AT THE OPEN (#ATO)
SET Index แกว่งตามกรอบ 1265-1285
กลยุทธ์ สลับไปเก็งกำไร PTTEP
Market Strategy
SET Index ยืนได้ตามกรอบ 1265-1285 จุด แรงหนุนจากแนวโน้มดอกเบี้ยฯ ขาลงสหรัฐฯ ดีต่อต่อทิศทาง Fund Flow การฟื้นตัวของราคาน้ำมันดิบ ส่วนปัจจัยในประเทศยังได้แรงหนุนหล่อเลี้ยงจากความคืบหน้าการตั้ง ครม. มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น (คนละครึ่งปรับเงื่อนไขเพิ่มสิทธิ์สำหรับผู้เสียภาษีเป็น 60:40 ผู้ไม่เสียภาษีช่วย 50:50 ตามเดิม) ประเด็นติดตามการรายงานดัชนี PPI สหรัฐฯ เดือน ส.ค. หุ้นเด่นวันนี้เลือก PTTEP
ฝั่งสหรัฐฯ วานนี้มีการเปิดเผยการแก้ไขข้อมูลการจ้างงานย้อนหลังช่วง เม.ย. 67-มี.ค. 68 ลง 9.11 แสนตำแหน่ง เทียบกับตลาดคาดว่าจะปรับลง 6.82 แสนตำแหน่ง สะท้อนภาคแรงงานสหรัฐฯ ที่อ่อนแอก่อนการที่ภาษีทรัมป์จะเริ่มบังคับใช้ช่วงเดือน เม.ย. 68 ทำให้ตลาดคาด FED ลดดอกเบี้ย 3 ครั้งครั้งละ 0.25% ด้วยโอกาส 66% สูงกว่าสัปดาห์ก่อนที่ให้โอกาส 37% ขณะที่การประชุม FED เดือน ก.ย. ตลาดคาดจะลดดอกเบี้ยฯด้วยโอกาส 100% แบ่งเป็นการลด 0.25% ด้วยโอกาส 93% และลดดอกเบี้ยฯ 0.5% ด้วยโอกาส 7% หนุนตลาดหุ้นสหรัฐฯ S&P500 ปรับขึ้น 0.3% ภายใต้สภาพแวดล้อมข้างต้น เรามองเป็นบวกต่อทิศทาง Fund Flow ที่มีโอกาสไหลเข้า โดยวานนี้ซื้อสุทธิในตลาดสารหนี้บ้านเรา 3.7 พันล้านบาทและตลาดหุ้น 389 ล้านบาท ขณะที่หุ้นที่ได้ประโยชน์จากภาวะนี้ยังคงเป็นกลุ่มโรงไฟฟ้าชอบ GPSC CKP และกลุ่มไฟแนนซ์ชอบ SAWAD MTC SAK
ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับขึ้น 0.6% จากความตึงเครียดในตะวันออกกลาง หลังอิสราเอลโจมตีผู้นำฮามาสในกาตาร์ รวมถึงยูเครน-รัสเซียที่การเจรจายุติสงครามที่สหรัฐฯ เป็นตัวกลางจะยังไม่ได้ผล ระยะสั้นจึงคาดเป็น Sentiment บวกหนุนต่อราคา PTTEP ที่ราคาหุ้นยังไม่ฟื้น โดยปัจจุบันซื้อขายบน PER 7 เท่า ปันผล 7%
Market Summary
SET Index ปรับขึ้น 10 จุด แรงหนุนจากกลุ่มโรงไฟฟ้าได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยฯ ขาลงและเงินบาทแข็งค่า หนุนหุ้น GULF +3.3% GPSC +1.2% BGRIM +5.5% CKP 2.7% กลุ่มไฟแนนซ์ไปต่อ SAWAD +1.7% TIDLOR +1.5% MTC +0.6% กลุ่มค้าปลีก IT อย่าง COM7 +1% SPVI +3.5% เก็งเปิดตัว iPhone 17 กลุ่มรับเหมาฯตามความชัดเจนทางการเมือง STECON +6.6% CK +3% ส่วนกลุ่มที่ Underperform กลุ่มอาหาร CBG -2.9% CPF -1.7% ถูกขายทำกำไรหลังวานนี้ขึ้นแรงจากความหวังได้ประโยชน์มาตรการคนละครึ่ง
DAILY Stock Pick
PTTEP
ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง
หนุน ราคาน้ำมัน
