Market Wrap-Up
- SET วันที่ 11 ก.ย.68 ปิด +9.98 จุด อยู่ที่ 1,288.03 จุด มูลค่าการซื้อขาย 46,753 ลบ. สถาบันซื้อ 1,199 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 15 ลบ. ต่างชาติซื้อ 1,483 ลบ.และรายย่อยขาย 2,699 ลบ. NVDR มียอดซื้อสุทธิ 1,959 ลบ.โดยมียอดซื้อในหุ้น PTT,DELTA,CPALL,GULF,TLI และยอดขายหุ้น KBANK,KTC,BDMS,PTTGC,SCC มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 2,047 ลบ.หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ RATCH,TPIPP,BDMS โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 3,722 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 50,302 สัญญา ต่างชาติขายสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 4,674 ลบ.
- ตลาดหุ้นสหรัฐ +1.36%, S&P500 +0.85%, Nasdaq +0.72% ได้แรงหนุนจากกลุ่มวัสดุ +2.14%, เฮลธ์แคร์ +1.73% ขณะที่พลังงาน -0.04% หลังข้อมูล US CPI ส.ค. +2.9% YoY ตามคาดการณ์ ส่งผลให้เฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ยใน ก.ย. ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +0.55% ได้แรงหนุนจากกลุ่มป้องกันประเทศ +2.5%, วัสดุก่อสร้าง +1.4% หลัง ECB มีมติคงดอกเบี้ยเงินฝากไว้ที่ 2.0% บ่งชี้การยุติวัฏจักรดอกเบี้ยขาลง
- Market View
- ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ 3 ดัชนีหลักปิดทำจุดสูงสุดใหม่ หลังข้อมูล US CPI ส.ค. +2.9% YoY และ Core CPI ส.ค. +3.1% YoY ตามคาดการณ์ ขณะที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์เพิ่มขึ้น 27,000 อยู่ที่ 263,000 ราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี กอปร ก.แรงงานสหรัฐได้ปรับตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ ย้อนหลัง 12 เดือนนับตั้งแต่ มี.ค. 68 ลดลง 911,000 ตำแหน่งงาน บ่งชี้ภาวะตลาดแรงงานสหรัฐมีสัญญาณชะลอตัวส่งผลให้ CME FedWatch ชี้มีโอกาส 97% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 17 ก.ย. และคาดโอกาสลดดอกเบี้ยต่ออีก 2 ครั้ง ครั้งละ 0.25% ในการประชุม ต.ค., ธ.ค.นี้
- ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ปิด +0.55% ได้แรงหนุนจากกลุ่มป้องกันประเทศ เช่น BAE System +6.3%, Rheinmetall +2.3% หลังโปแลนด์ได้ยิงสกัดโดรนของรัสเซียที่รุกล้ำน่านฟ้าของโปแลนด์ในช่วงต้นสัปดาห์ ขณะที่ ECB มีมติคงดอกเบี้ยเงินฝากไว้ที่ 2.0% ต่อเนื่องไปครั้งที่ 2 โดย ECB คาด GDP ยูโรโซนปีนี้จะเติบโตที่ 1.2% & เดิมคาดที่ 0.9% และเงินเฟ้อปีนี้คาดที่ 2.1%, ปี 69 คาดที่ 1.7% และปี 70 คาดที่ 1.9% ซึ่งเป็นการบ่งชี้การยุติวัฏจักรดอกเบี้ยขาลงของยูโรโซน ขณะที่ดัชนี CAC-40 ฝรั่งเศสวานนี้ +0.80% แม้ว่าปัจจัยการเมืองยังมีความไม่แน่นอน และวันนี้ Fitch Rating จะทำการทบทวนอันดับความน่าเชื่อถือของฝรั่งเศส
- ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ ดัชนีนิเกอิ +1.22% ทำจุดสูงสุดใหม่ ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี เช่น SoftBank, Advantest และรอ ม.กระตุ้นเศรษฐกิจจากนายก ฯ ท่านใหม่ เช่นเดียวกับดัชนีเซี่ยงไฮ้ +1.65% ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี & AI และ Kospi เกาหลีใต้ +0.80% หลังตัวเลขส่งออกเกาหลีใต้ในช่วง 10 วันแรกของ ก.ย. +3.8% โดยมูลค่าส่งออกเซมิคอนดักเตอร์ +28.4% บ่งชี้อุปสงค์ชิป AI ในตลาดโลกยังอยู่ในระดับสูง กอปร ปธน.เกาหลีใต้เผยเตรียมปรับลดเกณฑ์การเก็บภาษีกำไรจากการลงทุนในหุ้น
