TASCO : ปัจจัยหนุนจากโครงสร้างพื้นฐานหนุนการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งใน 4Q25 และ 1H26

เตรียมพร้อมฟื้นตัวจากความต้องการโครงสร้างพื้นฐานที่เร่งตัวขึ้น
เราคาดว่า TASCO จะรายงานกำไรที่อ่อนตัวลงใน 3Q25F เนื่องจากฐานที่สูงในปีก่อนหน้าและภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอตามฤดูกาลในช่วงฤดูฝน แม้ว่าอุปสงค์ภายในประเทศอาจชะลอตัวในระยะสั้น แต่แนวโน้มการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งใน 4Q25 ยังคงเดิม โดยได้รับแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล การซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐานหลังน้ำท่วม และปริมาณการส่งออกที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะไปยังอินโดนีเซีย เรายังคงประมาณการและคำแนะนำ "ซื้อ" ด้วยมูลค่าที่เหมาะสมเท่ากับ 16.30 บาท โดยได้รับแรงหนุนจากมูลค่าที่เหมาะสมและอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่น่าสนใจ

กำไรใน 3Q25F จะลดลงทั้ง YoY และ QoQ
เราคาดว่ากำไรสุทธิของ TASCO ใน 3Q25F จะลดลงทั้ง YoY และ QoQ การลดลง YoY สะท้อนถึงความแข็งแกร่งอย่างมากใน 3Q24 ซึ่งเป็นผลมาจากการอนุมัติงบประมาณที่ล่าช้าซึ่งส่งผลให้ความต้องการยางมะตอยเพิ่มสูงขึ้น ความอ่อนตัว QoQ น่าจะเป็นผลมาจากฤดูฝน ซึ่งโดยทั่วไปจะทำให้กิจกรรมการก่อสร้างชะลอตัวลง และการบริโภคยางมะตอยในประเทศลดลง แม้ว่าปริมาณการส่งออกอาจช่วยสนับสนุนได้บางส่วน แต่คาดว่าแรงกดดันด้านอัตรากำไรและยอดขายในประเทศที่ลดลงจะส่งผลกระทบต่อผลประกอบการโดยรวม

4Q25F คาดว่าจะฟื้นตัวจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ งบประมาณ และโมเมนตัมของการส่งออก
เราคาดว่าความต้องการยางมะตอยจะฟื้นตัวอย่างรวดเร็วใน 4Q25F ซึ่งได้รับแรงหนุนจากปัจจัยบวกหลายประการที่เข้ามาบรรจบกัน มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลมูลค่า 1.15 แสนล้านบาท ซึ่ง 2.916 หมื่นล้านบาทจัดสรรให้กับกรมทางหลวง และ 1.473 หมื่นล้านบาทจัดสรรให้กับกรมทางหลวงชนบท โดยงบประมาณส่วนใหญ่จะถูกจัดสรรให้กับการบำรุงรักษาถนน ซึ่งโดยทั่วไปเกี่ยวข้องกับการปูผิวถนนใหม่ กำหนดให้สัญญาโครงการต้องแล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน ซึ่งจะปูทางไปสู่กิจกรรมการก่อสร้างและการใช้ยางมะตอยที่เพิ่มขึ้นใน 4Q นอกจากนี้ การซ่อมแซมถนนหลังน้ำท่วมในหลายจังหวัดน่าจะช่วยกระตุ้นความต้องการในระยะสั้น ปริมาณการส่งออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งไปยังอินโดนีเซีย มักจะเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี ส่งผลให้มีกำไรเพิ่มขึ้นอีก ที่สำคัญ เมื่อมีการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่และงบประมาณปีงบประมาณ 2026F ได้รับการอนุมัติแล้ว เราคาดว่าการเบิกจ่ายงบประมาณจะเริ่มขึ้นอย่างรวดเร็วใน 4Q และดำเนินต่อไปจนถึง 1H26 การอนุมัติที่ทันเวลาในปีนี้จะช่วยสนับสนุนแนวโน้มความต้องการยางมะตอยที่แข็งแกร่งและยั่งยืนไปจนถึงปีหน้า

คงประมาณการและคำแนะนำ "ซื้อ" สำหรับ TASCO ด้วยมูลค่าที่เหมาะสมเท่ากับ 16.30 บาท
เรายังคงประมาณการและมูลค่าที่เหมาะสมไว้ที่ 16.30 บาท โดยอิงจากอัตราส่วนราคาต่อกำไร (PER) ปี 2025 ที่ 14 เท่า ซึ่งสอดคล้องกับค่าเฉลี่ยย้อนหลังสามปีของ TASCO เรายังคงคำแนะนำ "ซื้อ" ด้วยแนวโน้มขาขึ้นใน 4Q25 และอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่น่าสนใจ ความเสี่ยงหลัก ได้แก่ ปริมาณการขายที่ต่ำกว่าที่คาด แรงกดดันด้านราคาจากความผันผวนของราคาน้ำมันโลก และความผันผวนของอัตรากำไรจากต้นทุนวัตถุดิบ และต้นทุนโลจิสติกส์