---ธุรกิจอ่อนตัวลงใน 3Q25-QTD แต่มีแนวโน้มฟื้นตัวใน 4Q25F---
คาดการณ์กำไรหลัก 3Q25F ลดลง -3%YoY และ -25%QoQ เป็น 859 ล้านบาท ซึ่งการอ่อนตัวเป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจซบเซา จำนวนนักท่องเที่ยวลดลง คาดรายได้ลดลงเล็กน้อย และEBIT margin อ่อนลง ส่วนดอกเบี้ยจ่ายต่ำลงซึ่งช่วยให้กำไรสุทธิลดลงไม่มากเมื่อเทียบ YoY
ผลประกอบการ Big C ถูกกดดันจากนักท่องเที่ยวลดลง โดยยอดขายสาขาเดิม (SSSG) งวด 3Q25-QTD ติดลบเลขหลักเดียวด้านต่ำ (ใน 2Q25 ติดลบที่ -3.2%) ซึ่งเห็นความอ่อนแอชัดเจนในสาขาที่อยู่ในแหล่งท่องเที่ยว (คิดเป็นประมาณ 17-18% ของยอดขาย Big C) ส่วนสาขาที่ไม่ได้พึ่งพิงนักท่องเที่ยวยังไปได้ดี ยอดขายทรงตัวถึงลดลงเพียงเล็กน้อย บริษัทมีการปรับ product mix และทำโปรโมชั่นเฉพาะกลุ่มเพื่อกระตุ้นยอดขายอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ยอดขายอาหารสด (เช่น เบเกอรี่ อาหารพร้อมรับประทาน สินค้านำเข้า) มียอดขายที่เติบโต
ธุรกิจให้เช่า...คาดรายได้ จะหดตัวเล็กน้อยจากการปิดปรับปรุงสาขาไฮเปอร์มาร์เก็ต (BJC มีแผนปรับปรุง16 สาขาในปี 2025) อย่างไรก็ดี ผู้บริหารย้ำว่าหลังปรับปรุงแล้วSSSG จะดีขึ้น และรายได้ค่าเช่าเพิ่มขึ้น 5–6%
ธุรกิจบรรจุภัณฑ์ยังอ่อนแอ คาดว่ายอดขายจะลดลงเล็กน้อย YoY เนื่องจากรายได้ ธุรกิจขวดแก้วหดตัวระดับเลขหลักเดียวสูง จากราคาขายลดลงตามต้นทุนวัตถุดิบที่ถูกลง ขณะที่กระป๋องอะลูมิเนียมกลับมาเติบโตเล็กน้อยจากปริมาณขายที่ฟื้นตัวหลังลูกค้ารายสำคัญกลับมาสั่งซื้ออีกครั้งตั้งแต่พ.ค.2025
สินค้าอุปโภคบริโภคยังคงเติบโตแข็งแกร่ง คาดว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้นเลขหลักเดียวระดับกลางถึงสูงเมื่อเทียบ YoY นำโดยธุรกิจอาหารที่เติบโตต่อเนื่อง และการได้ตัวแทนจัดจำหน่ายใหม่ เช่น 4-PL และ DSG มาช่วยหนุนยอดขายแต่ยอดขายต่างประเทศอาจลดลงจากผลกระทบค่าเงินบาทแข็ง
ยอดขายธุรกิจ Healthcare & Technical (H&T) อ่อนตัวจากฐานสูงปีก่อน โดยคาดว่ายอดขายจะลดลงเลขหลักเดียวสูง YoY (ไม่รวมการขายธุรกิจ Thai Scandic) และหากรวม Thai Scandic จะลดลงระดับตัวเลขหลักสิบต้นๆ เมื่อเทียบ YoY
อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) งวด 3Q25F คาดว่าจะทรงตัว YoY แม้ว่า GPM ของธุรกิจบรรจุภัณฑ์จะลดลง แต่ได้รับการชดเชยจากต้นทุนขนส่งลดลง ความพยายามในการลดต้นทุน การปรับ product mix (เพิ่มสัดส่วนยอดขายสินค้าที่มาร์จิ้นสูง) ด้านค่าใช้จ่ายขายและบริหารก็จัดการได้ดี คาดสัดส่วน SGA/รายได้ทรงตัว YoY
แนวโน้ม 4Q25F ฟื้นตัวดีขึ้น QoQ จากปัจจัยฤดูกาล (4Q เป็น high season ของท่องเที่ยว) ได้อานิสงค์จากมาตรการกระตุ้นของรัฐบาล โดยเฉพาะโครงการคนละครึ่ง โดยมีวงเงินเฟสแรก 2.5 หมื่นล้านบาท
คงคำแนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 24 บาท (DCF) ราคาหุ้นปัจจุบันมี P/E ปีนี้ 17.6 เท่า (Mean-1.4SD)
นักวิเคราะห์&กลยุทธ์ : นันทิกา เวียงเพิ่ม : nantikawiang@dbs.com