- SET +0.78% ปริมาณการซื้อขาย 6 หมื่น ลบ. ต่างชาติซื้อ 1,483 ลบ. สถาบันซื้อ 1,199 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 15 ลบ. และรายย่อยขาย 2,699 ลบ. โดยดัชนีได้แรงหนุนจาก Fund Flow ต่างชาติที่มีโอกาสกลับเข้าเก็งกำไรในตลาดหุ้นเกิดใหม่เพิ่มขึ้น หาก Fed Dot Plot ในการประชุมวันที่ 17 ก.ย. บ่งชี้โอกาสลดดอกเบี้ยในปีนี้ลง 2 – 3 ครั้ง ซึ่งเป็นผลบวกต่อ Valuation หุ้นในกลุ่มอิเล็ก ฯ นำโดย DELTA วานนี้ +4.4% กอปรกับตัวเลขส่งออกเซมิคอนดักเตอร์ของเกาหลีใต้ในช่วง 10 วันแรกของ ก.ย.ยังขยายตัวได้ดี +28.4% บ่งชี้อุปสงค์ของชิป AI ในตลาดโลกยังอยู่ในระดับสูง ซึ่งส่งผลบวกทางอ้อมต่อ DELTA ที่เป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้าในระบบเซิร์ฟเวอร์ต่าง ๆ ขณะที่กลุ่มพลังงานก็ปรับขึ้นนำโดย PTT +3.10% จากคาดการณ์การปรับโครงสร้างราคาก๊าซที่อิงราคากลางที่อ่าวไทย น่าจะส่งผลบวกต่อธุรกิจก๊าซของ PTT โดยภาพรวมนักลงทุนยังรอ ม.กระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาลอนุทิน เช่น โครงการคนละครึ่ง ที่คาดจะสามารถเริ่มโครงการได้ภายใน 2 สัปดาห์หลังการแถลงนโยบายต่อสภา โดยวงเงินของโครงการนี้คาดจะอยู่ที่ 2.5 หมื่น ลบ. และจะเพิ่มวงเงินการใช้จ่ายจาก 150 บาท เป็น 200 /วัน ซึ่งจะช่วยหนุน GDP ไทยปีนี้ได้ราว 0.3%
Daily Strategy
- ประเมินแนวรับดัชนี SET วันนี้ที่ 1,270 - 1,280 แนวต้าน 1,290 - 1,300 คาดจะได้แรงหนุนจาก ม.กระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการคนละครึ่ง และเฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ยปีนี้ลง 2 – 3 ครั้ง แนะนำซื้อเก็งกำไรกลุ่มค้าปลีกCPALL,CPAXT,BJC,TNP/ อุปโภคบริโภค OSP,ICHI,GFPT,TFG /ไฟแนนท์ MTC,TIDLOR,AEONTS/ กองทุน Infra-fund เช่น DIF,3BBIF,CPNREIT ที่จ่ายเงินปันผลสูง
- GPSC* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 37.25 บาท) มี sentiment บวกจากประเด็นการศึกษาปรับโครงสร้างราคาก๊าซธรรมชาติใหม่เพื่อลดค่าไฟฟ้าที่อาจจะปรับ single pool gas price เดิมที่เฉลี่ยถั่วน้ำหนักมาเป็นการคำนวณที่ใช้สัดส่วนของก๊าซฯ ในอ่าวไทยที่มีราคาต่ำมากขึ้น ส่งผลบวกต่อต้นทุนกลุ่มโรงไฟฟ้า SPP ลดลง ส่วนแนวโน้ม 3Q68 ดีต่อเนื่องมีปัจจัยบวกจากผลการดำเนินงานของ AEPL ตามกำลังการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นและกำไรพิเศษจากการขายหุ้นออกไปบางส่วน (03%) รวมถึงการผลิตไฟฟ้า Hydro เป็น high season ชดเชยค่า Ft ในรอบ ก.ย.-ธ.ค.68 ที่ลดลงเล็กน้อย ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรปี 68-69 ที่ 4.6 พันล้านบาท +13%YoY และ 5.1 พันล้านบาท +11%YoY
- CBG* (ทะยอยซื้อ/ ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 65.82 บาท)กำไรสุทธิ 2Q68 อยู่ที่ 800 ลบ.(+16%YoY, +5%QoQ) หนุนด้วยรายได้ในประเทศจากการคงราคาขายปลีกที่ 10 บาท ขณะที่แบรนด์เบียร์ได้รับความนิยมมากขึ้น ส่วนการดำเนินงานปกติในช่วงครึ่งปีหลัง คาดว่ายังคงมีแรงหนุนต่อเนื่อง YoY จากกลยุทธดึงส่วนแบ่งตลาดในประเทศ ขณะที่คาดว่ามีโอกาสที่จะมีปัจจัยบวกเพิ่มเติมมาจาก 1.มาตรการกระตุ้นกำลังซื้อของภาครัฐฯ และ 2.ความตึงเครียดชายแดนไทย-กัมพูชาที่มีแนวโน้มผ่อนคลายลง ปัจจุบัน ตลาดคาดว่าในปี68และ69 กำไรสุทธิของ CBG* จะอยู่ที่ 3,153 ลบ.(+11%YoY) และ 3,396 ลบ.(+8%YoY)
Daily Key Factors
Oil Update(-) WTI ต.ค.-$1.30 อยู่ที่ $62.37 / บาร์เรล, Brent พ.ย. -$1.12 อยู่ที่ $66.37/บาร์เรล หลัง EIA รายงานสต็อคน้ำดิบสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 3.9 ล.บาร์เรล สวนทางกับคาดจะลดลง 1.9 ล.บาร์เรล ขณะที่รายงานประจำเดือนของ IEA ชี้อุปทานน้ำมันตลาดโลกปีนี้จะเพิ่มขึ้นเร็วกว่าคาด หลังโอเปกพลัสปรับเพิ่มกำลังการผลิต ต.ค. 137,000 บาร์เรล/วัน
