Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

InnovestX คาด วันนี้ SET ไซด์เวย์/แกว่งขึ้น ความหวังเศรษฐกิจกับรัฐบาลใหม่หนุน

87

 

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 8 กันยายน 2568)-------InnovestX บริษัทหลักทรัพย์ในกลุ่ม SCBX ออกบทวิเคราะห์ประจำวันที่ 8 กันยายน 2568 คาดตลาดแกว่งตัวไซด์เวย์/แกว่งขึ้น ได้แรงหนุนจากความชัดเจนทางการเมืองและเริ่มออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โครงการ ”คนละครึ่ง” หากใช้งบ 3-5 หมื่นลบ. อาจหนุน GDP 0.13% การทยอยมีมาตรการต่อเนื่องจะกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม ขณะเดียวกันว่าที่รมว.คลัง ดร.เอกนิติ มีโอกาสช่วยสร้างความเชื่อมั่น ด้านปัจจัยภายนอก ตัวเลขแรงงานสหรัฐฯ ที่แย่เอื้อ
เฟดลดดอกเบี้ย ด้านเทคนิค การพักฐานไม่ควรหลุด 1255/1250 ไม่หลุดยังเป็นการแกว่งขึ้น โดยมีแนวต้านอยู่ที่ 1270/1280


ประเด็นสำคัญ
• นายอนุทิน ชาญวีระกูล จากพรรคภูมิใจไทยได้รับการโปรดเกล้าฯ เป็นนายกฯ คนที่ 32 ด้านการจัด ครม. ใหม่ นายกฯ เผยว่ารายชื่อ ครม. ส่วนใหญ่มีความชัดเจนแล้ว โดยกระแสข่าวคาดอย่างน้อย 4 รมว. จะมาจากกลุ่มคนนอกและคาดจะมีการถวายสัตย์ฯ ในวันที่ 9 ก.ย. ติดตามนโยบาย “คนละครึ่ง” ที่จะถูกนำมาใช้กระตุ้น ศก. ระยะสั้น ทั้งนี้สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงและต้องการเก็งกำไรหุ้นที่เคยได้ประโยชน์จากเกิดโครงการคนละครึ่งในอดีต แนะนำ TNP, CBG, OSP, HTC, ICHI, TVO
• ส.อ.ท. ประเมินรัฐบาลที่มีเวลาทำงานราว 4 เดือนถือว่าสั้นมากสำหรับการทำงานเชิงโครงสร้าง เช่น ระบบภาษี, ยุทธศาสตร์ด้านพลังงาน เป็นต้น และแนะมุ่งเน้นมาตรการเฉพาะหน้าเพื่อแก้ปัญหาเร่งด่วนและสร้างบรรยากาศทาง ศก. ที่ดี เช่น การลดค่าครองชีพและต้นทุนพลังงาน, ช่วยเหลือ SMEs, แก้ไขปัญหาหนี้เสีย เป็นต้น
• 8 ชาติ OPEC+ มีมติเพิ่มการผลิตน้ำมันดิบใน ต.ค. 2568 อีก 137kBD ซึ่งเป็นการกลับจากมาตรการลดการผลิตแบบสมัครใจ 1.66MBD ที่เดิมจะสิ้นสุดในสิ้นปี 2569 มองเป็น Sentiment เชิงลบต่ออุตฯ น้ำมันขั้นต้น ซ้ำเติมภาวะอุปทานน้ำมันล้นเกิน จากช่วง เม.ย.-ก.ย. 2568 ที่ OPEC+ เพิ่มการผลิตรวมมากถึง 2.5MBD เป็นบวกต่อ OR, AAV, BA
• การจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯใน ส.ค. 2568 เพิ่มขึ้น 22,000 ตำแหน่งต่ำกว่าที่ตลาดคาด ส่วนตัวเลขใน มิ.ย. ถูกปรับทบทวนและพบว่าการจ้างงานหดตัวครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2020 สะท้อนตลาดแรงานที่ชะลอตัวอย่างมีนัยยะสำคัญ หนุนให้เฟดลดดอกเบี้ยในการประชุม 16-17 ก.ย.นี้
• ปธน. ทรัมป์ได้ลงนามคำสั่งบริหารเมื่อวันที่ 5 ก.ย. ที่ผ่านมา เปิดทางยกเว้นภาษีศุลกากรกว่า 45 รายการสำหรับประเทศคู่ค้าที่บรรลุข้อตกลงด้านการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม เช่น นิกเกิล, ทองคำ, โลหะอื่นๆ, เภสัชภัณฑ์ และเคมีภัณฑ์ และจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 8 ก.ย. นี้

 

