ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

25 ก.ย. 2568 08:56:02 75

Market Wrap-Up

SET วันที่ 24 ก.ย.68 ปิด +5.21 จุด อยู่ที่ 1,278.41 จุด มูลค่าการซื้อขาย 38,563 ลบ. ต่างชาติซื้อ 1,326 ลบ.รายย่อยซื้อ 1,400 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 188 ลบ. และสถาบันขาย 2,538 ลบ. NVDR มียอดซื้อสุทธิ 772 ลบ.โดยมียอดซื้อในหุ้น ADVANC,KTB,GULF,PTT,CPALL และยอดขายหุ้น BDMS,BH,DELTA,TTB,MINT มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 1,573 ลบ.หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ BCP,MEGA,JTS โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 2,175 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 26,785 สัญญา ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 144 ลบ.
ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -0.37%, S&P500 -0.28%, Nasdaq -0.33% จากแรงขายกลุ่มวัสดุ -1.6%, อสังหา ฯ -1.0% ขณะที่กลุ่มพลังงาน +1.2%, สาธารณูปโภค +0.73% หลัง ปธ.เฟดเตือนราคาหุ้นในตลาดปัจจุบันอยู่ในระดับสูง ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 -0.19% จากแรงชายกลุ่มสินค้าหรูหรา -1.5% เช่น LVMH, Hermes, บริการสุขภาพ -0.6% และกลุ่มยานยนต์ -0.6%
Market View
ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปรับลดลง หลัง ปธ.เฟด เจอโรม พาวเวล เตือนระดับราคาหุ้นในตลาดหุ้นสหรัฐปัจจุบันอยู่ในระดับสูง กอปรเฟดยังต้องระมัดระวังในการลดดอกเบี้ยในระยะต่อไป เพื่อรักษาเสถียรภาพด้านราคา (เงินเฟ้อ) และสมดุลในตลาดแรงงงาน โดยวานนี้กลุ่มวัสดุ -1.6% นำโดย Freeport – McMoRam -17% หลังเกิดเหตุสุดวิสัยที่เหมือง Grasberg ในอินโด ฯ ขณะที่กลุ่มพลังงาน +1.2% ปรับขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ และหุ้น Lithium Americas +95.7% หลังรัฐบาลเข้าถือหุ้นเพิ่มขึ้นเป็น 10% ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจนั้น ยอดขายบ้านใหม่สหรัฐ ส.ค. +20.5% อยู่ที่ 800,000 ยูนิต สูงกว่าคาดที่ 630,000 ยูนิต ค่ำวันนี้ติดตาม US GDP Q2/68, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และวันศุกร์ US PCE ส.ค.ที่เฟดใช้วัดเงินเฟ้อสหรัฐ
Stoxx600 ยุโรปวานนี้ -0.19% จากแรงชายกลุ่มสินค้าหรูหรา, บริการสุขภาพ และยานยนต์ หลัง IFO เผยดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเยอรมัน ก.ย. ปรับลดลงอยู่ที่ 87.7 ต่ำกว่าคาด 89.3 บ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจเยอรมันยังอยู่ในภาวะอ่อนแอ ขณะที่กลุ่มทรัพยากรพื้นฐาน +1.8% ปรับขึ้นตามราคาทองแดงที่สูงสุดในรอบ 15 เดือน และกลุ่มพลังงาน +1.5% ปรับขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ และกลุ่มกลาโหม เช่น Rheinmetall, SAAB ได้แรงหนุนจากความเห็นของ ปธ.ทรัมป์ที่หนุนให้ยูเครนบุกยึดพื้นที่คืนจากรัสเซีย
ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้ +0.83%, ฮั่งเส็ง +1.37% ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยีและสินค้าอุปโภคบริโภค หลัง Alibaba ประกาศเพิ่มงบลงทุนด้าน AI และจีนกำลังร่างกฏเพื่อกระตุ้นการแข่งขันในธุรกิจจัดส่งอาหาร เช่นเดียวกับดัชนีนิเกอิวานนี้ +0.30% ทำจุดสูงสุดใหม่ ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี & AI ขณะที่ Kospi เกาหลีใต้วานนี้ -0.40% ถูกแรงชายทำกำไร หลังดัชนีได้ทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2
SET วานนี้ +0.41% ปริมาณการซื้อขาย 85 หมื่น ลบ. ต่างชาติซื้อ 1,326 ลบ. รายย่อยซื้อ 1,400 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 188 ลบ. และสถาบันขาย 2,538 ลบ. ได้แรงหนุนจากกลุ่ม Domestic Play เช่น ค้าปลีก, ไอซีที และไฟแนนท์ ที่คาดจะได้ประโยชน์จาก ม.กระตุ้นเศรษฐกิจแบบ Quick Win เช่น โครงการคนละครึ่ง, ม.ลดค่าครองชีพประชาชน เช่น ค่าเดินทาง, ค่าขนส่ง และค่าพลังงาน รวมถึง ม.แก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ โดยทางรัฐบาลไม่สนับสนุนโครงการ Entertainment Complex แบบมีคาสิโน และไม่มีการพนันออนไลน์ที่ถูก กม.ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจวานนี้ ก.พาณิชย์รายงานยอดส่งออกไทย ส.ค.+5.8% ต่ำกว่าคาดที่ 6.7 – 6.8% สาเหตุมาจากสินค้าที่ส่งออกไปตลาดสหรัฐเริ่มชะลอตัว หลังเริ่ม ม.เก็บภาษีตั้งแต่ 7 ส.ค. โดยยังตั้งเป้าหมายยอดส่งออกไทยปีนี้เติบโตที่ 2 – 3% ขณะที่ทาง Fitch Rating ได้คงอันดับเครดิตไทยไว้ที่ BBB+ แต่ปรับ Outlook จาก Stable ลงสู่ระดับ Negative สาเหตุมาจากหนี้สาธารณะไทยมีแนวโน้มสูงขึ้น, ภาวะเศรษฐกิจเติบโตช้า และปัจจัยเสี่ยงการเมือง ประเด็นสำคัญวันนี้นายก ฯ จะหารือกับ Fetco เพื่อหาแนวทางกระตุ้นการลงทุนในตลาดหุ้นไทย ตามข้อเสนอ ม.ลดภาษีเงินปันผล และ ม.ลดหย่อนภาษีสำหรับผู้ซื้อกองทุน Thai ESG

