Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

88(ไทยแลนด์) สรุปราคาไอพีโอ 5.45 บาท/หุ้น เปิดขาย25-26และ29ก.ย.นี้

86


สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 23 กันยายน 2568)--------บริษัท 88(ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) 88TH ประกอบธุรกิจผลิตและจัดจำหน่าย กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและหนังศีรษะ ภายใต้แบรนด์ "ไลโอ" กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ภายใต้แบรนด์ "โฮน" และกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ภายใต้แบรนด์ "เวอร์.88" โดยมีการจัดจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ ตัวแทนจำหน่าย และโมเดิร์นเทรดชั้นนำ เปิดเผยว่า บริษัทฯได้สรุปราคาเสนอขายไอพีโอ ที่ 5.45 บาทต่อหุ้น ระยะเวลาการเสนอขายวันที่ 25 กันยายน 2568 - 26 กันยายน 2568และวันที่ 29 กันยายน 2568


จํานวนหุ้นที่เสนอขายไม่เกิน 59,500,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 28.00 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯในครั้งนี้ซึ่งประกอบด้วย (1) หุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ จำนวนไม่เกิน 42,500,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละไม่เกิน 20.00 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญในครั้งนี้ และ (2) หุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดย Ilkano Pte. Ltd. จำนวนไม่เกิน 17,000,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละไม่เกิน 8.00 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญในครั้งนี้


ราคาหุ้นสามัญของบริษัทฯ ที่เสนอขายในครั้งนี้หุ้นละ 5.45 บาท โดยคำนวณจากผลการดำเนินในช่วง 4 ไตรมาสล่าสุด (ตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี 2567 ถึงไตรมาส 2 ปี 2568) ซึ่งมีกำไรสุทธิเท่ากับ 89.72 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วก่อนการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้เท่ากับ 170,000,000 หุ้น จะได้กำไรสุทธิต่อหุ้น (Earnings Per Share) เท่ากับ 0.53 บาทต่อหุ้น และคิดเป็นอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Price to Earnings Ratio : P/E) ประมาณ 10.28 เท่า ภายหลังการเสนอขายในครั้งนี้ หากพิจารณากำไรสุทธิของบริษัทฯ ในช่วง 4 ไตรมาสล่าสุด (ตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี 2567 ถึง ไตรมาส 2 ปี 2568) ซึ่งเท่ากับ 89.72 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วหลังการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้เท่ากับ 212,500,000 หุ้น จะได้กำไรสุทธิต่อหุ้น (Earnings Per Share) เท่ากับ 0.42 บาทต่อหุ้น และคิดเป็นอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Price to Earnings ratio : P/E) ประมาณ 12.91 เท่า


วัตถุประสงค์การใช้เงิน จำนวนเงินที่ใช้ (ล้านบาท) ระยะเวลาที่ใช้เงินโดยประมาณ

1. เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ บริษัทฯ มีแผนในการพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์เดิม และ/หรือการออกแบบวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้แบรนด์ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ เพื่อขยายฐานผลิตภัณฑ์และขยายช่องทางการจัดจำหน่าย ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับโอกาสทางธุรกิจและความเหมาะสมในการลงทุนในอนาคต รวมถึงใช้เป็นค่าใช้จ่ายการตลาด การประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ และค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจ 213.79 ภายในปี 2571
รวมทั้งหมด 213.79

การประมาณการวัตถุประสงค์การใช้เงินข้างต้น เป็นไปตามแผนธุรกิจและโครงการในอนาคตของบริษัทฯ ในการจัดสรรเงินที่ได้จากการเสนอขายหลักทรัพย์ครั้งนี้ ทั้งนี้ โครงการในอนาคตของบริษัทฯ และค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงอาจแตกต่างกันไป ดังนั้นแผนการใช้เงินที่เกิดขึ้นจริงอาจมีความแตกต่างไปจากประมาณการที่ระบุไว้ข้างต้น และทำให้บริษัทฯ อาจมีความจำเป็นต้องจัดสรรเงินที่จะได้รับจากการเสนอขายหลักทรัพย์ในครั้งนี้แตกต่างไปจากวัตถุประสงค์การใช้เงินที่ระบุไว้ ทั้งนี้ กรณีดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อแผนการลงทุนของบริษัทฯ อย่างมีนัยสำคัญ และในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ บริษัทฯ จะดำเนินการให้เป็นไปตามประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ที่ สจ. 63/2561 เรื่องการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์การใช้เงินตามแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวน

