คาด SET Index แกว่งตัว Sideways up: แรงหนุนจากความหวังโครงการคนละครึ่งและการจัดตั้งครม.ชุดใหม่ รวมถึงมี Sentiment เชิงบวกจากความหวังในการปรับลอดัตราดอกเบี้ยของเฟด หากแต่ทางขึ้นจำกัดอยู่บ้างจากการขึ้น XD ของหุ้นต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มธนาคาร รวมถึงการแข็งค่าของสกุลเงินท้องถิ่น

แนวรับ-ต้าน
1,270 –1,290

กลยุทธ์การลงทุน
1) หวังมาตรการภาครัฐ โดยเฉพาะคนละครึ่ง:AEONTS, BJC, BTG, CPALL, CPAXT, CPF,ICHI, KTB, KTC, MTC, SAWAD
2) หวังขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชาบรรเทาลง:MAJOR, OR, SCC, SJWD
3) บาทแข็ง: AAV, ADVICE, BGRIM, GPSC, GULF
4) Selective: ORI, PTG, SC, SIRI

หวังมาตรการรัฐไทยและสหรัฐฯลดดอกเบี้ย

ปรับเงื่อนไขคนละครึ่งและเตรียมได้ครม.ใหม่: คาดแรงหนุนมาจากความหวังต่อมาตรการทางเศรษฐกิจภายใต้รัฐบาลใหม่ หลังนายกฯอนุทินเผยความคืบหน้าแนวคิดการดำเนินการโครงการคนละครึ่งว่า ได้มีการหารือกับคุณเอกนิติ ว่าที่รองนายกฯและรมว.คลังว่าโครงการข้างต้นนอกจากจะเป็น 50:50 ยังมีข้อเสนอที่จะเพิ่มเป็น 60:40กล่าวคือรัฐจ่าย 60% ประชาชนจ่าย 40% สำหรับกลุ่มผู้เสียภาษีซึ่งทางนายกฯเองเห็นด้วยและได้สั่งให้ไปศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม โดยต้องไม่ผิดรธน. กฎหมาย และไม่กระทบวินัยการเงินการคลัง ขณะที่ด้านความคืบหน้าในการจัดตั้งฝ่ายบริหาร นายกฯเผยว่า ได้ส่งรายชื่อบุคคลที่จะเสนอเป็นรัฐมนตรีให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบคุณสมบัติรัฐมนตรีครบทุกคนแล้ว โดยยังไม่ได้ระบุตำแหน่ง และทันทีที่ตรวจสอบประวัติเสร็จสิ้นก็พร้อมที่จะนำรายชื่อครม.ขึ้นทูลเกล้าฯ

หวังเฟดลดดอกเบี้ย หลังตลาดแรงงานวูบ: นอกจากนี้ คาด SETIndex จะได้รับ Sentiment เชิงบวกจากฝั่งสหรัฐฯ สอดรับกับกับDowJones,S&P500และ Nasdaqที่ปรับตัวขึ้น0.43%, 0.27%และ0.37% ตามลำดับ และนับเป็นการปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของทั้ง 3 ดัชนีข้างต้น ท่ามกลางความหวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดในการประชุม FOMC ในสัปดาห์หน้า อันเนื่องมาจากความซบเซาของตลาดแรงงาน หลังเมื่อคืนที่ผ่านมาสหรัฐฯเผยรายงานประจำปีของตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรฉบับปรับปรุงใหม่สำหรับช่วงเวลา 1 ปีนับตัง้ แต่เดือนมี.ค.67-ก.พ.68 ซ่งึระบุว่า ตัวเลขการจ้างงานลดลง 911,000 ตำแหน่งจากการรายงานในเบื้องต้น

แรงกดดันจากหุ้นขึ้น XD และบาทแข็ง: มองทางขึ้นถูกลดทองลงบ้างจากการขึ้น XD ของหุ้นประมาณ 10 กว่าตัวในวันนี้ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อ SET Indexประมาณ 1.7 จุดซึ่งโดยหลักแล้วเป็นหุ้นในกลุ่มธนาคารและเรามองกลุ่มข้างต้นมีปัจจัยเสี่ยงด้านต่ำที่จะปรับตัวลงแรงกว่าจำนวนเงินปันผล เนื่องจากขาดความจูงใจในช่วงที่เหลือของปีนอกจากนี้ เรามองหุ้นในกลุ่มส่งออกและท่องเที่ยวจะถูกกดดันจากสกุลเงิน ท้องถิ่นที่แข็งค่าในช่วงที่ผ่านมา โดยเช้านี้ยังคงเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 32 บาท/ดอลลาร์ (ในทางกลับกัน เรามองเป็นแรงหนุนต่อหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้าและกลุ่มที่มีการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ)

ปัจจัยเพิ่มเติม
(+)รักษาการรมช.คลังเผยครม.รักษาการมีมติเห็นชอบขยายเวลาการคงอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 7% ออกไปอีก 1 ปีโดยมีผลตั้งแต่ 1 ต.ค.68 ถึง 30ก.ย.69 เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนในช่วงภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน
(+)KResearch ปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 68 มาอยู่ที่ 1.8% จาก 1.5%จากแรงหนุนการเร่งส่งออกไปยังสหรัฐฯก่อนมาตรการภาษีตามมาตรา 232 และTransshipmentมีผลบังคับใช้ ขณะเดียวกันการส่งออกที่ชะลอตัวน้อยลงกว่าที่คาดใน 2H68ส่งผลให้ความเสี่ยงที่เศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิคลดลง
(+)ติดตามการเผย PPI เดือนส.ค.68 ของสหรัฐฯในคืนนี้ ซึ่งมีแนวโน้มเป็นSentiment เชิงบวก โดยตลาดคาด Headline และ Core ต่างขยายตัว 0.3%m-m ชะลอลงจาก 0.9% m-m ในเดือนก.ค.68
(-) ติดตามการเผยCPI เดือนส.ค.68 ของจีนในเช้านี้ ซึ่งมีแนวโน้มเป็น Sentimentเชิงลบ โดยตลาดคาดหดตัว 0.2% y-y จาก 0.0% y-y ในเดือนก.ค.68

ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน
ธรีดา ชาญยิ่งยงค์- นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ และทางเทคนิค #9501
ชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ, CISA – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน และทางเทคนิค #37928
ภัทรดนัย จตุรพร – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #094041
พศุตม์ โงวิวัฒน์ชัย, CISA – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #127632
ฐนพงษ์ แซ่โล้ – ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
ชนพัฒน์ สุวิยานนท์ – ผู้ช่วยนักวิเคราะห์