Market Wrap-Up
- SET วันที่ 3 ก.ย.68 ปิด +10.53 จุด อยู่ที่ 1,259.31 จุด มูลค่าการซื้อขาย 44,707 ลบ. ต่างชาติซื้อ 1,868 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 600 ลบ. สถาบันขาย 141 ลบ. และรายย่อยขาย 1,126 ลบ. NVDR มียอดซื้อสุทธิ 776 ลบ.โดยมียอดซื้อในหุ้น PTT,DELTA,GULF,CPAXT,SCB และยอดขายหุ้น TOP,HMPRO,PTTEP,TRUE,TTB มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 1,953 ลบ.หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ SPALI,STGT,PTTGC โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 1,889 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 84,992 สัญญา ต่างชาติขายสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 585 ลบ.
- ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -0.05%, S&P500 +0.51%, Nasdaq +1.02% ได้แรงหนุนจาก Alphabet +9.1% หลังศาลสหรัฐตัดสินไม่ต้องขายธุรกิจบราวเซอร์ Chrome ออกจาก Google ขณะที่ตัวเลขเปิดรับสมัครงานสหรัฐ ก.ค. ชะลอตัว ส่งผลให้เฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ยใน ก.ย. ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +0.66% ได้แรงหนุนจากกลุ่มบริการสุขภาพ, ทรัพยากรพื้นฐาน หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรฝรั่งเศสอายุ 30 ปี ปรับลดลง
- Market View
- ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปรับขึ้น นำโดย Alphabet +9.1% หลังศาลสหรัฐสั่งไม่ต้องขายธุรกิจบราวเซอร์ Chrome ออกจาก Google ตามคำกล่าวหาการผูกขาดตลาด และ Apple +3.8% โดยสามารถใช้ Chrome ในระบบค้นหา แต่จะต้องแบ่งปันข้อมูลให้กับบริษัทคู่แข่ง ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจ JOLTs เผยตัวเลขเปิดรับสมัครงานสหรัฐ ก.ค. ลดลง 170,000 อยู่ที่ 7.18 ล.ตำแหน่ง & คาด38 ล.ตำแหน่ง สาเหตุมาจากการปรับขึ้นภาษีศุลกากร ส่งผลให้ผู้ประกอบการลังเลในการจ้างงานใหม่ ดังนั้น CME FedWatch ชี้มีโอกาส 96% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 17 ก.ย. ส่วนค่ำวันนี้ติดตาม ADP รายงานตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐ ส.ค. คาดเพิ่มขึ้น 73,000 & ก.ค. 104,000 ตำแหน่ง และวันศุกร์ติดตามตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ ส.ค. คาดเพิ่มขึ้น 74,000 & ก.ค.73,000 ราย, อัตราว่างงาน ส.ค. คาด 4.3% & ก.ค. 4.2%
- ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ +0.66% ได้แรงหนุนจากกลุ่มบริการสุขภาพ และกลุ่มทรัพยากรพื้นฐาน +1.5% ปรับขึ้นตามราคาทองแดง หลัง EU เตรียมออก ม.ควบคุมการส่งออกเศษทองแดงไปยังจีน หลังช่วง 7 เดือนปีนี้ จีนได้นำเข้าทองแดงจาก EU รวม 204,000 ตัน +3.5% YoY ส่วนอัตรา Bond Yield ฝรั่งเศสอายุ 30 ปี ลดลง -0.05% อยู่ที่ 4.4547% ช่วยลดความกังวลต่อต้นทุนทางการเงินที่อาจปรับสูงขึ้น เพื่อนำชำระหนี้ทางด้านการคลังของสมาชิกประเทศ EU ขณะที่ปัจจัยการเมืองนั้น นายก ฯ ฝรั่งเศสถูกพรรคฝ่ายค้านเสนอมติไม่ไว้วางใจในวันที่ 8 ก.ย. ซึ่งอาจส่งผลลบต่อเสถียรภาพการเมืองของฝรั่งเศส
- ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ ดัชนีนิเกอิ -0.88% จากความกังวลต่ออัตราดอกเบี้ยระยะยาวของญี่ปุ่น & สหรัฐที่ปรับสูงขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนการเงินสูงขึ้นและเป็นผลลบต่อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี กอปรนายก ฯ อิชิบะ ถูกสมาชิกพรรค LDP กดดันให้ลาออก หลังแพ้การเลือกตั้ง สว.ในช่วง ก.ค. ที่ผ่านมา ส่วนดัชนีเซี่ยงไฮ้ -1.16%, ฮั่งเส็ง -0.60% หลัง ปธน.ทรัมป์กล่าวหาจีนกำลังสมคบคิดกับรัสเซียและเกาหลีเหนือเพื่อต่อต้าสหรัฐ และมีความไม่แน่นอนต่อ ม.เก็บภาษีศุลกากรของสหรัฐ ขณะที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีจีน เช่น Cambricon Tech -5.1%, ZTE Corp -2%
