ภาวะตลาด : SET Index วันศุกร์แกว่งบวกในกรอบ 1255.71-1270.31 ปิดตลาดที่ 1264.80 ปรับขึ้น +12.25 จุด (+0.98%) มูลค่าซื้อขาย 5.2 หมื่นลบ. โดยนายอนุทินได้รับการโหวตให้เป็นนายกฯคนที่ 32 ตามที่คาดกันไว้ นักลงทุนสถาบันในปท.ซื้อสุทธิ +551 ลบ. ต่างชาติซื้อสุทธิ 1.0 พันลบ.
ปัจจัยต่างประเทศ
• สหรัฐ: ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร (NFP) ส.ค.เพิ่มเพียง 2.2 หมื่นราย ต่ำกว่าตลาดคาดที่ 7.5 หมื่นรายอัตราว่างงานเพิ่มเป็น 4.3%...ภาคแรงงานที่อ่อนแอลง ทำให้ตลาดมั่นใจมากขึ้นว่าเฟดจะลดดออกเบี้ย 0.25% ในการประชุม 16-17 ก.ย.นี้ และจะปรับลดดอกเบี้ยอีก 1-2 ครั้งในช่วงที่เหลือของปีนี้ ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐที่จะรายงานวันที่ 11 ก.ย.นี้
• ตลาดหุ้นสหรัฐร่วง นำโดยกลุ่มธนาคาร หลัง NFP สหรัฐออกมาต่ำกว่าคาดมาก ผลประชุมโอเปกพลัส 7 ก.ย.นี้ มีมติเพิ่มการผลิต 1.37 แสนบาร์เรล/วันในเดือนต.ค. ซึ่งน้อยลงจากเดือนก.ย.ที่ผลิตเพิ่ม 5.47 แสนบาร์เรล/วัน ราคาน้ำมันดิบเช้านี้เด้งขึ้น +0.5% เป็น 62-66 US$/bbl ด้านสัญญาทองคำพุ่งขึ้นแรง +46.60 US$ ปิดที่ 3,653.50 US$/ออนซ์ เนื่องจากตัวเลขภาคแรงงานสหรัฐแย่กว่าคาด
• ดัชนีค่าเงิน US$ อ่อนลงเป็น 97.9 เงินบาทแข็งขึ้นป็ น 32.0 Bt/US$ เป็นลบกับหุ้นส่งออก เช่น DELTA, HANA, KCE, SVI, TU เป็นต้น แต่บวกกับบริษัทที่มีหนี้ต่างประเทศมาก เช่น GPSC, GULF, AAV, IVL, PTT, PTTGC, TOP, IVL เป็นต้น และผู้นำเข้าสุทธิ เช่น TVO, SYNEX, COM7, SIS เป็นต้น ส่วน US bond yield 10 ปี ลดเป็น 4.09% ดัชนีราคาถ่านหิน (NC) ทรงที่ 107.55 ดัชนี Baltic Dry Index เด้งขึ้นเป็น 1,979
ปัจจัยในประเทศ & ข่าวหุ้นเด่น
• ฟิลิปปินส์ : อนุญาตให้นลท.ต่างชาติเช่าที่ดินได้นานสุด 99 ปี เพื่อกระตุ้นการลงทุน...เป็น Sentiment ลบกับหุ้นนิคมฯของไทย (AMATA, ROJNA, WHA ฯลฯ)แม้ระยะสั้นจะกระทบไม่มากเพราะโครงสร้างพื้นฐานของไทยดีกว่า แต่ในระยะยาวอาจถูกกระทบจากฟิลิปปินส์ก็เร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน
• พรรคภูมิใจไทยระบุเตรียมนำโครงการ “คนละครึ่ง” กลับมาใช้ภายใน 1 เดือนแรก กระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย...คาด CPAXT, BJC, CBG, OSP, ICHI, SAPPE, CPF ได้ประโยชน์ เนื่องจากมีลูกค้าเป็นร้านค้าปลีกรายย่อย โชห่วย ทั่วประเทศจำนวนมาก ส่วนร้านค้าสมัยใหม่อื่นๆ ต้องติดตามว่าได้เข้าร่วมโครงการหรือไม่ ส่วน CPALL ได้ประโยชน์โดยอ้อมจากการถือหุ้น CPAXT ประมาณ 60% แต่ขณะเดียวกันก็อาจเสียยอดขายบางส่วนให้กับรายค้าดั้งเดิม ผลกระทบจึงเป็นกลาง
• การเมืองไทย: การเลือกนายกฯและตั้งครม.ได้เร็วก็ทำให้ความกังวลสูญญากาศการเมืองผ่อนคลาย ซึ่งคาดว่าจะสรุปรายชื่อครม.ในสัปดาห์นี้ , ติดตามคำตัดสินของศาลคดีชั้น 14 นายทักษิณวันอังคารที่ 9 ก.ย.นี้
• กลุ่มที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากเงินสะพัดเลือกตั้ง ได้แก่ กลุ่มสื่อสาร (หุ้นเด่น ADVANC, TRUE), กลุ่มค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภค (หุ้นเด่น CPALL, CPAXT, BJC, CPN, CRC), กลุ่มเครื่องดื่มและอาหาร (หุ้นเด่น CBG, OSP), กลุ่มสื่อ (หุ้นเด่น PLANB, VGI), กลุ่มรับเหมาและวัสดุก่อสร้าง (หุ้นเด่น CK, STECON, STPI, TASCO, SCC, SCCC), กลุ่มไฟแนนซ์ (หุ้นเด่น MTC, TIDLOR, SAWAD, AEONTS), กลุ่มอื่นๆ (หุ้นเด่น PTG)
กลยุทธ์ : ดัชนียืนเหนือ 1250 ได้ มีโอกาสขึ้นทดสอบแนวต้าน 1270-1280, 1290-1300 ...ดัชนี ทดสอบแนวต้าน 1270 อีกรอบ แต่เจอแรงขายทำกำไรจึงปิดอ่อนลง แต่ก็ยังอยู่เหนือ 1250 ทำให้ มีโอกาสปรับขึ้นไปที่แนวต้าน 1270อีกครั้ง หากยืนได้จะไปต่อที่ 1280, 1290-1300 ส่วนแนวรับให้ไว้ที่ 1260, 1250, 1235-1230 ตามลำดับ
หุ้นพื้นฐานแนะนำวันนี้ : CPAXT – คาดบริษัทได้อานิสงค์จากโครงการ “คนละครึ่ง” ที่รัฐบาลนายอนุทินจะนำกลับมาใช้กระตุ้นการบริโภคและการจับจ่ายใช้สอย ประกอบกับธุรกิจจะดีขึ้นเมื่อเข้าสู่ช่วง high season ของการท่องเที่ยวใน 4Q ณ ราคาปัจจุบัน 19.80 บาท มี P/BV ต่ำที่ 0.7 เท่า คาดการณ์ DY ปีนี้ราว 4% ต่อปี นักวิเคราะห์ใน IAA consensus ให้ราคาเป้าหมาย 25 บาท (median)
นักวิเคราะห์&กลยุทธ์: อาภาภรณ์ แสวงพรรค : arparporns@dbs.com : Tel 02 587 7829