Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

InnovestX คาดวันนี้ SET ไซด์เวย์/แกว่งขึ้น ความหวังกระตุ้นศก. หนุนตลาด

87

 


สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 10 กันยายน 2568)-------InnovestX บริษัทหลักทรัพย์ในกลุ่ม SCBX ออกบทวิเคราะห์ประจำวันที่ 10 กันยายน 2568 คาดตลาดแกว่งไซด์เวย์/แกว่งขึ้น รัฐบาลใหม่มีโอกาสทยอยออกมาตรกระตุ้นเศรษฐกิจก่อนการเลือกตั้ง 4 เดือนข้างหน้า เป็นความหวังหนุนตลาด ส่วนปัจจัยภายนอก การลดตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ ช่วง เม.ย. 2567 ถึง มี.ค. 2568 ลงเกือบล้านตำแหน่งยิ่งหนุนให้เฟดลด ดบ. และบางส่วนมองลดถึง 50bps ส่วนค่าเงินบาทที่แข็งค่าวานนี้ยังหนุนเงินไหลเข้าตลาดหุ้นไทยไม่มาก เทคนิคหากยังไม่หลุด 1260/1250 ยังไม่เสียแนวโน้มการแกว่งขึ้น แนวต้านประเมินที่ 1280/1285

 


ประเด็นสำคัญ
• นายกฯ เตรียมเดินหน้า “คนละครึ่ง” อาจปรับสัดส่วนรัฐบาลร่วมจ่ายเป็น 60% สำหรับผู้เสียภาษีเงินได้ เพื่อจูงใจเข้าระบบภาษีมาก และเพิ่มวงเงินใช้สิทธิ์ต่อวันเป็น 200 บาท นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย นายกฯ เผยต้องพิจารณาอีกครั้งเพราะต้องคำนึงถึงวินัยการเงินการคลัง
• ครม.รักษาการ มีมติเห็นชอบการขยายระยะเวลาการลดภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT) คงเดิมไว้ที่ 7% อีก 1 ปี มีผล 1 ต.ค. 2568–30 ก.ย. 2569 มอง Sentiment บวกต่อตลาดหุ้นไทยแต่ไม่มากนักเพราะทุกฝ่ายคาดไว้อยู่แล้ว โดยหุ้นที่ได้รับผลบวกจากผู้บริโภคไม่ถูกเพิ่มภาระภาษี ได้แก่ กลุ่มค้าปลีก, กลุ่มท่องเที่ยว และกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค (อาหาร-เครื่องดื่ม)
• จำนวน นทท. ต่างชาติเดินทางเข้าไทยในสัปดาห์ก่อน (1-7 ก.ย.) จำนวน 508,341 ทรงตัว WoW แต่หดตัว 5%YoY ซึ่งหดตัวลดลงจากช่วงก่อน สะท้อนสัญญาณการฟื้นตัวต่อเนื่อง โดย นทท. กลุ่มไม่รวมจีนพลิกขยายตัว 1%YoY แล้วขณะที่กลุ่ม นทท. จีนลดช่วงหดตัว YoY ลง ส่วนจำนวน นทท. ต่างชาติสะสมปีนี้จำนวน 22,387,187 คน หดตัว 7.1%YoY
• อิสราเอลโจมตีทางอากาศใส่ผู้นำกลุ่มฮามาสในกรุงโดฮาของกาตาร์ กาตาร์ชี้ว่าการโจมตีดังกล่าวเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ หลังการโจมตีดังกล่าวได้หนุนราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวขึ้น
• ซาอุฯ ลดราคาขายน้ำมันดิบ (OSP) สู่เอเชียใน ต.ค. 2568 ลง US$0.90-1.00/bbl จากก่อนหน้านี้ OPEC+ มีมติเพิ่มการผลิตต่อใน ต.ค. เป็นบวกต่อกลุ่มโรงกลั่นตามต้นทุนนำเข้าน้ำมันดิบที่ลดลง
• สำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐฯ ทบทวนตัวเลขการจ้างงานว่า จำนวนการจ้างงานนอกภาคเกษตรตลอด 12 เดือน (สิ้นสุด มี.ค. 2568) ปรับลง
9.11 แสนตำแหน่ง หรือเฉลี่ยลดลง 7.6 หมื่นตำแหน่งต่อเดือน ทำให้ตลาดแรงงานสหรัฐฯ ชะลอตัวกว่าที่เคยรายงานไว้มาก

 