- SET +0.84% ปริมาณการซื้อขาย 4 หมื่น ลบ. ต่างชาติซื้อ 1,868 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 600 ลบ. สถาบันขาย 141 ลบ. และรายย่อยขาย 1,126 ลบ. โดยดัชนีปรับขึ้นหลังพรรคประชาชนมีมติหนุนให้คุณอนุทิน จากพรรคภูมิใจไทย เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเสี่ยงข้างน้อย โดยมีเงื่อนไขจะต้องยุบสภา ฯ ภายใน 4 เดือน และไม่เพิ่มจำนวน สส. จนเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก โดยทางพรรคประชาชนจะทำหน้าที่ฝ่ายค้านในสภา ฯ ส่งผลให้ปัจจัยการเมืองมีความขัดเจนมากขึ้น ขณะที่พรรคเพื่อไทยพยายามเสนอ พ.ร.ฎ. ยุบสภา แต่สำนักองคมนตรีไม่รับร่างดังกล่าว เนื่องจากยังไม่มีความขัดแย้งในสภา ฯ จนปฏิบัติราชการไม่ได้ โดยช่วงค่ำวานนี้ ปธ.สภาได้บรรจุวาระโหวตเลือกนายก ฯ ในวันที่ 5 ก.ย. ซึ่งคาดนายอนุทินจะได้เสี่ยงสนับสนุนราว 288 เสี่ยงให้ดำรงตำแหน่งนายก ฯ คนที่ 32 โดย ครม.ชุดใหม่คาดจะมีรายชือของเทคโนแครตเข้าบริหารกระทรวงสำคัญ เช่น กระทรวงการคลัง, พาณิชย์, พลังงาน และต่างประเทศ เพื่อสร้างความมั่นใจต่อนักลงทุนต่างชาติ
Daily Strategy
- ประเมินแนวรับดัชนี SET ที่ 1,250 แนวต้าน 1,270 – 1,280 คาดดัชนีจะปรับขึ้นหลังมีความชัดเจนในการเสนอชื่อคุณอนุทิน ขึ้นเป็นนายก ฯ คนที่ 32 เพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ รวมถึงปัญหาชายแดนไทย – กัมพูชา แนะนำซื้อ CPALL,BJC,CRC,GLOBAL,MTC,TIDLOR,JMT,PLANB คาดได้ประโยชน์จากเม็ดเงินในช่วงก่อนเลือกตั้ง / นิคม ฯ AMATA,WHA/ เก็งกำไร SAV,OR,CBG,OSP จากปัญหาชายแดนไทย – กัมพูชามีแนวโน้มดีขึ้น
- SCGD* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 5.55 บาท) รายงานกำไร 2Q68 ที่ 223 ลบ. +3%QoQ, -22%YoY มีปัจจัยหนุนจากยอดขายในเวียดนาม ช่วยชดเชยยอดขายในไทยที่หดตัวตามปัจจัยฤดูกาล ขณะที่กลยุทธ์ในการลดต้นทุนหนุนอัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวขึ้นอยู่ที่ 28% แนวโน้ม 2H68 คาดเติบโต HoH, YoY จากตลาดเวียดนามและประสิทธิภาพการดำเนินงานจากโครงการลดต้นทุน ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าเพิ่มยอดขายเป็นเท่าตัวภายใน 5 ปีจากกลยุทธ์ Asian Player เน้นการเพิ่มยอดขายในเวียดนามและอินโดนีเซียที่ตลาดอสังหาฯ เติบโต โดยเฉพาะเวียดนามมีความได้เปรียบด้านต้นทุนและ logistics เป็นฐานการส่งออกกระเบื้อง Glazed Porcelain ซึ่งมี margin สูง ส่วนตลาดไทยหันไปขยายวัสดุปูพื้นประเภท SPC ทดแทนกระเบื้องที่หดตัว อิงจาก consensus ตลาดคาดกำไรปี 68 ที่ 958 ล้านบาท +18%YoY และปี 69 ที่ 1 พันล้านบาท +14%YoY
- CPALL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย00 บาท) กำไรสุทธิ 2Q68 อยู่ที่ 6,768ลบ.(+8%YoY, -11%QoQ) อ่อนตัวQoQ ตามฤดูกาล และ YoY กดดันอยู่บ้างจากยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้า/ความเย็นฝั่ง CPAXT* แต่กำไรยังเป็นบวกได้อยู่หนุนจากมาร์จิ้นที่ดีตามสัดส่วน7-11 ที่สูงขึ้นรวมถึงการเน้นกลยุทธสินค้าReady-to-Eat ส่วนการดำเนินงานปกติในช่วง 3Q68 เบื้องต้นคาดอ่อนตัว QoQ ตามฤดูกาล แต่ YoY ยังเป็นบวกได้แม้คาด SSSG 7-11 ยัง Flat YoY(ต่อจาก 2Q68 ที่ -0.8%YoY) แต่ยังได้แรงหนุนจากสาขาเปิดใหม่และการคุมมาร์จิ้นที่ดี ขณะที่สินค้าออกใหม่เป็นที่นิยม เช่น กาแฟกระป๋องสตาร์บัคส์ ปัจจุบัน เราคาดกำไรสุทธิ ปี68 และ ปี69 ของ CPALL ที่ 28,013 ลบ.(+11%YoY) และ 29,692 ลบ.(+6%YoY)
Daily Key Factors
Oil Update(-) WTI ต.ค.-$1.62 อยู่ที่ $63.97/บาร์เรล, Brt พ.ย. -$.1.54 อยู่ที่ $67.60/บาร์เรล จากคาดการณ์การประชุมโอเปกพลัสวันที่ 7 ก.ย. มีโอกาสปรับเพิ่มกำลังการผลิตใน ต.ค. หลังเพิ่มกำลังการผลิต 547,000 บาร์เรล/วัน ใน ก.ย. ส่งผลให้ตลาดกังวลอาจเกิดภาวะอุปทานล้นตัวตั้งแต่ ก.ย. จนถึงปี 69 ขณะที่ API รายงานสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 622,000 บาร์เรล/วัน
