Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

บล.เอเซีย พลัส : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

90

 

SET ติดๆ ตึงๆ ช่วงสั้น
HORIZON MARKET VIEW
•ธีมการลงทุนภาพใหญ่ยังอยู่ภายใต้ LIQUIDITY DRIVEN หลังเห็นสัญญาณการเคลื่อนย้ายเม็ดเงินไหลออกจากตราสารหนี้ หนุนสภาพคล่องไหลเข้าสู่ตลาดหุ้น
รวมถึงทองคำทำ ALL TIME HIGH ต่อเนื่อง
• วานนี้พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ร่วงต่อเนื่อง 4 วัน ทำให้ BOND YIEDL 10Y สหรัฐฯขยับขึ้นสู่ระดับ 4.15% ขณะที่ดัชนี S&P 500 ทำ ATH เป็นครั้งที่ 28 ในปีนี้นำโดย
หุ้นกลุ่มเทคฯ และจากสถิติในอดีต กรณี FED กลับมาลดดอกเบี้ยขณะเศรษฐกิจยังโต S&P 500 มักให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 15% ใน 12เดือน
• สำหรับคืนนี้ เวลา 23.35 น. จับตาถ้อยแถลงของประธาน FED เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ และทิศทางอัตราดอกเบี้ยของ FED

 

REGION RADAR
• ตลาด CRYPTO มักปรับตัวลงแรงในช่วงที่เกิดประเด็น CYBERATTACK เช่นเดียวกับช่วง 2 – 3 วันที่ผ่านมา เกิดเหตุโจมตีทางไซเบอร์หลายสนามบินหลักในยุโรป หนึ่งในกลยุทธ์ลดความผันผวนเสริมพอร์ตด้วยหุ้น CYBER SECURITY อาทิ CROWDSTRIKE(DR: CRWD80), PALO ALTO NETWORK และ Z SCALER เป็นต้น
• ดัชนี NASDAQ ปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่แต่ RSI อยู่ที่ระดับ 76 เข้าเขต OVERBOUGHT พร้อมกัย P/E สูง 34 เท่า อาจย่อตัวสั้นๆได้แนะHEDGING พอร์ต ด้วย INVERSE ETF หรือถือเงินสดบางส่วน

SYNAPSE STRATEGY
• ในไตรมาสที่ 3 นี้ SET ขึ้นมาแรงเกือบ 20% ช่วงสั้น SET เริ่มติดๆ โดยถูกต่างชาติขายสุทธิ4 วันติด กว่า 8.3 พันล้านบาท ทำให้ดัชนีย่อตัวลงมาจาก 1308 จุด เหลือ 1282 จุด มีโอกาสย่อตัวต่อช่วงสั้นๆ ได้
• กลยุทธ์ช่วง SET ขาดปัจจัยหนุนใหม่ แนะนำสะสมหุ้นปันผลสูง ที่ต่างชาติซื้อสุทธิสวนทางภาพรวมที่ขายสุทธิมาตลอด 4 วันทำการอย่าง ADVANC ปันผลย้อนหลัง 12 เดือน 3.7% , PTT6.8%, KTB7.2%, CPN 4.3%, AP 7.8%, SPALI8.6%

THAI FOCUS
• เดือน ส.ค.68 BLOOMBERG คาดว่าตัวเลขส่งออกไทยจะอยู่ระดับ+6.7%(ลดลงจากเดือนก่อนหน้า +11.0%) จากการเร่งนำเข้าล่วงหน้า (FRONT-LOADING) และตลาดคู่ค้าความต้องการสินค้าจากประเทศนำเข้าอาจลดลง
• หากตัวเลขส่งออกมีโอกาสลดลง จะส่งผลต่อหลายด้านทั้งทางตรง(เศรษฐกิจมหภาค)และทางอ้อม(ค่าเงินบาทและเสถียรภาพการเงิน)เนื่องด้วยการส่งออกของไทยถือเป็น เครื่องยนต์หลักของเศรษฐกิจ(ประมาณ 55–60% ของ GDP)

 

