คาด SET Index ผันผวนอิงทางบวก : แรงหนุนจากการที่วานนี้วุฒิสภาเห็นชอบงบฯ 69 ส่วนการแถลงของพรรคประชาชนในวันนี้ เราให้น้ำหนักทางบวก ท่ามกลางความคาดหวังว่าจะนำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาลใหม่ หากแต่มองทางขึ้นถูกลดทอนลงด้วยความกังวลสถานะการคลังของสหรัฐฯ
แนวรับ-ต้าน
1,240 –1,260
กลยุทธ์การลงทุน
1) พลังงานต้น-กลางน้ำ : BCP, PTTEP, SPRC, TOP
2) Dividend play: BBL, KBANK, KKP, TISCO, TTB, TTW
3) งบประมาณภาครัฐ : CK, CPALL, CRC, KTB,MTC, SAWAD, STECON, TIDLOR, TNP
4) Selective play : AMATA, ASIAN, BH, ITC, OR, PTG, TU, WHA
เราสามคนคงต้องมีใครเป็นฝ่ายไป
วุฒิสภาผ่านร่างพ.ร.บ.งบฯ 69 : คาดแรงหนุนมาจากความคลายกังวลไปในระดับหนึ่งต่อประเด็นงบประมาณภาครัฐ ซึ่งจะเป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนสำคัญทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในยามที่ต้องเผชิญปัจจัยเสี่ยงด้านต่ำ หลังเมื่อวานนี้ที่ประชุมวุฒิสภาได้อภิปรายต่อเนื้อหาของร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 แล้วเสร็จ และลงมติเห็นชอบด้วยมติ 151 เสียง ต่อไม่เห็นด้วย 1 เสียง และงดออกเสียง 27 เสียง โดยขั้นตอนต่อไปสำนักเลขาธิการครม.จะนำร่างพ.ร.บ.ข้างต้นขึ้นทูลเกล้าฯถวายเพื่อประกาศบังคับใช้เป็นกฏหมายต่อไป
พรรคสีส้มเตรียมประกาศเลือกทาง : นอกจากนี้ คาด SET Index จะได้แรงหนุนจากการเมืองไทยที่จะมีความชัดเจนมากขึ้น เนื่องจากในวันนี้เวลา 9.30 น. พรรคประชาชนจะแถลงผลการประชุมกรรมการบริหารพรรคว่าจะโหวตให้แคนดิเดตจากพรรคใด โดยพัฒนาการข้างต้นอาจนำไปสู่การมีรัฐบาลใหม่โดยเร็ว สอดรับกับการที่เมื่อวานนี้รองปธ.สภาฯคนที่ 2 เผยว่าการโหวตนายกฯขึ้นอยู่กับฝ่ายการเมืองที่มีความพร้อมแล้วแจ้งมายังสภาฯซึ่งความเป็นได้เร็วที่สุดคือวันศุกร์นี้หรืออาจเป็นสัปดาห์หน้าในทางกลับกัน แม้เราจะให้น้ำหนักหลักในทางบวก แต่ต้องยอมรับว่าการเมืองไทยอะไรก็เกิดขึ้นได้ ดังนั้น การแถลงของพรรคประชาชนในวันนี้นับเป็น Swing factorได้เช่นกัน โดยเฉพาะในกรณีที่นำไปสู่ผลลัพธ์ที่รัฐบาลรักษาในปัจจุบันดำเนินการยุบสภาฯ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดสุญญากาศทางการเมือง และมีโอกาสที่จะยืดเยื้อยาวนาน เนื่องจากอาจนำไปสู่การร้องต่อศาลว่ารัฐบาลข้างต้นมีอำนาจในการยุบสภาฯหรือไม่
กังวลสถานะการคลังสหรัฐฯ : มองทางขึ้นถูกลดทอนจาก Sentiment ภายนอก สอดรับกับดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯอย่าง Dow Jones, S&P500 และ Nasdaq ที่ปรับตัวลง 0.55%, 0.69% และ 0.82% ตามลำดับ สวนทางกับ VIX Index และราคาทองคำที่ปรับตัวขึ้น 6.52% และ 2.16% ไปปิดที่ 17.16 จุด และ $3,592.2ต่อออนซ์ ตามลำดับ รวมถึง US bond yield 30 ปีที่มีจังหวะขึ้นไปทำ High ที่ระดับ 5.0% ภาพข้างต้นเกิดขึ้นเกิดขึ้นท่ามกลางความกังวลว่ารัฐบาลสหรัฐฯอาจต้องคืนเงินภาษีศุลกากรที่เรียกเก็บไปแล้ว ซึ่งจะซ้ำเติมสถานะทางการคลังของสหรัฐฯ หลังเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาศาลอุทธรณ์ของสหรัฐฯมีคำวินิจฉัยว่าภาษีศุลกากรส่วนใหญ่ของ ปธน.ทรัมป์ มิชอบด้วยกฎหมาย
ปัจจัยเพิ่มเติม
(+) ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้น 2.47% ปิดที่ $65.59 ต่อบาร์เรล หลังสหรัฐฯ ได้ออกมาตรการคว่ำบาตรที่มุ่งเป้าไปที่รายได้จากน้ำมันของอิหร่าน จากภาพข้างต้นส่งผลให้เรามองเป็น Sentiment เชิงบวกต่อหุ้นในกลุ่มพลังงาน
(+) ครม. รักษาการอนุมัติร่างพ.ร.บ.การเพิ่มขีดความสามารถของประเทศสำหรับอุตฯเป้าหมาย ซึ่งกฎหมายนี้เป็นกฎหมายที่ต้องการส่งเสริมสิทธิประโยชน์ในการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี เพื่อสนับสนุนให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนในไทย
(+) กรมประมง เผยสหรัฐฯได้ประกาศผลการพิจารณาความเทียบเคียงตามกฎหมาย MMPA ปรากฏว่าไทยเป็น 1 ใน 89 ประเทศที่ผ่านการประเมิน และรายการสัตว์น้ำที่ได้จากเครื่องมือประมงของไทยผ่านเกณฑ์การพิจารณาทั้งหมด
(-) กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬาเผยวันที่ 1 ม.ค.-31 ส.ค.68 ไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสม 21.88 ล้านคน ลดลง 7.16% y-y ส่วนรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสมอยู่ที่ 1.01 ล้านล้านบาท ลดลง 5.40% y-y
ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน
ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ -นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ และทางเทคนิค #9501
ชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ, CISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน และทางเทคนิค #37928
ภัทรดนัย จตุรพร นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #094041
พศุตม์ โงวิวัฒน์ชัย, CISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #127632
ฐนพงษ์ แซ่โล้ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
ชนพัฒน์ สุวิยานนท์ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์