ภาวะตลาด : SET Index วานนี้ แกว่งมากขึ้น โดยขึ้นไปสูงสุด 1270.74 (+11.43 จุด) แต่ยืนไม่ได้ แล้วอ่อนตัวลงไปต่ำสุดที่ 1250.86 (-8.45 จุด) จากแรงขายทำกำไร ประกอบกับมีข่าวว่าพรรคเพื่อไทยยื่นข้อเสนอรับทุกเงื่อนไขของพรรคประชาชนและยุบสภาทันทีถ้านายชัยเกษมได้เป็นนายกฯ ปิดตลาดดัชนีอยู่ที่ 1252.55 ลดลง -6.76 จุด หรือ -0.54% มูลค่าซื้อขาย 4.5 หมื่นลบ. นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ -1.78 พันลบ. ด้านสถาบันในปท.ซื้อสุทธิ +1.02 พันลบ.

ปัจจัยต่างประเทศ
• สหรัฐ: จ้างงานภาคเอกชนส.ค.เพิ่ม 5.4 หมื่นตำแหน่ง ต่ำกว่าคาด ที่ 7.5 หมื่นตำแหน่ง ด้านผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกสัปดาห์ก่อนเพิ่ม 8 พันราย สู่ 2.37 แสนราย สูงกว่าตลาดคาด ที่ 2.31 แสนราย...คืนนี้ติดตามจ้างงานนอกภาคเกษตร (NFP) และอัตราว่างงานวันนี้ ซึ่งตลาดคาดว่า NFP จะเพิ่ม 7.4-7.5 หมื่นตำแหน่ง...ภาคแรงงานที่อ่อนแอลง ทำให้มีโอกาสสูงที่เฟดจะลดดออกเบี้ยในการประชุม 16-17 ก.ย.นี้
• สหรัฐ: นวค.เชื่อว่าภาษีทรัมป์ จะมีผลบังคับใช้ต่อไป โดยสามารถเลี่ยงไปใช้กฎหมายอื่นแทน การเจรจาภาษีของปท.ต่างๆ ยังคงเดินหน้าต่อไป
• สหรัฐ-ญี่ปุ่น: เมื่อ 4 ก.ย.ทรัมป์ลงนามคำสั่งลดภาษีนำเข้ารถยนต์จากญี่ปุ่นสู่ 15% (เดิม 27.5%) ญี่ปุ่ นยืนยันลงทุน 5.5 แสนล้านUS$ ในสหรัฐ
• ตลาดหุ้นสหรัฐปรับขึ้น ดัชนี S&P500 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ตลาดเชื่อมั่นว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยเดือนก.ย.นี้ ราคาน้ำมันดิบอ่อนต่อ 0.8%-0.9% เป็ น 63-67 US$/bbl ติดตามผลประชุมโอเปกพลัส 7 ก.ย.นี้ ตลาดประเมินว่าอาจจะเพิ่มการผลิตเพื่อขยายส่วนแบ่งการตลาด (เดือนก.ย.เพิ่ม 5.47 แสนบาร์เรล/วัน) สัญญาทองคำลดลง -28.80 US$ ปิดที่ 3,606.70 US$/ออนซ์ จากขายทำก าไรหลังทำนิวไฮ
• ดัชนีค่าเงิน US$ ทรงที่ 98.2เงินบาทแข็งขึ้นป็น 32.24 Bt/US$ ส่วน US bond yield 10 ปี ลดเป็น 4.16% ดัชนีราคาถ่านหิน (NC) อ่อนเป็น 107 ดัชนี Baltic Dry Index เด้งขึ้นเป็น 1,963

ปัจจัยในประเทศ & ข่าวหุ้นเด่น
• การเมืองไทย: จับตาผลการโหวตเลือกนายกฯวันนี้ (5 ก.ย.)...คาดนายอนุทิน พรรคภูมิใจไทย จะได้ รับการโหวตให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 เดินหน้าตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยและยุบสภาภายใน 4 เดือน หลังพรรคประชาชนยืนยันยึดมั่นตาม MOA, ติดตามค าตัดสินของศาลคดีชั้น 14 นาย ทักษิณวันที่ 9 ก.ย.นี้ (นายทักษิณที่เดินทางไปดูไบวานนี้ ระบุว่าจะกลับมาทันฟังคดีชั้น 14)
• กลุ่มที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากเงินสะพัดเลือกตั้ง ได้แก่ กลุ่มสื่อสาร (หุ้นเด่น ADVANC, TRUE), กลุ่มค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภค (หุ้นเด่น CPALL, CPAXT, BJC, CPN, CRC), กลุ่มเครื่องดื่มและอาหาร (หุ้นเด่น CBG, OSP), กลุ่มสื่อ (หุ้นเด่น PLANB, VGI), กลุ่มรับเหมาและวัสดุก่อสร้าง (หุ้นเด่น CK, STECON, STPI, TASCO, SCC, SCCC), กลุ่มไฟแนนซ์ (หุ้นเด่น MTC, TIDLOR, SAWAD, AEONTS), กลุ่มอื่นๆ (PTG)

กลยุทธ์ : หากยืนเหนือ 1250 ได้ มั่นคง ยังมีสิทธิกลับไปขึ้น แต่ถ้ายืนไม่ได้ก็จะแกว่งลง...ดัชนี ทดสอบแนวต้าน 1270 แล้วเด้งที่แนวรับ 1250 ถ้าสามารถยืนเหนือ 1250 ได้อย่างมั่นคง ก็มีโอกาสปรับขึ้นไปที่แนวต้าน 1265-1270, 1280 แนวรับ 1250, 1235-1230, 1220-1210

หุ้นพื้นฐานแนะนำวันนี้ : TTB – คาดธนาคารจะจ่ายปันผลระหว่างกาลใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 0.065 บาท/หุ้น (ปี 24 ประกาศเงินปันผลระหว่างกาลวันที่ 24 ก.ย.24) ณ ราคาปัจจุบัน 1.91 บาท คิดเป็ น interim dividend yield ประมาณ 3.4% และจ่ายครึ่งหลังเท่ากั นที่ 0.065 บาท/หุ้น ทำให้ทั้งปี 2025F จะมี DY สูงที่ 6.8% ขณะที่ธุรกิจยังมั่นคง เงินกองทุนแข็งแกร่ง บริหารจัดการคุณภาพสินทรัพย์ได้ดี แนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 2.22 บาท

นักวิเคราะห์&กลยุทธ์: อาภาภรณ์ แสวงพรรค : arparporns@dbs.com : Tel 02 587 7829