Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

บล.เมย์แบงก์ : AT THE OPEN

66

 


AT THE OPEN (#ATO)

SET Index คาด Sideways/Sideways Up
กลยุทธ์เลือกหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว

 

Market Strategy
SET Index คาดแกว่งตามกรอบ 1270-1290 จุด มองการปรับลดมุมมองของ FITCH Rating และส่งออก ส.ค.ขยายตัวน้อยกว่าคาดกระทบต่อตลาดหุ้นจำกัด แต่อาจได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นกว่า 2% รวมถึง ไฮไลท์ของวันนี้อยู่ที่นายกฯ พบ FETCO คาดเสนอมาตรการหนุนต่อตลาดหุ้นในระยะยาว หุ้นเด่นเลือก AWC และ CKP

วานนี้ FITCH Rating ปรับมุมมองของไทยจาก Stable เป็น Negative เหตุเพราะสถานะการคลังที่เสี่ยงสูงขึ้นจากหนี้สาธารณะต่อ GDP เดือน ส.ค. อยู่ที่ 59.4% ขึ้นมาใกล้เคียงกับค่ากลางของกลุ่มประเทศที่เครดิตเรทติ้งระดับ BBB ที่ 59.6% นอกจากนี้ความเสี่ยงทางเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวกดดันต่อภาคส่งออกและท่องเที่ยว รวมถึงความไม่แน่นอนทางการเมือง แต่ยังคงอันดับเครดิตเรทติ้งบ้านเราที่ BBB+ จากสถานะการคลังที่มั่นคง จากดุลบัญชีเดินสะพัดที่เกินดุลต่อเนื่อง ดอกเบี้ยจ่ายต่อรายได้อยู่ที่ 5.7% ต่ำกว่าประเทศที่เครดิตเรทติ้ง BBB ที่ 9.2% โดยปัจจัยที่อาจความเสี่ยงต่อการปรับลดเครดิตเรทติ้งลงคือ แนวโน้มหนี้สาธารณะต่อ การเมืองและเศรษฐกิจที่ชะลอตัวมากกว่าคาด เราประเมินเหตุผลที่ Fitch ใช้ในการปรับลดมุมมองลงเป็นปัญหาที่ตลาดรับรู้ไปก่อนแล้ว และหากพิจารณาจากสถิติการถูกปรับลดมุมมอง Negative จากเครดิตเอเจนซี่ต่างๆ ตั้งแต่ปี 2540 พบว่า SET Index แกว่งทรงตัวในช่วง -0.5% ถึง +0.8% ในช่วง 1 สัปดาห์หลังปรับลดมุมมอง จึงมองแรงกดดันของประเด็นนี้ต่อตลาดเป็นไปอย่างจำกัด

รายงานส่งออกไทยเดือน ส.ค. ขยายตัว 5.8%YoY ต่ำกว่าคาด 7%YoY และชะลอจากเดือนก่อนที่ 11%YoY สาเหตุจากการส่งออกไปสหรัฐฯ ที่โตช้าลงเหลือ 12.8%YoY จากเดือนก่อนที่ขยายตัว 31.4%YoY ด้านรายการสินค้าหลายรายการเริ่มเห็นการโต YoY ช้าลง เช่น คอมพิวเตอร์ ชิ้นส่วนอิเล็คฯ และบางรายการพลิกติดลบ YoY เช่น ยางพารา เครื่องดื่ม อาหารสัตว์ ขณะที่ช่วงที่เหลือของปีแนวโน้มยอดส่งออกคาดโตช้าลง ในเชิงกลยุทธ์เราแนะนำ Underweight ต่อหุ้นกลุ่มอิเล็คฯ และแนะนำ Neutral สำหรับกลุ่มอาหาร

 


Market Summary
SET Index ปรับขึ้น 5 จุดหรือ 0.4% โดยกลุ่มที่หนุนตลาดเป็น Market Cap ใหญ่ที่ถูกแรงขายในช่วงก่อนหน้า นำโดย กลุ่มค้าปลีก CPALL +3.2% ICT ADVANC +1.4% และ AOT +1.9% เป็นต้น ส่วนกลุ่มอื่นๆ ที่บวกเด่น กลุ่มปัจจัยเฉพาะตัว เช่น SAWAD +3% หลังประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.35 บาท/หุ้น เช่นเดียวกับ TTB +1% ประกาศจ่ายปันผล 0.066 บาท/หุ้น BTG +5% จากการประกาศซื้อหุ้นคืนวงเงินไม่เกิน 2 พันล้านบาทและจำนวนหุ้นซื้อคืนไม่เกิน 4.39% ของหุ้นทั้งหมด กลุ่มที่ Underperform กลุ่มอิเล็คฯจาก DELTA -1.8%

