ภาวะตลาด SET Index วานนี้ อ่อนตัวลง -9.34 จุด ปิดที่ 1273.20 มูลค่าซื้อขาย 4.0 หมื่นลบ. เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ ทั้งนี้แม้ว่าหุ้น DELTA จะปรับขึ้น +5.50 บาท (+3.4%) แต่ก็ไม่สามารถต้านทานการปรับฐานของดัชนี เนื่องจากราคาหุ้น Big cap ที่เคยพยุงตลาดได้อ่อนตัวลง เช่น THAI, GULF, ADVANC, CPALL ฯลฯ นักลงทุนสถาบันในปท.ขายสุทธิ -841 ลบ. ต่างชาติขายสุทธิ -931 ลบ.

ปัจจัยต่างประเทศ
• สหรัฐ: ดัชนี PMI เบื้องต้นภาคผลิตและบริการเดือนก.ย.ลดเป็น 53.6 ต่ำสุดในรอบ 3 เดือน ด้านประธานเฟดกล่าวสุนทรพจน์ว่าการลดดอกเบี้ยในวันข้างหน้า ต้องพิจารณาทั้งความเสี่ยงเงินเฟ้อและตลาดแรงงานที่อ่อนแอลง นักวิเคราะห์มองว่า เฟดยังมีท่าทีสนับสนุนการลดดอกเบี้ย แต่ก็จะใช้ความระมัดระวังมากขึ้น
• ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปิดอ่อนลง หลังทำ record high ด้านราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นกว่า 1 US$ เป็ น 63.4-67.6 US$/bbl จากข่าวแผนส่งออกน้ำมันของอิรักไปตุรกียังดำเนินการไม่ได้ เพราะผู้ผลิตส าคัญเรียกร้องการค้ำประกันชำระหนี้ สัญญาทองคำปรับขึ้นต่อ +40.6 US$ สู่ระดับ 3,815.7 US$/ออนซ์ ซึ่งเป็น all-time high ดัชนีค่าเงิน US$ ทรงที่ 97.3 ส่วนเงินบาทอยู่ที่ 31.8-31.9 Bt/US$ ส่วน US bond yield 10 ปี อ่อนเป็น 4.10% ดัชนีราคาถ่านหิน (NC) บวกเล็กน้อยเป็น 105.4 ดัชนี Baltic Dry Index เด้งขึ้นสู่ระดับ 2,200

ปัจจัยในประเทศ & ข่าวหุ้นเด่น
• กลุ่มเทคโนโลยี : การ์ทเนอร์คาดยอดใช้จ่าย AI ทั่วโลกปีนี้แตะ 1.5 ล้านล้านUS$ และทะลุ 2 ล้านล้านUS$ ปี 26…เป็นบวกกับกลุ่ม Data Center / Cloud Infrastructure, กลุ่ม ICT / SI (System Integrator), กลุ่มโรงไฟฟ้า, กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม, กลุ่ม Telecom / Fiber Network หุ้น Top Picks ของเราเป็น เป็น ADVANC, HANA, KCE, GULF, AMATA
• กลุ่มน้ำมัน: EIA คาดราคาน้ำมันดิบ BRENT จะถอยลงใน 4Q25 และปี 26 แต่ราคาก๊าซปรับขึ้นในช่วงเดียวกัน...สุทธิแล้วจะเป็นบวกกับ PTTEP ในปี 2026 เนื่องจากบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจก๊าซ 65-70% ของรายได้รวม และรายได้จากคอนเดนเสทและน้ำมัน 25-30% ส่วนธุรกิจโรงไฟฟ้าอาจได้รับผลลบ จากต้นทุนก๊าซที่ มีแนวโน้มสูงขึ้นในปี 2026 ขณะที่รัฐบาลมีนโยบายลดค่าไฟฟ้าลง
• ติดตามการแถลงนโยบายรัฐบาลอนุทิน 1 ในช่วงต้นเดือนต.ค.25 ด้านพรรคฝ่ายค้าน เตรียมอภิปรายนโยบายรัฐบาล-คุณสมบัติรัฐมนตรี

กลยุทธ์ : อาจมีเด้ง...แต่ถ้ายังไม่กลับไปยืนเหนือ 1280 ก็ มีโอกาสลงไปที่ 1265-1260, 1250...SET พักฐานต่อและหลุดต่ำกว่าแนวฟิวเตอร์ที่ 1280อย่างไรก็ตาม มีโอกาสเด้งหลังลดลงต่อเนื่องมา 4 วันทำการ โดยมีแนวต้าน 1280, 1290-1300 หรือสูงกว่า แต่ถ้ารีบาวด์แล้วยืนเหนือ 1280 ไม่ได้/หรืออ่อนตัวต่อจะมีแนวรับ 1265-1260, 1250

หุ้นพื้นฐานแนะนำวันนี้ : TTB – ประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาลสำหรับงวด 1H25 เท่ากับ 0.066 บาท/หุ้น (เทียบกับ 0.065 บาท/หุ้นใน 1H24) ซึ่งใกล้เคียงกับที่เราคาดไว้ ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 6 ต.ค.25 ชำระเงิน 22 ต.ค.25 ณ ราคาหุ้นปัจจุบันคิดเป็น Interim DY เท่ากับ 3.5% ส่วนครึ่งหลังปี 25 คาดการณ์เงินปันผลไว้ที่ 0.065-0.066 บาท/หุ้น นับว่า TTB ให้ DY ต่อปีที่จูงใจมาก (ราว 7% ต่อปี) ขณะที่ธุรกิจยังมั่นคง บริหารจัดการคุณภาพสินทรัพย์ได้ดี และมีผลขาดทุนจากการปิด TBANK มาช่วยลดภาษีรายได้ฯ ราคาปัจจุบันมี P/BV ที่ 0.8 เท่า แนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 2.22 บาท

นักวิเคราะห์&กลยุทธ์: อาภาภรณ์ แสวงพรรค : arparporns@dbs.com : Tel 02 587 7829