ภาวะตลาด SET Index วานนี้ ขึ้นไปที่ 1296.42 (+3.70 จุด) แล้วเจอแรงขายทำกำไร โดยปิดตลาดในระดับต่ำสุดของวันที่ 1282.54 ลดลง -10.18 จุด มูลค่าซื้อขาย 3.1 หมื่นลบ. ทั้งนี้ตลาดรอปัจจัยใหม่ ทั้งการแถลงนโยบายของรัฐบาลใหม่ ตัวเลขเศรษฐกิจส าคัญของสหรัฐและประเทศต่างๆ นักลงทุนสถาบันในปท.ขายสุทธิ -1.55 พันลบ. ต่างชาติขายสุทธิ -1.67 พันลบ.

ปัจจัยต่างประเทศ
• สหรัฐ: ประธานเฟดเซนต์หลุยส์และแอตแลนตา ตั้งคำถามการลดดอกเบี้ยในระยะต่อไป ขณะที่การลดเงินเฟ้อยังเป็นสำคัญเป็นอันดับแรก อย่างไรก็ตาม ตลาดยังมีความหวังว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยต่อในช่วงที่เหลือของปีนี้ ...จับตาสุนทรพจน์ประธานเฟดในการประชุมว่าด้วยแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐวันนี้ (23 ก.ย.) และติดตามรายงานรายงานจีดีพี 2Q25 (final), ดัชนี PCEเดือนส.ค.25
• ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปิดปรับขึ้นทำ record high ทั้ง 3 ดัชนี หนุนโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี นำโดยหุ้น Nvidia, Apple ด้านราคาน้ำมันดิบทรงตัวที่ 62.6-66.6 US$/bbl โดยยังกังวลกับภาวะอุปทานสูง ขณะที่อุปสงค์ลดลงในฤดูการปิดซ่อมบำรุง สัญญาทองคำพุ่งขึ้น +69.3 US$ 3,775.10 US$/ออนซ์ ดัชนีค่าเงิน US$ อ่อนเป็น 97.3 ส่วนเงินบาทอยู่ที่ 31.7-31.8 Bt/US$ ส่วน US bond yield 10 ปี ขยับขึ้นเป็น 4.18% ดัชนีราคาถ่านหิน (NC) บวกเล็กน้อยสุ่ระดับ 103.9 ดัชนี Baltic Dry Index อ่อนลงสู่ 2,172

ปัจจัยในประเทศ & ข่าวหุ้นเด่น
• กองทุนน้ำมัน ณ 21 ก.ย.25 ติดลบลดลงเหลือเพียง 1.9 หมื่นลบ. (จากสูงสุดที่แสนลบ.) เนื่องจากราคาน้ำมันในตลาดโลกลดลง คาดค่าการตลาดน้ำมันยังคงแข็งแกร่ง หนุนผลประกอบการ PTG, OR, SUSCO โดยเราให้ PTG เป็นหุ้น Top pick
• ครม.ใหม่จะถวายสัตย์ปฏิญาณ ในวันที่ 24 ก.ย.นี้ 18:00 น. และจะมีประชุมครม.นัดพิเศษทันที เพื่อพิจารณา “ร่างนโยบายรัฐบาล” ที่จะส่งต่อให้รัฐสภา หลังจากนั้นครม.จะแถลงนโยบายรัฐบาลต่อที่ประชุมรัฐสภาเพื่อขอความเห็นชอบ ตามกระแสข่าวคาดเป็นวันที่ 1-2 ต.ค.นี้ และเมื่อได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาแล้ว คณะรัฐมนตรีทุกคนจะสามารถทำงานตามภาระกิจได้

กลยุทธ์ : ถ้าไม่หลุดแนวฟิวเตอร์ 1280 ยังมีลุ้นแกว่งขึ้น...SET ยังมีการพักฐานต่อ ถ้าการอ่อนตัวไม่ต่ำกว่าแนวฟิวเตอร์ที่ 1280 ก็ยังมีลุ้นแกว่งขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1290-1300, 1315-1320 ส่วนแนวรับให้ ไว้ที่ 1280 ถ้าหลุด 1280 จะมีโอกาสลงไปที่ 1260, 1250

หุ้นพื้นฐานแนะนำวันนี้ : MTC – สินเชื่อขยายตัวแกร่ง หนุนโดยการขยายสาขา และสินเชื่อต่อสาขาที่สูงขึ้น โดยสินเชื่อต่อสาขาเพิ่มเป็น 20.73 ล้านบาทใน 2Q25 (จาก 20.10 ในสิ้นปี 2024 และ 15.83 ล้านบาทในสิ้นปี 2021) บ่งชี้ถึงประสิทธิภาพที่ดีขึ้น สำหรับสินเชื่อ 2Q25 โต +13% YoY และ+6.4% YTD เน้นสินเชื่อที่ไม่หลักประกัน (สินเชื่อจำนำ) แนวโน้มสินเชื่อขยายตัวดีต่อ คาดกำไรปี 25F โต +17% ทำ new high แม้ต้นทุนเครดิตสูงขึ้นระยะกลาง-ยาวได้อานิสงค์จากอัตราดอกเบี้ยขาลง แนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 65 บาท อิงกับ P/BV ปีนี้ที่ 3.2 เท่า (Mean-0.5SD)

นักวิเคราะห์&กลยุทธ์: อาภาภรณ์ แสวงพรรค : arparporns@dbs.com : Tel 02 587 7829