 


DAILY Stock Pick
AWC
ซื้อรับ Golden Week
ที่จะเริ่มสัปดาห์หน้า
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 2.90 บาท
เราเลือก AWC เป็น Top pick เนื่องจาก รายได้ต่อห้องของ AWC ใน 4Q68 เติบโต YoY สูงที่สุดในกลุ่ม ในขณะที่เราคาดกำไรปี 67-70 เติบโตเฉลี่ย 20% ต่อปี สูงที่สุดในกลุ่ม ตามการเปิดโรงแรมใหม่และ turnaround ของโรงแรมในเชียงใหม่
ระยะถัดไป คาดได้ Sentiment บวกจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่มีโอกาสกลับฟื้นตัว หนุนจากนักท่องเที่ยวจีนที่เตรียมเข้าสู่ช่วง Golden Week ระหว่างวันที่ 1-8 ต.ค. นอกจากนี้ หากรัฐบาลใหม่ตอบสนองต่อมาตรการกระตุ้นภาคท่องเที่ยวในประเทศที่เอกชนเสนอ เช่น เราเที่ยวด้วยกัน หรือทัวร์ไทยคนละครึ่ง จะถือเป็นปัจจัยบวกเพิ่มเติม

WEEKLY Stock Pick
CKP
2H68 ลานีญาหนุน กอปร Valuation น่าสนใจ
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 3.70 บาท
ENSO index ประจำเดือน ก.ย. 68 ปรับเพิ่มโอกาสเกิด ลานีญา ในเดือน ก.ค. - ธ.ค. 68 โดยมีโอกาสเกิดสูงสุดถึง 70% (จาก 50% ในประมาณการเดิม) ในเดือน ธ.ค. 68 ส่งผลให้ปริมาณน้ำมี upside จากปัจจัยดังกล่าว
เราคาดกำไรปี 68 โต 40%YoY โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของโรงไฟฟ้า XPCL หลังจากที่ต้องหยุดดำเนินการไป 17 วันในปี 2567 ในขณะที่ PE ปี 68 อยู่ที่ 13.1 เท่า (-1.5SD ของค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี) พร้อมกับเงินปันผล 3.1%

 

 


KEY FACTOR
ตัวเลขส่งออกของไทย เดือน ส.ค. ขยายตัว +5.4% YoY ต่ำกว่าที่ Consensus ประเมินว่าจะขยายตัว +7.0% YoY ตลาดที่ยังโตได้ดี นำโดย สหรัฐฯ +12.8%, จีน +5.9%, อาเซียน5 +1.7% แต่ญี่ปุ่น -5.3%, EU27 -1.6%
ภาพรวมรายสินค้าผสมผสาน หมวดหลักหลายกลุ่มอ่อนตัว MoM นำโดย อิเล็กทรอนิกส์ -3.1%, เครื่องใช้ไฟฟ้า -5.7%, เครื่องจักรกล -5.9%, เม็ดพลาสติก -2.9%, สิ่งทอ -10.4%, ผลิตภัณฑ์ยาง -7.4%, เกษตร -21.5% สวนทางน้ำมันสำเร็จรูปที่ดีด +37.8% MoM และยานยนต์ +6.5% MoM บ่งชี้แรงส่งชั่วคราว จากราคาและออเดอร์เฉพาะจุด มากกว่าการเร่งตัวในวงกว้าง โดยอุตสาหกรรมเทคฯ/มูลค่าเพิ่มสูงยังพอประคองตัว แต่กลุ่มเกษตร–วัฏจักรยังอ่อนแรง สะท้อนผลของมาตรการภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ ที่เริ่มเห็นผลกระทบ และการเร่งนำเข้า (front-loading) แผ่วลง
ด้าน YoY เด่นสุดคืออัญมณี/เครื่องประดับ +72.6%, อิเล็กทรอนิกส์ +28.3%, เครื่องบินและชิ้นส่วน +120.4% (แรงหนุนจากฐานต่ำ) และยานยนต์ +1.9% ขณะที่หมวดกดดันยังเป็นเกษตร -18.5%, สิ่งทอ -10.9%, เคมีภัณฑ์ -8.5%, เม็ดพลาสติก -8.7%, ผลิตภัณฑ์ยาง -3.2% สะท้อนการแข่งขันราคารุนแรงและ Demand โลกยังไม่แข็งแกร่ง


EYES ON
25 ก.ย. ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนสหรัฐฯ, GDP 2Q68 (รายงานครั้งสุดท้าย) สหรัฐฯ
26 ก.ย. Core PCE สหรัฐฯ

 

 


นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ, ออมทรัพย์ โง้วศิริ

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้