าหมายผลักดันให้เกิดการ “เปลี่ยนบรรจุภัณฑ์เป็นวัตถุดิบ” ซึ่งเป็นเป้าหมายที่สามารถทำได้จริง ภายใต้ความร่วมมือของภาคีเครือข่าย EPR Network ที่ขยายจากเดิมกว่า 149 หน่วยงาน มาสู่องค์กรศูนย์กลาง ที่ทำหน้าที่เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนทั้งการกระจายข่าวสาร ข้อมูลและความรู้ และผลักดันให้บรรจุภัณฑ์ใช้แล้วกลับมาเป็นวัตถุดิบในระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน

แนวทางดังกล่าว มุ่งเน้นการส่งเสริมการคัดแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง ควบคู่กับการสื่อสารสร้างความรู้ความเข้าใจแก่สังคม อันเป็นผลจากความร่วมมือที่เข้มแข็งของหลายภาคส่วน ซึ่งได้ก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม อย่างไรก็ตาม เครือข่ายยังต้องทำงานอย่างต่อเนื่องและขยายการสื่อสารเรื่อง EPR ไปยังองค์กรสมาชิกให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น


สำหรับการขับเคลื่อน EPR เปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ให้เป็นวัตถุดิบ (EPR in Action) ในครั้งนี้ เกิดจากความร่วมมือระหว่างกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ TIPMSE สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งจัดขึ้นในงาน Sustainable Expo หรือ SX2025 ทั้งนี้ ในแต่ละปีจะมีการขยายความร่วมมือกับองค์กรต่างๆ เพื่อให้การบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมเดินหน้าไปในทิศทางเดียวกัน

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุด

ถอย By : แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ ตลาดหุ้นไทย รอคอย นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ จาก ครม. ตอนนี้ รัฐบาล กำลังแถลงนโยบาย..

GUNKUL คว้ารางวัล "องค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชน ระดับดีเด่น" สามปีซ้อน

GUNKUL คว้ารางวัล "องค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชน ระดับดีเด่น" สามปีซ้อน

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้