Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

รายงานมาสเตอร์การ์ดเผย เด็กเจน Alpha เก่งเรื่องการเงินดิจิทัลมากกว่ารุ่นพ่อแม่ในขณะที่คนไทยต้องการระบบชำระเงินแบบใหม่ ที่สะดวกและตรงกับไลฟ์สไตล์

109

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(2 กันยายน 2568)--------งานวิจัยชิ้นล่าสุดจากมาสเตอร์การ์ดเผยให้เห็นข้อมูลที่น่าสนใจ เด็กไทยยุค Gen Alpha (เด็กที่เกิดในยุคดิจิทัล ตั้งแต่ปี 2553 เป็นต้นมา) กว่า 86%[1] สามารถเข้าถึงบัญชีการเงินได้แล้ว[2] เด็กไทยยุคยังเริ่มเข้าถึงเครื่องมือทางการการเงินอื่น ๆ ทั้งกระเป๋าตังค์ดิจิทัล (67%) บัญชีการลงทุน (57%) และแม้กระทั่งบัตรเครดิต (52%) ควบคู่ไปกับการที่เด็กกลุ่มนี้เริ่มกลายมาเป็นคนแนะนำเทคโนโลยีการเงินให้กับพ่อแม่ของตัวเอง โดยครอบครัวมากกว่าครึ่ง (55%) ยอมรับว่าลูก ๆ เป็นคนแนะนำให้พวกเขารู้จักเทคโนโลยีการเงินที่พ่อแม่เองก็ยังไม่เคยรู้จักมาก่อน

เตรียมพร้อม Gen Alpha สำหรับอนาคตของโลกการเงินดิจิทัล

ข้อมูลสะท้อนให้เห็นถึงบทบาทของครอบครัวไทยที่เปลี่ยนไปอย่างน่าสนใจ โดยผู้ปกครองของเด็ก Gen Alpha ในประเทศไทยส่วนใหญ่คาดหวังให้ลูก ๆ ของพวกเขาเติบโตในโลก ที่อาจไม่เคยต้องใช้กระเป๋าสตางค์จริง หรือไม่ต้องถือเงินสดเลย (73%) ในขณะเดียวกัน ผู้ปกครองของเด็ก ๆ กลุ่มนี้ก็กำลังพยายามปรับตัวให้ทันกับลูก ๆ ของพวกเขาเช่นกัน โดย:

• 70% เชื่อว่าลูกของพวกเขามีความเชี่ยวชาญด้านการเงิน มากกว่าพวกเขาในวัยเดียวกัน
• 69% ไม่แน่ใจว่าความรู้ทางการเงินของตนยังสามารถนำไปใช้กับเจเนอเรชันของลูกได้หรือไม่
• 63% ยอมรับว่าลูก ๆ รู้เรื่องวิธีการชำระเงินแบบใหม่ ๆ มากกว่าพวกเขา
• 88% หวังว่าจะมีเครื่องมือที่จะช่วยสอนเรื่องการเงินให้กับลูก ๆ ของพวกเขามากกว่านี้

จากการขยายตัวของกระเป๋าเงินดิจิทัล การชำระเงินทางโทรศัพท์ และบัญชีเสมือน ครอบครัวชาวไทยจำนวนมากจึงกำลังหาวิธีชาญฉลาด และทันสมัยมากขึ้น เพื่อส่งเสริมให้ลูก ๆ ของพวกเขาประสบความสำเร็จด้านการเงินในอนาคต ความต้องการนี้จึงเปิดโอกาสให้กับธนาคารและสถาบันทางการเงินที่มีวิสัยทัศน์ในการพัฒนาเครื่องมือดิจิทัลที่ไม่เพียงแต่ทำให้การจัดการเงินง่ายขึ้น แต่ยังสนับสนุนการเรียนรู้เรื่องการเงินให้กับเด็ก ๆ ได้ด้วย โดยผู้ปกครองของเด็ก Gen Alpha กำลังให้ความสนใจเป็นอย่างมากกับฟีเจอร์ต่าง ๆ อาทิ การโอนเงินระหว่างบัญชีโดยไร้รอยต่อ (62%) ระบบควบคุมโดยผู้ปกครอง (58%) สื่อการเรียนรู้ด้านการเงิน (57%) สื่อการเรียนรู้แบบจำลองโลกเสมือนจริง (50%) และประสบการณ์ในรูปแบบเกม (41%)