กลยุทธ์การลงทุน
ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสแกว่งตัวขึ้น หลังสถานการณ์การเมืองไทยมีความชัดเจนขึ้น รอติดตามการจัดตั้งรัฐบาลใหม่และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจซึ่งจะทำให้ความเชื่อมั่นการลงทุนฟื้นตัว โดยคาด Fund Flow จะทยอยไหลเข้าและประเมินแนวต้านที่ 1280/1300 ส่วนปัจจัยต่างประเทศสำคัญติดตาม ได้แก่ CPI ส.ค. ของสหรัฐฯ โดยตลาดคาดเพิ่มขึ้น 2.9%YoY เร่งตัวขึ้นจาก 2.7%YoY ใน ก.ค. ซึ่งหากเป็นไปตามคาดหรือไม่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ คาดว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยต่อใน ก.ย. นี้ ขณะที่การประชุมนโยบายการเงินของ ECB ในวันที่ 11 ก.ย. นี้คาดยังคงดอกเบี้ยไว้ที่เดิม กลยุทธ์ลงทุนจึงคงแนะนำให้ “Selective Buy”

 

แนวรับ – แนวต้าน : 1260/1250– 1275/1280

 


ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์
ช่วงสั้นมอง SET มีแนวโน้มจะปรับขึ้น หลังสถานการณ์การเมืองไทยมีความชัดเจน คาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลังจัดตั้งรัฐบาลใหม่ กลยุทธ์ลงทุนแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 2 ธีม หลักและ 3 ธีมเทรดดิ้ง ดังนี้
1. หุ้น Earnings Play ซึ่งคาด 2H68 ผลการดำเนินงานจะยังเติบโตดีทั้ง HoH และ YoY แรงหนุนจากปัจจัยฤดูกาลและจากปัจจัยบวกที่มีเฉพาะตัว ได้แก่ ADVANC BCPG GULF SCC
2. หุ้นปันผลคุณภาพดี (SET100 ที่มี SET ESG Ratings A ขึ้นไป) เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้แก่พอร์ตในระยะสั้น คาดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากกำไร 1H68 และให้ Div. Yield เกิน 2% แนะนำ PTT TTB
3. Trading Idea : สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้และต้องการเก็งกำไร แนะนำ 1) หุ้น Laggard Play คาดได้อานิสงส์หาก Fund Flow ไหลเข้าต่อ โดยเลือกหุ้น SET50 ราคาหุ้นปรับขึ้น QTD ต่ำกว่า SET และ Valuation ถูก มี PBV และ PER 2568F <
-1SD มีพื้นฐานดี (กำไรเติบโต ฐานะการเงินแข็งแกร่งและมี ESG Ratings A-AAA) แนะนำ BDMS CPALL CRC MTC PTT WHA 2) หุ้นที่คาดได้อานิสงส์จากดอกเบี้ยขาลงและ/หรือดอลลาร์อ่อนค่า(บาทแข็ง) แนะนำ กลุ่ม REITs (DIF) กลุ่มอสังหาฯ (AP SIRI) กลุ่มเช่าซื้อ (MTC) และกลุ่มโรงไฟฟ้า (GPSC BCPG GULF) และ 3) หุ้นที่คาดได้อานิสงส์จากการเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ ได้แก่ กลุ่มค้าปลีก (CPALL GLOBAL TNP) กลุ่มเครื่องดื่ม (CBG OSP HTC ICHI) กลุ่มท่องเที่ยว (CENTEL) กลุ่มนิคม (AMATA) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง (SCC)


Daily Top Picks
BCH: ราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นจากแนวโน้มผลประกอบการที่จะดีขึ้นใน 2H68 โดยได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มบริการใหม่ๆ มีสัญญาณบวกจากผู้ป่วยชาวคูเวตหลังจากที่ลดลงมาตั้งแต่กลาง 1Q67 ปัจจุบันหุ้น BCH ซื้อขายที่ PE ปี 2569 ระดับ 19 เท่า ต่ำกว่าระดับ -2SD valuation อยู่ในระดับต่ำ ประเมินราคาเป้าหมายระยะสั้นไว้ที่ 14 บาท

HTC: ราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นสั้นจากราคาหุ้น laggard หุ้นเครื่องดื่มที่ได้ประโยชน์จากโครงการคนละครึ่งมาก บริษัทใช้กลยุทธ์การออกสินค้าใหม่ และกระจายสินค้าทั้งในส่วนของ Cooler และ HORECA เพิ่ม รวมถึงการขยายกําลังการผลิตของขวดแก้วใน หนุนการประหยัดต้นทุนในระยะยาว ประเมินราคาเป้าหมายระยะสั้นไว้ที่ 15.40 บาท

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ต่างชาติซื้อหุ้นไทยแล้ว By : เจ๊มดแดง

เจ๊มดแดง ไต่กิ่งมะม่วง นักลงทุนต่างชาติ หวนกลับมาซื้อหุ้นไทยแล้ว วานนี้ สอดคล้อง ค่าเงินบาทแข็งค่าในรอบ4ปี เฟด ....

มัลติมีเดีย

หุ้นอินไซด์ทอล์ค : อัพเดทกลุ่มฮั่วเซ่งเฮง

หุ้นอินไซด์ทอล์ค : อัพเดทกลุ่มฮั่วเซ่งเฮง

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้