HORIZON MARKET VIEW
อยู่ในภาวะเม็ดเงินไหลเข้าตลาดหุ้น
ธีมการลงทุนภาพใหญ่ยังอยู่ภายใต้ LIQUIDITY DRIVEN หลังเห็นสัญญาณการเคลื่อนย้ายเม็ดเงินออกจากตราสารหนี้ และหนุนสภาพคล่องไหลเข้าสู่ตลาดหุ้น รวมถึงทองคำทำ ALL TIME HIGH ต่อเนื่องวานนี้พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ร่วงต่อเนื่อง 4 วัน ทำให้ BOND YIEDL10Y สหรัฐฯ ขยับขึ้นสู่ระดับ 4.15%ขณะที่ดัชนี S&P 500 ทำ ATH เป็นครั้งที่ 28 ในปีนี้นำโดยหุ้นกลุ่มเทคฯ หลัง NVIDIA ประกาศลงทุนสูงถึง 100,000ล้านดอลลาร์ใน OPENAI เพื่อสร้างศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่สำหรับ AI นอกจากนี้GOLDMAN SACHS คาด S&P500 จะไปถึง 6,800 ใน 3 เดือน, 7,000 ใน 6 เดือน และ 7,200 ใน 12 เดือนข้างหน้าซึ่งจากสถิติในอดีต กรณีFEDกลับมาลดดอกเบี้ยขณะเศรษฐกิจยังโต S&P 500 มักให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 15% ใน 12เดือนสำหรับคืนนี้เวลา 23.35 น. จับตาถ้อยแถลงของประธาน FED ในการประชุมว่าด้วยแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐที่GREATER PROVIDENCE CHAMBER OF COMMERCE (GPCC) เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐและทิศทางอัตราดอกเบี้ยของFED


อีกประเด็นหนึ่งที่ต้องจับตา อาจสร้างความกังวลให้แรงงานและนายจ้าง คือ ปธน. ทรัมป์ปรับขึ้นค่าธรรมเนียมวีซ่า H-1B 100,000 ดอลลาร์ เนื่องจากบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ อาทิGOOGLE, APPLE, META, MICROSOFT,AMAZON รวมถึงมหาวิทยาลัยและโรงพยาบาลในสหรัฐฯ พึ่งพาแรงงาน H-1B จำนวนมาก


REGION RADAR
ETHEREUM ปรับตัวลงในช่วงที่เกิด CYBER ATTACK
เมื่อวันที่ 20 ก.ย. ที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์สำคัญคือ CYBER ATTACK ในยุโรป ส่งผลให้ระบบเช็คอินของสนามบินต่างๆ ในยุโรปเกิดปัญหาและมีความล่าช้าเป็นอย่างมาก ทำให้หลายสายการบินต้องประกาศยกเลิกเที่ยวบิน นอกจากนี้สถิติย้อนหลัง 5 ปีพบว่า ในช่วงที่เกิดเหตุการณ์ CYBER ATTACK ราคาเหรียญคริปโตอย่าง ETHEREUM มักจะปรับตัวลงเป็นเวลา 2-3 สัปดาห์ในช่วงนี้ราคาคริปโตก็ยังมีความผันผวนค่อนข้างสูง นักลงทุนสามารถกระจายความเสี่ยงไปยังหุ้น CYBERSECURITY เปรียบเสมือนติด ANTI VIRUS ให้กับพอร์ตลงทุน โดยหุ้นในกลุ่มนี้ได้แก่ CROWDSTRIKE (DR:CRWD80), PALO ALTO NETWORK และ Z SCALER เป็นต้น


ดัชนี NASDAQ มีโอกาสปรับตัวลงได้ในระยะสั้น
แม้ปัจจุบันดัชนี NASDAQ ปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ แต่ในเชิงเทคนิค RSI อยู่ที่ระดับ 76 และเข้าสู่เขตOVERBOUGHT จะส่งผลให้ดัชนี NASDAQ ปรับตัวลงในระยะสั้น รวมถึงในมุม VALUATION มี P/E 25F สูงถึง36 เท่า ใกล้ๆ กับจุดสูงสุดในรอบ 4 ปี

ส่งผลให้ INVERSE ETF มีความน่าสนใจและสามารถที่จะ HEDGING พอร์ตไในช่วงที่สถานการณ์มีความผันผวนสูง หรือนักลงทุนสามารถขายทำกำไรหุ้นใน NASDAQ และถือเงินสดเพิ่มในพอร์ตเพื่อลดความเสี่ยงได้