คนไทยพร้อมเปิดรับวิธีการชำระเงินแบบใหม่ ๆ

ถึงแม้ว่า Gen Alpha จะเป็นผู้นำในการใช้เทคโนโลยีการเงินแบบใหม่ แต่ผู้บริโภคชาวไทยในช่วงวัยอื่น ๆ ก็เริ่มทยอยเปิดรับนวัตกรรมการชำระเงินแบบใหม่กันมากขึ้นเช่นกัน

• งานศึกษาชี้ให้เห็นว่า ในช่วงปีที่ผ่านมา ผู้บริโภคชาวไทยเกือบทั้งหมด (95%) เคยใช้วิธีการชำระเงินดิจิทัล เช่น การชำระด้วยการแตะผ่านมือถือ การชำระด้วยข้อมูลชีวภาพ คิวอาร์โค้ด และกระเป๋าเงินดิจิทัล และกว่า 72% กล่าวว่าพวกเขาใช้งานสิ่งเหล่านี้เพิ่มขึ้นจากเดิม
• ความพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีการเงินของคนไทยก็โดดเด่นเช่นกันเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ โดยผู้บริโภคชาวไทยเกือบทั้งหมด (99%) มีแนวโน้มที่จะใช้ระบบการชำระเงินดิจิทัลภายในปีหน้า
• ผู้บริโภคชาวไทยอีกกว่า 58% ชอบใช้วิธีการชำระเงินแบบใหม่และที่ล้ำสมัยกว่าวิธีการชำระเงินแบบดั้งเดิมอย่างเงินสด หรือการรูดบัตร ซึ่งสูงกว่าอเมริกาเหนือ (25%) ยุโรป (24%) และแม้กระทั่งเอเชียแปซิฟิก (53%) อย่างเห็นได้ชัด

แนวโน้มการรับวิธีการชำระเงินแบบใหม่ได้ขยายตัวพร้อมกับการยอมรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่กำลังมาแรงด้วย โดยกว่า 91% ของผู้บริโภคชาวไทย (เทียบกับ 86% ของผู้บริโภคในเอเชีย แปซิฟิก) กำลังสนใจการใช้ AI ในการจัดการการเงินของพวกเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการตรวจสอบการฉ้อโกง, ระบบการชำระเงินอัตโนมัติ, การคาดการณ์ผลลัพธ์ทางการเงิน, และการปรับแต่งผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับความต้องการของแต่ละบุคคล

รายงานชิ้นนี้เน้นย้ำให้เห็นถึงความจำเป็นในการพัฒนานวัตกรรมทางการเงินที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการจริง ไม่ใช่การดัดแปลงจากระบบเดิม ด้วยเหตุนี้ มาสเตอร์การ์ดจึงได้ลงทุนในการยกระดับประสบการณ์ให้ผู้ใช้งานบนมือถือเป็นหลัก และนำเทคโนโลยี agentic AI อย่าง Agent Pay มาช่วยสนับสนุนการตัดสินใจในทุกขั้นตอนของการทำธุรกรรม

สำหรับคนไทย ความสะดวกสบายต้องมาก่อน

เมื่อตัวเลือกในการชำระเงินมีมากยิ่งขึ้น ผู้บริโภคย่อมแสวงหาวิธีที่สะดวกและง่ายที่สุดในการจัดการเงินให้เข้ากับพฤติกรรมในโลกดิจิทัลของพวกเขา คนไทยต้องการความยืดหยุ่นในการปรับแต่งวิธีการชำระเงิน พร้อมใช้เทคโนโลยีการชำระเงินสมัยใหม่ อาทิ การโอนเงินระหว่างบุคคล การชำระเงินจากลูกค้าถึงร้านค้า คิวอาร์โค้ด การทำธุรกรรมการค้าบนอุปกรณ์พกพา หรือสื่อโซเชียลมีเดีย