กลยุทธ์การลงทุน
ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสแกว่งตัวขึ้น หลังสถานการณ์การเมืองไทยมีความชัดเจนขึ้น รอติดตามการจัดตั้งรัฐบาลใหม่และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจซึ่งจะทำให้ความเชื่อมั่นการลงทุนฟื้นตัว โดยคาด Fund Flow จะทยอยไหลเข้าและประเมินแนวต้านที่ 1280/1300 ส่วนคำวินิจฉัยของศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมืองคดีชั้น 14 ในวันที่ 9 ก.ย. นี้คาดจะสร้างความผันผวนต่อตลาดน้อยลงจากที่คาดไว้เดิม ส่วนปัจจัยต่างประเทศสำคัญติดตาม ได้แก่ CPI ส.ค. ของสหรัฐฯ โดยตลาดคาดเพิ่มขึ้น 2.9%YoY เร่งตัวขึ้นจาก 2.7%YoY ใน ก.ค. ซึ่งหากเป็นไปตามคาดหรือไม่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ คาดว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยต่อใน ก.ย. นี้ ขณะที่การประชุมนโยบายการเงินของ ECB ในวันที่ 11 ก.ย. นี้คาดยังคงดอกเบี้ยไว้ที่เดิม กลยุทธ์ลงทุนจึงคงแนะนำให้ “Selective Buy”


แนวรับ – แนวต้าน : 1255/1250– 1270/1280


ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์
ช่วงสั้นมอง SET มีแนวโน้มจะปรับขึ้น หลังสถานการณ์การเมืองไทยมีความชัดเจน คาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลังจัดตั้งรัฐบาลใหม่ กลยุทธ์ลงทุนแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 2 ธีม หลักและ 3 ธีมเทรดดิ้ง ดังนี้
1. หุ้น Earnings Play ซึ่งคาด 2H68 ผลการดำเนินงานจะยังเติบโตดีทั้ง HoH และ YoY แรงหนุนจากปัจจัยฤดูกาลและจากปัจจัยบวกที่มีเฉพาะตัว ได้แก่ ADVANC BCPG GULF SCC
2. หุ้นปันผลคุณภาพดี (SET100 ที่มี SET ESG Ratings A ขึ้นไป) เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้แก่พอร์ตในระยะสั้น คาดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากกำไร 1H68 และให้ Div. Yield เกิน 2% แนะนำ PTT TTB HMPRO (XD 10 ก.ย.) และ KKP (XD 10 ก.ย.)
3. Trading Idea : สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้และต้องการเก็งกำไร แนะนำ 1) หุ้น Laggard Play คาดได้อานิสงส์หาก Fund Flow ไหลเข้าต่อ โดยเลือกหุ้น SET50 ราคาหุ้นปรับขึ้น QTD ต่ำกว่า SET และ Valuation ถูก มี PBV และ PER 2568F <
-1SD มีพื้นฐานดี (กำไรเติบโต ฐานะการเงินแข็งแกร่งและมี ESG Ratings A-AAA) แนะนำ BDMS CPALL CRC MTC PTT WHA 2) หุ้นที่คาดได้อานิสงส์จากดอกเบี้ยขาลงและ/หรือดอลลาร์อ่อนค่า(บาทแข็ง) แนะนำ กลุ่ม REITs (DIF) กลุ่มอสังหาฯ (AP SIRI) กลุ่มเช่าซื้อ (MTC) และกลุ่มโรงไฟฟ้า (GPSC BCPG GULF) และ 3) หุ้นที่ได้อานิสงส์การออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐบาล กลุ่มค้าปลีก (CPALL GLOBAL) กลุ่มท่องเที่ยว (CENTEL) กลุ่มนิคม (AMATA) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง (SCC)

 


Daily Top Picks
OSP: ราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นจากโครงการคนละครึ่ง รายได้เครื่องดื่มและของใช้ส่วนบุคคลมีโอกาสเพิ่มขึ้น อัตรากำไรขั้นต้นมีโอกาสเพิ่มจากธุรกิจของใช้ส่วนบุคคล บริษัทวางแผนทวงส่วนแบ่งตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศคืนใน 2H68 ทำการตลาดมากขึ้นและขยายช่องทางการจัดจำหน่าย ประเมินราคาเป้าหมายระยะสั้นไว้ที่ 18.50 บาท

CKP: ราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นจากดอกเบี้ยขาลงและการเข้าสู่ฤดูกาลทำกำไรของโรงไฟฟ้าพลังน้ำช่วง 3Q68–4Q68 คาด EPS โตเด่น 33% ในปี 2568 และ 14% ในปี 2569 ขณะเดียวกัน Valuation ยังถูก (2569F PER 12x, P/BV 0.8x, Yield 3%) การลดดอกเบี้ยทุก 0.5% เพิ่มกำไร 8% ประเมินราคาเป้าหมายระยะสั้นไว้ที่ 3.04 บาท

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

หุ้นการเมือง By : เจ๊มดแดง

เจ๊มดแดง ไต่กิ่งมะม่วง ฟ้าฝน ปีนี้ นับว่า ฉ่ำ ฉ่ำ กรุงเทพ และหลายจังหวัด หลายพื้นที่ หุ้นการเมือง หลายตัว ก็ร้อนแรง....

มัลติมีเดีย

หุ้นอินไซด์ทอล์ค : เปิดวิสัยทัศน์ ธนาคารทองคำลาว

หุ้นอินไซด์ทอล์ค : เปิดวิสัยทัศน์ ธนาคารทองคำลาว

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้