Gold Update(+) Comex Gold ธ.ค. +$43.30 อยู่ที่ $3,635.50 /ออนซ์ ปรับขึ้นทำจุดสูงสุด โดยสัญญาทองคำได้แรงหนุนจากคาดการณ์เฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 17 ก.ย. หลังข้อมูลตัวเปิดรับสมัครงานของสหรัฐ ก.ค. ชะลอตัวกว่าคาด
Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ -42.84ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นไทย +57.72 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโดฯ -84.49 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -16.07 ล.ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้ทรงตัวอยู่ที่ 32.26 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 4.213 %
(-) ดัชนี BDI วานนี้ -46 อยู่ที่ 1,940
(+) BitCoin เช้านี้ +0.48% อยู่ที่ 111,734 ดอลลาร์สหรัฐ
Economic Calendar
ในประเทศ
สัปดาห์ที1 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทย
ต่างประเทศ
01 ก.ย. US วันแรงงาน-วันหยุด
02 ก.ย. EU ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ปีต่อปี) ( ส.ค.)
US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต ( ส.ค.)
03 ก.ย. US ตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่จาก JOLTS ( ก.ค.)
04 ก.ย. US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
US การเปลี่ยนแปลงการจ้างงานภาคนอกภาคเกษตรกรรม(ADP)(ส.ค.)
US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการ ( ส.ค.))
05 ก.ย. US อัตราการว่างงาน ( ส.ค.)
US รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมง (เดือนต่อเดือน) ( ส.ค.)
Theme Strategy
Theme หุ้นที่มีปัจจัยบวกตามกระแส Megatend, คาดทิศทางดอกเบี้ยเข้าสู่ขาลง, Earning Play 2Q68, High Season ไตรมาส3, และ กลุ่มที่ได้ประโยชน์จาก Trade War สหรัฐ-จีน ลดความรุนแรงลง
(1) กลุ่มการเงิน คาดการณ์ดอกเบี้ยนโยบายลดลงในช่วง 2H68 NCAP*, SINGER* ,SGC* , MTC*, SAWAD*, TIDLOR*
(2) กลุ่มโรงไฟฟ้า ได้ประโยชน์ตามฤดูกาลจากฤดูร้อน GULF*, GPSC*, BCPG
(3) กลุ่ม China Play คาดความตึงเครียดทางการค้าผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว และรัฐบาลจีนมีโอกาสออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น SCC* ,SCGP* , PTTGC, IVL*
(4) กล่มสินค้า IT ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยี ADVICE* ,COM7* SYNEX*, SIS*
(5) สินค้าจำเป็นและการบริโภคในชีวิตประจำวันที sensitive น้อยต่อกำลังซื้อในประเทศชะลอตัว เช่น CPALL , MALEE*, BJC , NSL*
(6) กลุ่มส่งออกที่ผันผวนตามประเด็นภาษีศุลกากรสหรัฐฯ เน้น เก็งกำไร เมื่อมีพัฒนการเชิงบวกของการเจรจาไทย-สหรัฐฯ เช่น DELTA*, CCET*, KCE*, TU, ITC*, ASIAN*, AAI*, COCOCO*
(7) กลุ่มร.พ.ที่ไตรมาส 2 เป็น Low Season แต่เข้าสู่ High Season ในไตรมาส3 เช่น BDMS, SKR, WPH*, PR9*
**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย
Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 35% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%
Today Fundamental Research: -
Monthly Portfolio September 2025: KLINIQ, ITC*, PTTGC*, GULF*, TIDLOR*
Analysts
Apichai Raomanachai
Fundamental and Technical Investment Analysis ID No. 002939
Tel 02-829-6999 Ext 2200
Email : apichai.ra@kfsec.co.th
Meena Tunlayanitigun
Fundamental and Technical Investment Analysis ID No. 033662
Tel 02-829-6999 Ext 2201
Email : meena.tu@kfsec.co.th
Nopporn Chaykaew
Fundamental Analysis ID No. 043964
Tel 02-829-6999 Ext 2203
Email : noppoen.ch@kfsec.co.th
Nattawat Poosunthornsri
Fundamental Analysis ID No. 087077
Tel 02-829-6999 Ext 2204
Email : nattawat.po@kfsec.co.th