AMATA : ถอนตัวจาก เซอร์วิส ซิตี้ เวียดนาม, กลับมาเน้นธุรกิจนิคมเป็นหลัก


การขายหุ้น 51% ครั้งสุดท้าย ปิดดีลอย่างมีกำไร
บริษัทลูกของอมตะ คอร์ปอเรชัน คือ อมตะ เวียดนาม (AMATAV) ได้อนุมัติการขายหุ้นส่วนที่เหลืออีก 51% ในโครงการเซอร์วิส ซิตี้ เวียดนามที่ไม่ใช่อุตสาหกรรม 2 แห่งในลองแท็งห์ โดยขายให้กับพันธมิตรท้องถิ่นเดิมในราคาประมาณ 1.5-1.6 พันล้านบาท (ประมาณ 46.14 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2026 ซึ่งจะถือเป็นการถอนตัวออกจากโครงการเหล่านี้โดยสมบูรณ์ต่างจากการขายครั้งแรก กำไรจากการขายครั้งนี้จะถูกบันทึกโดยตรงในงบกำไรขาดทุนของบริษัท โดยคาดว่าจะรับรู้กำไรประมาณ 600-700 ล้านบาท

การปรับกลยุทธ์จากประสบการณ์จริง
การขายกิจการครั้งนี้สะท้อนถึงการตัดสินใจของอมตะในการกลับมาเน้นธุรกิจหลักด้านนิคมอุตสาหกรรม หลังจากพบว่าโครงการเชิงพาณิชย์และที่อยู่อาศัยดำเนินการได้ยาก แม้จะพยายามดึงพันธมิตรที่มีประสบการณ์เข้ามาตั้งแต่ปี 2019 แต่ผู้ประกอบการท้องถิ่นกลับมีความเหมาะสมมากกว่าในธุรกิจนี้ ทำให้อมตะตัดสินใจถอนตัวจากการพัฒนาเซอร์วิส ซิตี้ที่ไม่ใช่ธุรกิจหลักอย่างเต็มรูปแบบ

มูลค่าสูงกว่าการขายครั้งก่อน
การขายหุ้น 49% ครั้งแรกมีมูลค่าตามบัญชีอยู่ที่ 1.05 พันล้านบาท ส่วนการขายหุ้น 51% ที่เหลือมีมูลค่าประมาณ 1.55 พันล้านบาท ซึ่งจะสร้างกระแสเงินสดสุทธิประมาณ 1.3 พันล้านบาท หลังหักเงินมัดจำ โดยคาดว่าจะรับรู้กำไรก่อนหักภาษีประมาณ 600-700 ล้านบาท รายได้จากการขายจะช่วยลดอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) จาก 0.9 เท่า เหลือประมาณ 0.8 เท่า

โฟกัสใหม่ในกลยุทธ์สมาร์ทซิตี้และการใช้เงินทุน
การขายครั้งนี้ไม่ใช่การถอนตัวจากกลยุทธ์สมาร์ทซิตี้ของอมตะ แต่เป็นการปรับโฟกัสไปที่การผนวกบริการสาธารณูปโภคที่มีมาร์จิ้นสูงและรายได้ประจำเข้ากับธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม รายได้จากการขายจะถูกนำไปใช้ในการลดหนี้หรือลงทุนในโครงการที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า โดยการตัดสินใจขั้นสุดท้ายจะเกิดขึ้นหลังจากการขายเสร็จสมบูรณ์

เรายังคงแนะนำให้ “ซื้อ” AMATA โดยมีมูลค่าที่เหมาะสม 35.00 บาท จากการดำเนินงานที่ดีขึ้น และโอกาสในการรับรู้รายได้ที่รออยู่