Daily Strategy

ประเมินแนวรับดัชนี SET วันนี้ที่ 1,260 - 1,270 แนวต้าน 1,280 - 1,290 คาดดัชนีทรงตัวระหว่างรอ ม.กระตุ้นเศรษฐกิจจาก ครม.อนุทิน แนะนำทยอยซื้อกลุ่มค้าปลีกอุปโภค CPALL,CPAXT,TNP,ICHI/ ไฟแนนท์ SAWAD,AEONTS, TIDLOR, KTC,TISCO และเก็งกำไร PTTEP, PTT ตามการปรับขึ้นของราคาน้ำมันดิบ
WHAUP* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 4.54 บาท) คาดกำไร 2H68 จะเติบโตดีจากการขึ้นค่าน้ำและค่าธรรมเนียมพิเศษจากลูกค้าที่ใช้น้ำเกินโควต้า โดยเฉพาะลูกค้า Data Center ที่เติบโตดี และไม่มีค่าใช้จ่าย one-time ของโรงไฟฟ้า SPP, การปิดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้า Gheco-1 และยังมีส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้า solar rooftop 100 MW ที่จะเริ่ม COD ในครึ่งปีหลัง IAA consensus คาดกำไรปี 68 ทรงตัวที่ 1,094 ลบ. dividend yield ดีที่ 2%
BJC (ซื้อสะสม/ ราคาเป้าหมาย 24.20 บาท) กำไรสุทธิ 2Q68 อยู่ที่ 990 ลบ. (-19%YoY, -9% QoQ) อ่อนตัวจากรายการลบพิเศษ 3 รายการรวม -190 ลบ. และ BigC ที่กดดันจากกำลังซื้อในปะเทศอ่อนแอรวมถึงสภาพอากาศที่ไม่ร้อนส่งผลลบต่อยอดเครื่องใช้ไฟฟ้าทำความเย็น ส่วนการดำเนินงานช่วงครึ่งปีหลัง แม้ 3Q68 คาดว่ายังกดดันตามฤดูกาล แต่จะกลับมาดีใน 4Q68 เป็น High Season รวมถึงคาดว่ากำลังซื้อในประเทศจะมีแรงหนุนเพิ่มเติมจากมาตรการของภาครัฐฯ ทั้งนี้ ปัจจุบัน เราคาดกำไรสุทธิ ปี68 และ ปี69 ของ BJC ที่ 4,669ลบ.(+17%YoY) และ5,288ลบ.(+13%YoY) ตามลำดับ