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 132.00 บาท
เมื่อวานที่ผ่านมา กองทัพอิสราเอลทำการโจมตีทางอากาศต่อกรุงโดฮา เมืองหลวงกาตาร์ โดยกาตาร์ เป็นผู้ส่งออกน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ของโลก ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบ Brent ฟื้นตัว 0.6%
ในไตรมาส 3 ปริมาณการผลิตมี upside เพิ่มเติม จากหลุม A-18 ในมาเลเซียอีก 3% ในขณะที่ unit cost ปรับตัวลดลง หลังมีการปิดซ่อม G1/G2 ไปแล้วใน 1H68 ขณะที่ราคาปัจจุบันคิดเป็น PE’68 ที่ 7.3 เท่า พร้อมกับอัตราเงินปันผล 6.8%
WEEKLY Stock Pick
CPAXT
ลุ้นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 26.00 บาท
วันศุกร์ที่ผ่านมา สภาผู้แทนราษฎร มีมติโหวต 311 เสียงต่อ 152 เสียง เลือกนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกคนที่ 32 ของไทย ส่งผลให้ความชัดเจนทางการเมืองมากขึ้น พร้อมทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ อาทิ โครงการเงินกู้ฉุกเฉิน, พักหนี้ 3 ปี หยุดต้น ปลอดดอกเบี้ย (อ้างอิง : นโยบายหาเสียงของพรรคภูมิใจไทย) หนุนให้กลุ่มค้าปลีก CPAXT ได้รับอานิสงส์จากกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้น
เราคาด CPAXT กำไรใน 2H68 เติบโต HoH จาก Synergy ที่มากขึ้น ผ่านทั้งต้นทุนและค่าใช้จ่ายดำเนินการ ประกอบกับการเปิดสาขาใหม่ ณ ราคาปัจจุบันถูกซื้อขายที่ PE’68 ที่ 17.6 เท่า (-1SD ของค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี) ประกอบกับอัตราเงินปันผลที่ 3.7%
KEY FACTOR
การส่งออกจีน เดือน ส.ค. ชะลอตัวเหลือ +4.4% YoY ถือเป็นระดับต่ำที่สุดในรอบ 6 เดือน และ ต่ำกว่าที่ตลาดคาด +5.5% YoY ขณะที่การนำเข้าขยายตัวเพียง +1.3% YoY ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ +3.4% YoY เช่นกัน ทั้งนี้ พบว่าปริมาณการส่งออกปรับตัวขึ้นแรงถึง +15.2% สวนทางกับราคาที่ลดลง -10.8% นอกจากนี้ตัวเลขส่งออกไปสหรัฐฯ ลดลง -33.8% ขณะเดียวกันเห็นสัญญาณการย้ายฐานการผลิตไป ASEAN (+22.5%) สะท้อนให้เห็นถึงการปรับตัวของผู้ผลิตและส่งออกที่โดนผลกระทบจากมาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ
สัญญาณจากตัวเลขการค้าระหว่างประเทศของจีนที่ชะลอลงอย่างมีนัยสำคัญ น่าจะส่งผลต่อตัวเลขการส่งออกของไทย (จีนนำเข้าจากไทย ขยายตัวเพียง +1.3%) มีโอกาสชะลอความร้อนแรงลงในเดือน ส.ค. เช่นกัน
EYES ON
10 ก.ย. ดัชนี PPI และ CPI จีน เดือน ส.ค.,
11 ก.ย. การประชุม ECB, ดัชนี CPI สหรัฐฯ เดือน ส.ค., ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ, ออมทรัพย์ โง้วศิริ