 

โครงการในอนาคต

การออกผลิตภัณฑ์หรือการขยายประเภทผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้แบรนด์ของบริษัทฯ

เนื่องจากตลาดผลิตภัณฑ์เพื่อความงามถือเป็นตลาดสินค้าอุปโภคที่มีขนาดใหญ่และมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และความต้องการของผลิตภัณฑ์เพื่อความงามที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ซึ่งในปัจจุบันผู้บริโภคให้ความสำคัญกับเทรนด์การดูแลสุขภาพและความงามมากขึ้น รวมถึงการคาดการณ์ว่าตลาดผลิตภัณฑ์เพื่อความงามมีแนวโน้มการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ จึงได้มีการกำหนดแผนการตลาดและการออกผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อให้สอดคล้องพฤติกรรมผู้บริโภคและกระแสนิยมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยบริษัทฯ มีแผนที่จะใช้เงินระดมทุนที่ได้จากการออกและเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนครั้งนี้ ในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ต่อเนื่องในทุกๆ ปี เพื่อขยายตลาดและตอบโจทย์ผู้บริโภคเป้าหมายอยู่เสมอ ซึ่งบริษัทฯ อยู่ระหว่างศึกษาตลาดและความเป็นไปได้ในการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ในปี 2568 – 2571 ของกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและหนังศีรษะ (Hair Care) ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว (Skincare) และผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง (Cosmetics) ภายใต้แบรนด์ “LYO” แบรนด์ “Hone” และแบรนด์ “ver.88” เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีความเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นสอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค รวมถึงประเมินขนาดตลาดและศักยภาพการเติบโตของอุตสาหกรรม การศึกษาคู่แข่งและตำแหน่งทางการตลาดที่เหมาะสม ความพร้อมด้านเทคโนโลยีและทรัพยากรขององค์กร


สำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่ที่คาดว่าจะออกและจัดจำหน่ายในปี 2568 - 2571 บริษัทฯ จะศึกษาตลาดและความเป็นไปได้ในการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ รวมถึงได้คัดเลือกผู้รับจ้างผลิตที่มีความเชี่ยวชาญในประเภทผลิตภัณฑ์ มีกระบวนการผลิตเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนดและเป็นไปตามมาตรฐานสากล เพื่อวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกัน สำหรับขั้นตอนหลักก่อนออกผลิตภัณฑ์ใหม่จะประกอบด้วย ขั้นตอนวิจัย พัฒนา ประเมินผลการทดลองด้านประสิทธิภาพ คุณภาพ ความปลอดภัย และคุณสมบัติอื่นของผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาขึ้น เทียบกับมาตรฐานที่กำหนด ซึ่งโดยปกติมีระยะเวลาประมาณ 6 - 12 เดือน โดยคาดว่าจะสามารถออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่อยู่ระหว่างพัฒนาได้ในช่วงปลายปี 2568 - 2569 นอกจากนี้ บริษัทฯ จะจัดทำประมาณการรายได้ ต้นทุน เพื่อการบริหารต้นทุนที่เหมาะสมและวิเคราะห์ศักยภาพการทำกำไรที่จะสามารถแข่งขันได้ รวมถึงจะประเมินอัตราผลตอบแทนภายใน (Internal Rate of Return: IRR) ของการออกผลิตภัณฑ์ใหม่นี้ด้วยเป้าหมายร้อยละ 10 - 15 เพื่อพิจารณาความคุ้มค่าในการลงทุน โดยครอบคลุมปัจจัยต่างๆ ที่อาจมีผลกระทบต่อผลตอบแทน เช่น ปริมาณการขาย ราคาขาย ต้นทุนการผลิต และค่าใช้จ่ายในการขายและการตลาด รวมถึงบริษัทฯ จะมีการพิจารณาอัตรากำไรขั้นต้นให้เป็นไปตามที่นโยบายของบริษัทฯ กำหนด และการพิจารณาค่าใช้จ่ายในการขายและการตลาด การประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ผ่านสื่อออฟไลน์ (Offline) และผ่านสื่อออนไลน์ (Online) เพื่อสร้างการรับรู้และจดจำแบรนด์ (Brand Awareness) อีกทั้งจะพิจารณาผลกระทบต่อภาพลักษณ์และกลยุทธ์โดยรวมของบริษัทฯ เพื่อให้มั่นใจว่าการตัดสินใจในการออกผลิตภัณฑ์หรือการขยายประเภทผลิตภัณฑ์ใหม่นี้ จะสามารถสร้างผลลัพธ์ที่ดีที่สุดให้กับองค์กรในระยะยาว ซึ่งบริษัทฯ อาจมีความเสี่ยงจากการพัฒนาและออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ในกรณีที่ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวไม่ได้รับการตอบรับตามที่ได้จัดทำประมาณการยอดขายไว้

ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้เปิดเผยความเสี่ยงดังกล่าวในข้อที่ 2.2.4 ความเสี่ยงจากการพัฒนาและออกผลิตภัณฑ์ใหม่สู่ตลาด


นโยบายการจ่ายเงินปันผล

บริษัทฯ มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิ

 

ในปี 2565 - 2567 และงวดหกเดือนแรกของปี 2568 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิเท่ากับ 13.20 ล้านบาท 25.91 ล้านบาท 55.77 ล้านบาท และ 50.45 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิเท่ากับร้อยละ 4.86 ร้อยละ 7.10 ร้อยละ 11.64 และร้อยละ 16.41 ตามลำดับ ปี 2565 กำไรสุทธิมาจากรายการหลัก ได้แก่ รายได้จากการขายและบริการ 268.77 ล้านบาท กำไรขั้นต้นเท่ากับ 192.61 ล้านบาท รายได้อื่น 2.80 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในการขายและจัดจำหน่ายเท่ากับ 133.41 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายในการบริหารเท่ากับ 43.69 ล้านบาท โดยปี 2566 - 2567 และงวดหกเดือนแรกของปี 2568 บริษัทฯ มีอัตรากำไรสุทธิสูงขึ้นโดยมีสาเหตุมาจากรายได้จากการขายและบริการที่เติบโตขึ้น และค่าใช้จ่ายในการขายและจัดจำหน่ายและค่าใช้จ่ายในการบริหารมีสัดส่วนต่อรายได้ที่ลดลงจากการควบคุมค่าใช้จ่ายในการทำการตลาดการวางแผนสื่อโฆษณา และอัตราค่าใช้จ่ายการประชาสัมพันธ์ลักษณะพรีเซ็นเตอร์และให้บริการพื้นที่สื่อออนไลน์ที่ลดลง ทั้งนี้ มูลค่าค่าใช้จ่ายในการขายและจัดจำหน่ายเพิ่มขึ้นซึ่งสอดคล้องกับรายได้จากการขายและบริการที่เพิ่มขึ้น รวมถึงบริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายในการทำการตลาด การโฆษณาประชาสัมพันธ์จากการเปิดตัวและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่ในปี 2567 ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่แปรผันตามรายได้ เช่น ค่าถ่ายทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ ค่าใช้จ่ายในการออกรายการผ่านสื่อ และค่าใช้จ่ายการจัดกิจกรรมออกงานโฆษณาผลิตภัณฑ์ เป็นต้น และค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้นมีสาเหตุหลักมาจากการปรับขึ้นเงินเดือนประจำปีและโบนัส และในปี 2567 บริษัทฯ รับรู้ค่าใช้จ่ายทางภาษีการทบทวนการคำนวณภาระภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีเงินได้นิติบุคคลของปี 2563 – 25671/ จากที่นำส่งภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับผู้รับฝากขายบางรายไม่ครบถ้วน

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ขอลงลึก อีกนิด By : แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ เห็น ดัชนีหุ้นไทย ตอนนี้ แบบว่า ขอให้หุ้น ให้SET ลงอีกนิด เอาแบบ แตะ 1,270 จุด....

SA คว้ารางวัล "องค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชน ระดับดีเด่น ประจำปี 2568"

SA คว้ารางวัล "องค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชน ระดับดีเด่น ประจำปี 2568"

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้