Daily Key Factors

Oil Update(+) WTI พ.ย.+$1.58 อยู่ที่ $64.99 / บาร์เรล, Brent พ.ย. +$1.68 อยู่ที่ $69.31/บาร์เรล หลัง EIA รายงานสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลง 607,000 บาร์เรล สวนทางคาดจะเพิ่มขึ้น 235,000 บาร์เรล กอปรยูเครนได้โจมตีสถานีสูบน้ำมัน 2 แห่งในภูมิภาควอลโกกราดของรัสเซีย

Gold Update(-) Comex Gold ธ.ค.-47.60 อยู่ที่ $3,768.10 /ออนซ์ ถูกกดดันจาก Dollar Index แข็งค่า +0.63% อยู่ที่ 97.873 และรอข้อมูล US PCE ส.ค. ที่จะรายงานในวันศุกร์นี้

Fund Flow(+) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ซื้อสุทธิ +3.53 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นไทย +41.42 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโดฯ -31.45 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -6.44 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ค่าเงินบาทเช้านี้อ่อนค่าอยู่ที่ 32.08 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(+) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 4.139 %

(+) ดัชนี BDI วานนี้ +40 อยู่ที่ 2,240

(+) BitCoin เช้านี้ +0.67% อยู่ที่ 113,207 ดอลลาร์สหรัฐ

Economic Calendar

ในประเทศ

23 ก.ย. ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์

และชิ้นส่วนยานยนต์

30 ก.ย. ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจและการเงินไทย

สัปดาห์ที4 กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศ

สัปดาห์ที5 สศอ. แถลงดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม

สศค.รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค,

ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค

ต่างประเทศ

23 ก.ย. US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต (ก.ย.)

US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการ (ก.ย.)

24 ก.ย. US ยอดขายบ้านใหม่ ( ส.ค.)

US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

25 ก.ย. US ดัชนีจีดีพี (ไตรมาสต่อไตรมาส) (ไตรมาส 2)

US ยอดขายบ้านมือสอง (Existing Home Sales) ( ส.ค.)

US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

26 ก.ย. US ดัชนีราคาด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE Price Index) ( ส.ค.)

Theme Strategy

Theme หุ้นที่มีปัจจัยบวกตามกระแส Megatend, คาดทิศทางดอกเบี้ยเข้าสู่ขาลง, Earning Play 2Q68, High Season ไตรมาส3, และ กลุ่มที่ได้ประโยชน์จาก Trade War สหรัฐ-จีน ลดความรุนแรงลง

(1) กลุ่มการเงิน คาดการณ์ดอกเบี้ยนโยบายลดลงในช่วง 2H68 NCAP*, SINGER* ,SGC* , MTC*, SAWAD*, TIDLOR*

(2) กลุ่มโรงไฟฟ้า ได้ประโยชน์ตามฤดูกาลจากฤดูร้อน GULF*, GPSC*, BCPG

(3) กลุ่ม China Play คาดความตึงเครียดทางการค้าผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว และรัฐบาลจีนมีโอกาสออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น SCC* ,SCGP* , PTTGC, IVL*

(4) กล่มสินค้า IT ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยี ADVICE* ,COM7* SYNEX*, SIS*

(5) สินค้าจำเป็นและการบริโภคในชีวิตประจำวันที sensitive น้อยต่อกำลังซื้อในประเทศชะลอตัว เช่น CPALL , MALEE*, BJC , NSL*

(6) กลุ่มส่งออกที่ผันผวนตามประเด็นภาษีศุลกากรสหรัฐฯ เน้น เก็งกำไร เมื่อมีพัฒนการเชิงบวกของการเจรจาไทย-สหรัฐฯ เช่น DELTA*, CCET*, KCE*, TU, ITC*, ASIAN*, AAI*, COCOCO*

(7) กลุ่มร.พ.ที่ไตรมาส 2 เป็น Low Season แต่เข้าสู่ High Season ในไตรมาส3 เช่น BDMS, SKR, WPH*, PR9*

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 35% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%

Today Fundamental Research: -

Monthly Portfolio September 2025: SEAFCO*, CPN*, PTTGC*, GULF*, CBG*

Analysts

Apichai Raomanachai

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No. 002939

Tel 02-829-6999 Ext 2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Meena Tunlayanitigun

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No. 033662