Gold Update(-) Comex Gold ธ.ค.-$8.40 อยู่ที่ $3,673.60 /ออนซ์ ถูกแรงขายทำกำไร หลังสัญญาทองคำได้ปรับขึ้นตอบรับคาดการณ์เฟดจะลดดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 17 ก.ย. และรอดูประมาณการณ์ของ Fed Dot Plot
Fund Flow(+) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ซื้อสุทธิ +37.52ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นไทย +46.58 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโดฯ -11.69 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และซื้อหุ้นฟิลิปปินส์ +2.63 ล.ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้แข็งค่าอยู่ที่ 31.69 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(+) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 4.029 %
(-) ดัชนี BDI วานนี้ -1 อยู่ที่ 2,111
(+) BitCoin เช้านี้ +1.73% อยู่ที่ 115,885 ดอลลาร์สหรัฐ
Economic Calendar
ในประเทศ
สัปดาห์ที3 ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์
และชิ้นส่วนยานยนต์
สัปดาห์ที4 ส.อ.ท. แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม
กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศ
ต่างประเทศ
16 ก.ย. US ดัชนียอดขายปลีก ( ส.ค.)
17 ก.ย. EU ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ( ส.ค.)
18 ก.ย. US การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย
US การคาดการณ์เศรษฐกิจของคณะกรรมการนโยบายธนาคารกลาง
US ดัชนีภาคการผลิตจากธนาคารกลางรัฐฟิลาเดลเฟีย (ก.ย.)
US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
Theme Strategy
Theme หุ้นที่มีปัจจัยบวกตามกระแส Megatend, คาดทิศทางดอกเบี้ยเข้าสู่ขาลง, Earning Play 2Q68, High Season ไตรมาส3, และ กลุ่มที่ได้ประโยชน์จาก Trade War สหรัฐ-จีน ลดความรุนแรงลง
(1) กลุ่มการเงิน คาดการณ์ดอกเบี้ยนโยบายลดลงในช่วง 2H68 NCAP*, SINGER* ,SGC* , MTC*, SAWAD*, TIDLOR*
(2) กลุ่มโรงไฟฟ้า ได้ประโยชน์ตามฤดูกาลจากฤดูร้อน GULF*, GPSC*, BCPG
(3) กลุ่ม China Play คาดความตึงเครียดทางการค้าผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว และรัฐบาลจีนมีโอกาสออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น SCC* ,SCGP* , PTTGC, IVL*
(4) กล่มสินค้า IT ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยี ADVICE* ,COM7* SYNEX*, SIS*
(5) สินค้าจำเป็นและการบริโภคในชีวิตประจำวันที sensitive น้อยต่อกำลังซื้อในประเทศชะลอตัว เช่น CPALL , MALEE*, BJC , NSL*
(6) กลุ่มส่งออกที่ผันผวนตามประเด็นภาษีศุลกากรสหรัฐฯ เน้น เก็งกำไร เมื่อมีพัฒนการเชิงบวกของการเจรจาไทย-สหรัฐฯ เช่น DELTA*, CCET*, KCE*, TU, ITC*, ASIAN*, AAI*, COCOCO*
(7) กลุ่มร.พ.ที่ไตรมาส 2 เป็น Low Season แต่เข้าสู่ High Season ในไตรมาส3 เช่น BDMS, SKR, WPH*, PR9*
**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย
Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 35% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%
Today Fundamental Research: -
Monthly Portfolio September 2025: KLINIQ, ITC*, PTTGC*, GULF*, TIDLOR*
Analysts
Apichai Raomanachai
Fundamental and Technical Investment Analysis ID No. 002939
Tel 02-829-6999 Ext 2200
Email : apichai.ra@kfsec.co.th
Meena Tunlayanitigun
Fundamental and Technical Investment Analysis ID No. 033662
Tel 02-829-6999 Ext 2201
Email : meena.tu@kfsec.co.th
Nopporn Chaykaew
Fundamental Analysis ID No. 043964
Tel 02-829-6999 Ext 2203
Email : noppoen.ch@kfsec.co.th
Nattawat Poosunthornsri
Fundamental Analysis ID No. 087077
Tel 02-829-6999 Ext 2204
Email : nattawat.po@kfsec.co.th