คาด SET Index ปรับตัวขึ้น: แรงหนุนจากความหวังการขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจ และ การแก้ไขปัญหาต่างๆในประเทศของรัฐบาลอนุทินรวมถึงแรงหนุนจากทิศทางดอกเบี้ยนโยบายของเฟดที่มีแนวโน้มปรับลดลงหลังประกาศเลขภาคแรงงานสหรัฐ หนุนหุ้นกลุ่ม Yield Play

แนวรับ-ต้าน
1,260–1,275

กลยุทธ์การลงทุน
1) มาตรการของรัฐบาลใหม่:KTC, AEONTS,COM7,CPALL, CPAXT, BJC, CBG, OSP, M, KBANK,NER,PTG, AAV, CENTEL, MINT, THAI, AOT
2) Yield Play : SPALI, ORI, SAWAD, MTC,BGRIM, GPSC, GULF, WHAIR,LHSC
3) ง บ ป ร ะ ม า ณภ า ค รั ฐ: KTB, CK, STECON,UNIQ, STPI4) Selective play: SCGP,TASCO

เดินหน้าประเทศไทย ไปกับอนุทิน

รับความหวัง ประเทศไทยเดินหน้า: วานนี้ได้มีการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งนายกฯ คุณ อนุทิน ชาญวีรกูล โดยนายกประกาศ 4เป้าหมายหลักในการเป็นรฐั บาลระยะสั้น คือ 1)ปัญหาเศรษฐกิจ :เร่งเดินหน้าลดค่าครองชีพ รายจ่าย และ ราคาพลังงาน พร้อมแก้ไขปัญหาหนี้สิน และ เพิ่มรายได้ของชุมชน 2)ความมั่นคง : เน้นแก้ปัญหาความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา และ ชดเชยความเสียหายให้ผู้รับผลกระทบ 3)ปัญหาภัยธรรมชาติ : ต่อยอดระบบป้องกันภัยทางธรรมชาติ และ เยียวยาผู้รับผลกระทบ และ 4)ปัญหาภัยสังคม
: เร่งปราบปรามปัญยาเสพติด สแกมเมอร์ และ การพนันออนไลน์อย่างจริงจัง เบื้องต้นรัฐบาลกำลังอยู่ในขั้นตอนจัดตั้งครม.กระทรวงที่น่าสนใจอย่างก.คลัง จะมี คุณ เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาสเข้ามาบริหาร ส่วนนายกฯจะควบตำแหน่งรมว.กระทรวงมหาดไทยมองโดยรวมสร้างความหวัง การขับเคลื่อนประเทศทั้ง ในด้านกำลังซื้อ คุณภาพหนี้ และ ความสัมพันธ์ชายแดน เป็นบวกโดยตรงต่อหุ้นกลุ่มค้าปลีก ท่องเที่ยว การเงิน และ ขนส่ง รวมถึงหุ้นที่เคยได้รับผลกระทบจากประเด็นไทย-กัมพูชา

ตัวเลขจ้างงานสหรัฐ หนุนเฟดลดดอกเบี้ย : โดย NonfarmPayrolls เดือน ส.ค.68 ออกมาเพียง 2.2 หมื่นต าแหน่ง ต่ากว่าที่ตลาดคาดที่ 7.5 หมื่นตำแหน่ง และลดลงจากเดือนก่อนที่ 7.9 หมื่นต าแหน่ง ตอกย้ำภาพการชะลอตัวของภาคแรงงานสหรัฐ และสร้างความหวังการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟด ซึ่งFedwatch tools คาดจะมีการลดดอกเบี้ย 3 ครั้ง (เดิม 2 ครงั้ )ครงั้ละ 25 bps กดดัน Bond Yield สหรัฐอายุ 2 และ 10 ปี ปรับตัวลงแตะระดับ 3.51% และ 4.07% เช่นเดียวกับ Dollar Index ที่ลงไปแตะระดับ 97.73 จุด ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐพักฐานสั้นๆ ท่ามกลางการคงตัวของ VIX Index ที่ 15.18 จุด มองทิศทางดอกเบี้ยขาลงหนุนกลุ่ม Yield Play อย่างโรงไฟฟ้า REIT และ อสังหาฯ

ปัจจัยอื่นที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ : TH-ดัชนีความเชื่อมั่น ผู้บริโภค(Aug), US- CPI + Core CPI(Aug)/PPI + Core PPI(Aug) ,EU- ECB Interest Rate Decision (Sep), JP-GDP(Q2),China- CPI+PPI(Aug)/ Import + Export (Aug)

ปัจจัยเพิ่มเติม
(-) การใช้จ่ายของภาคครัวเรือนญี่ปุ่นในเดือนก.ค.ปรับตัวขึ้น 1.4% โดยเป็นการเพิ่มข้ึนต่อเนื่อง 3 เดือน จากการเร่งตัวของค่าใช้จ่ายสำหรับการเดินทาง และสาธารณูปโภค ส่วนการบริโภคยังฟื้นตัวได้จำกัด
(-) OPEC+ มีมติเพิ่มก าลังการผลิตอกี 1.37 แสนบาร์เรลต่อวัน ในเดือน ต.ค.68โดยมีเป้าหมายเพื่อชิงส่วนแบ่งตลาดกลับคืนมา และเตรียมจะจัดประชุมครั้งถัดไปในวันที่ 5 ต.ค.68 กดดันหุ้นพลังงานต้นน้า
(-) สนค.เผยผลการศึกษา พบว่าจีนเป็นประเทศที่มีความเสี่ยงสูงสุด ที่จะเบี่ยงเบนเส้นทางการค้าและส่งออกสินค้าทะลักเข้ามายังประเทศไทย เพิ่มความเสี่ยงให้สินค้า สุรา เสื้อผ้า และ เครื่องเรือนพลาสติก
(+) MG ประเทศไทยเผยยอดจดทะเบียนรถพลังงานไฟฟ้าเดือนสิงหาคม 2568สูงสุดเป็นอันดับ 1 ด้วยยอด 2,230 คัน ทำให้ยอดจดทะเบียนรวมตัง้ แต่เดือนมกราคม-สิงหาคม พบว่า เติบโตกว่าปี 2567 กว่า 70%

ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน
ธรีดา ชาญยิ่งยงค์- นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ และทางเทคนิค #9501
ชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ, CISA – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน และทางเทคนิค #37928
ภัทรดนัย จตุรพร – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #094041
พศุตม์ โงวิวัฒน์ชัย, CISA – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #127632
ฐนพงษ์ แซ่โล้ – ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
ชนพัฒน์ สุวิยานนท์ – ผู้ช่วยนักวิเคราะห์