THAI FOCUS
ตัวเลขส่งออกไทยมีแนวโน้มชะลอลงจากหลายปัจจัย
เริ่มเห็นสัญญาณการส่งออกแต่ละประเทศในเดือน ก.ค.68 ที่ชะลอลง เช่น สิงคโปร์ -4.6%YOY, ญี่ปุ่น -2.6%YOY ขณะเดียวกันไทยกับเวียดนามก็ส่งออกเติบโตลดลงเช่นกัน ส่วนในเดือน ส.ค.68 BLOOMBERGคาดว่าตัวเลขส่งออกจะอยู่ระดับ +6.7%(ลดลงจากเดือนก่อนหน้า +11.0%)จากหลายปัจจัย ดังนี้
• การเร่งนำเข้าล่วงหน้า (FRONT-LOADING) ผู้ซื้อทั่วโลกเร่งการสั่งซื้อสินค้าเข้ามาเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ซึ่งจะเริ่มบังคับใช้ในเดือน ส.ค.68 ดังนั้น หลังจากเดือนส.ค.น่าจะมีการลดลงของคำสั่งซื้อที่เร่งเข้ามาก่อนหน้านี้ ทำให้ตัวเลขน่าจะต่ำกว่าที่คาดไว้ และเห็นอัตราการเติบโตลดลง
• เงินบาทแข็งค่า / ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ค่าเงินบาทที่แข็งอาจลดความได้เปรียบในการส่งออก ทำให้ราคาสินค้าไทยสูงขึ้นเมื่อเทียบกับคู่แข่งในตลาดสากล
• เศรษฐกิจโลกและตลาดคู่ค้าความต้องการสินค้าจากประเทศนำเข้าอาจลดลง ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์และตัวเลขแรงงานของหลายประเทศที่ยังอ่อนแอ ส่งผลให้ประสิทธิภาพต่อห่วงโซ่อุปทานมีความเสี่ยงต่อเนื่องสวนทางกับตัวเลขนำเข้าเดือน ส.ค.68 ที่เพิ่มขึ้น +9.3%YOY(เดือนก่อนหน้า +5.1%YOY) ดังนั้นหากตัวเลขส่งออกมีโอกาสลดลง จะส่งผลต่อหลายด้านทั้งทางตรง(เศรษฐกิจมหภาค)และทางอ้อม(ค่าเงินบาทและเสถียรภาพการเงิน) เนื่องด้วยการส่งออกของไทยถือเป็น เครื่องยนต์หลักของเศรษฐกิจ(ประมาณ 55–60% ของGDP)


SYNAPSE STRATEGY
ค้นหา 15 หุ้น ต่างชาติซื้อเยอะช่วงนี้ สวนภาพรวมตลาดในไตรมาสที่ 3 นี้ SET ขึ้นมาแรงเกือบ 20% ช่วงสั้น SET เริ่มติดๆ โดยถูกต่างชาติขายสุทธิ 4 วันติด กว่า 8.3
พันล้านบาท เช่นเดียวกับกองทุนขายสุทธิ 1.8 พันล้านบาท และพอร์ตโบรกเกอร์ขายสุทธิอีก 1.0 พันล้านบาทกดดันให้SET INDEX ย่อตัวลงมาจาก 1308 จุด เหลือ 1282 จุด มีโอกาสย่อตัวต่อในช่วงสั้นๆ ได้

ฝ่ายวิจัยฯ จึงทำการค้นหา15 หุ้น ที่ต่างชาติซื้อสุทธิเด่นในช่วง 4 วันทำการที่ผ่านมา สวนทางกับภาพรวมตลาดที่ถูกต่างชาติขายสุทธิหนัก คือ ADVANC, PTT, CPALL, SCC, KTB, SAWAD, CPN, PTTEP, AP, MINT,AWC, DIF, VGI, SPALI, AOT

ดังนั้น กลยุทธ์ช่วง SET ขาดปัจจัยหนุนใหม่ แนะนำสะสมหุ้นปันผลสูง ที่ต่างชาติซื้อสุทธิ สวนทางภาพรวมที่ขายสุทธิมาตลอด 4 วันทำการ อย่าง ADVANC ปันผลย้อนหลัง 12 เดือน 3.7% , PTT 6.8%, KTB 7.2%, CPN4.3%, AP 7.8%, SPALI 8.6%

 

Research Division
จัดทำโดย
ภราดร เตียรณปราโมทย์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ภวัต ภัทราพงศ์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 117985
สิริลักษณ์ พันธ์วงค์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้