สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 12 กันยายน 2568)-------“บล.ดาโอ มอง วัฏจักรดอกเบี้ยขาลงของสหรัฐฯ กำลังมาถึง หลังประธาน Fed ส่งสัญญาณ ในการประชุม Jackson Hole 2025 ที่ผ่านมา คาด Fed ลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือน ก.ย.นี้ ส่งผลบวกต่อหุ้นเทคฯ ขนาดกลางและเล็ก รวมถึงสินทรัพย์ปลอดภัยอย่าง ทองคำ ท่ามกลางปัญหาภูมิรัฐศาสตร์”
นางสาวธนันต์พร จรรย์โกมล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากการประชุม Jackson Hole Symposium 2025 ถือเป็นเวทีสำคัญที่ นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ส่งสัญญาณชัดเจนต่อทิศทางนโยบายการเงินในระยะถัดไป โดยการกล่าวสุนทรพจน์ที่ย้ำคำว่า “เสถียรภาพด้านราคา” (price stability) แทนการใช้ถ้อยคำแบบเดิมอย่างคำว่า “inflation targeting” ซึ่งสะท้อนให้เห็นการขยับกรอบการสื่อสารของ Fed จากการมุ่งควบคุมเงินเฟ้อ ไปสู่การสร้างเสถียรภาพด้านราคาในภาพรวมของระบบเศรษฐกิจมากกว่า
โดยสุนทรพจน์ของนายเจอโรม พาวเวลล์ สะท้อนชัดว่า Fed กำลัง “ปรับน้ำหนัก” จากการต่อสู้กับเงินเฟ้ออย่างเข้มงวดในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มาเป็นการให้ความสำคัญกับ “การรักษาเสถียรภาพของราคา” ถือเป็นกรอบที่เปิดกว้างและยืดหยุ่นกว่าเดิม โดยมีเงื่อนไขสำคัญคือตลาดแรงงานยังคงแข็งแรงเพียงพอที่จะรองรับทิศทางการผ่อนคลายนโยบาย
ขณะเดียวกันว่า Fed มองเห็นเสถียรภาพในตลาดแรงงานมากพอที่จะ “เดินหน้าอย่างระมัดระวัง” ต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ย สารนี้จึงเปรียบเสมือนการส่งสัญญาณตรงไปตรงมาว่า วัฏจักรดอกเบี้ยขาลงของสหรัฐฯ กำลังใกล้เข้ามา
นอกจากนี้ข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ ในเดือนสิงหาคม 2025 ออกมาอ่อนแอกว่าคาด กลายเป็นข่าวร้ายที่เป็นข่าวดี เพราะตอกย้ำถึงโอกาสที่ Fed จะผ่อนคลายนโยบายการเงิน ส่งผลให้ตลาดการเงินมั่นใจว่า Fed จะปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกันยายน โดย Fed funds futures บ่งชี้ความน่าจะเป็นที่สูงเกิน 100% สำหรับการลดดอกเบี้ย 0.25% รวมถึงการวิเคราะห์บางส่วนที่มองว่า Fed อาจจะลดดอกเบี้ยแรงถึง 0.50% จึงส่งผลทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯร่วงลงแรงพร้อมกับดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลง และตลาดหุ้นโดยเฉพาะหุ้นสหรัฐได้รับอานิสงส์เชิงบวก
ดังนั้นในภาพรวมของการลงทุนระยะต่อจากนี้ บล.ดาโอ มีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีขนาดกลางและขนาดเล็ก (Mid & Small-cap Tech) ซึ่งมักอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยมากกว่าหุ้นขนาดใหญ่ (Mega-cap) ได้อานิสงส์โดยตรงจากวัฏจักรดอกเบี้ยขาลงของสหรัฐฯ ที่กำลังจะมาถึง
ทั้งนี้การปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะช่วยลดต้นทุนและเอื้อต่อการเข้าถึงแหล่งเงินทุนสำหรับการขยายธุรกิจ ขณะเดียวกันกระแสการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน AI ของ Hyperscalers ซึ่งคาดว่าจะใช้จ่ายกว่า 2.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงปี 2025–2029 จะไม่เพียงหนุนผู้เล่นรายใหญ่ แต่ยังเปิดโอกาสให้บริษัทเทคโนโลยีขนาดกลางและเล็กที่อยู่ในห่วงโซ่คุณค่า (value chain) ได้รับอานิสงส์เชิงบวกในรูปของรายได้และการประเมินปรับราคาใหม่ บล.ดาโอ จึงมองว่าเป็นจังหวะที่น่าสนใจในการเพิ่มน้ำหนักลงทุนในหุ้นเทคโนโลยี Mid & Small-cap ที่มีความเชื่อมโยงกับเทคโนโลยี AI และ Cloud โดยตรง
นอกจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีขนาดกลางและขนาดเล็ก บล.ดาโอ ยังมีมุมมองที่เป็นบวกมากขึ้นต่อ สินทรัพย์ทองคำ เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากหลายปัจจัย ทั้งการปรับตัวลดลงของดอกเบี้ยที่แท้จริง (real yield) ตามทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตร การคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะเดินหน้าลดดอกเบี้ย เงินเฟ้อที่ยังสูงกว่ากรอบเป้าหมาย รวมถึงความไม่แน่นอนด้านภูมิรัฐศาสตร์และค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง ปัจจัยเหล่านี้ ช่วยลดต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำและกระตุ้นแรงซื้อจากทั้งนักลงทุนสถาบันและธนาคารกลาง
“ดังนั้นจากตัวแปรต่างๆรวมกัน มองว่าราคาทองคำมีแนวโน้มแกว่งตัวสูงขึ้น บล.ดาโอ ปรับกรอบราคาเป้าหมายใหม่ของทองคำขึ้นมาอยู่ที่ 3,750–3,850 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงปลายปี 2568 ซึ่งสะท้อนถึงสถานะการเป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยง (hedge asset) ที่ยังคงโดดเด่นในพอร์ตการลงทุน” นางสาวธนันต์พร กล่าว