• Super apps กำลังกลายเป็นมาตรฐานการชำระเงินแบบใหม่: 77% ของผู้บริโภคชาวไทยใช้หรือต้องการ แอปการชำระเงินที่ครบจบในแอปเดียว เพื่อที่จัดการทั้งการชำระเงิน ช้อปปิ้ง และบริการอื่น ๆ เมื่อแพลตฟอร์ม super apps เข้ามาเป็นกระแสหลักมากยิ่งขึ้น เครื่องมือการชำระเงินจึงต้องไปพบผู้ใช้ในจุดที่พวกเขาอยู่ ไม่ใช่ให้ผู้ใช้ต้องปรับตัวตาม
• การช้อปปิ้งผ่านสื่อสังคมออนไลน์กำลังเปลี่ยนโฉมหน้าการค้า: ผู้บริโภคชาวไทยมากกว่าครึ่ง (52%) ชอบซื้อสินค้าผ่านแอปพลิเคชันหรือสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (39%) ผู้บริโภคชาวไทยกว่า 70% ยังกล่าวว่าอินฟลูเอนเซอรมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อของพวกเขาในปัจจุบันการผสานระบบชำระเงินเข้าไปในแอปสื่อสังคมออนไลน์จึงเป็นกุญแจสำคัญในการเปลี่ยนคนอ่านให้กลายเป็นคนซื้อ
• ความเชื่อมั่นและความปลอดภัยต้องมาอันดับแรก: แม้ว่า 73% ของผู้บริโภคชาวไทยมองว่าการชำระเงินแบบระบุตัวตนนั้นมีความปลอดภัยมากกว่าวิธีแบบดั้งเดิม แต่อีกกว่า 77% ยังคงกังวลเกี่ยวกับผู้ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของพวกเขา ปัญหานี้แสดงให้เห็นถึงความท้าทายในการทำให้ในการทำให้ระบบความปลอดภัยเข้าใจง่าย โดยไม่ต้องสูญเสียการควบคุมและความสะดวกสบายของผู้ใช้ โซลูชันจากมาสเตอร์การ์ด อย่าง Tokenization, Payment Passkeys และ AI-driven authentication จะช่วยปิดช่องโหว่เรื่องความเชื่อมั่นในส่วนนี้ได้

"ผู้บริโภคชาวไทยกำลังส่งสัญญาณอย่างชัดเจนถึงความคาดหวังและพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป พวกเขาต้องการประสบการณ์การชำระเงินที่ไม่เพียงแต่รวดเร็วและปลอดภัย แต่ยังต้องผสานเข้ากับไลฟ์สไตล์ดิจิทัลได้อย่างไร้รอยต่อ ความต้องการที่เพิ่มขึ้นนี้เป็นแรงผลักดันให้เกิดการพัฒนาวิธีการชำระเงินดิจิทัลที่ฉลาดและเป็นมิตรกับผู้ใช้งาน โดยสถาบันการเงินต้องปรับตัวให้พร้อมต่อการมอบทางเลือกการชำระเงินที่หลากหลาย และให้ความสำคัญกับนวัตกรรมเพื่อให้ทันกับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป มาสเตอร์การ์ดสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านนี้ด้วยโซลูชันนวัตกรรมที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ เพื่อตอบโจทย์และเข้าถึงผู้บริโภคในทุกที่ที่พวกเขาต้องการ" วินนี่ วอง ผู้จัดการประจำประเทศไทยและเมียนมา มาสเตอร์การ์ด กล่าว

ระเบียบวิธีวิจัย
ข้อค้นพบในรายงานชิ้นนี้ ใช้ฐานการทำวิจัยจากทั่วโลกโดย The Harris Poll ในนามของมาสเตอร์การ์ด ผลสำรวจมาจากการรวบรวมข้อมูลแบบสอบถามจากผู้บริโภคกว่า 19,302 ราย จาก 5 ภูมิภาคทั่วโลก โดยมีผู้บริโภคจากภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก 9,131 ราย และ 1,005 รายจากประเทศไทย งานศึกษาชิ้นนี้จัดทำโดยใช้การสำรวจออนไลน์เชิงปริมาณ เริ่มตั้งแต่วันที่ 4 กันยายน ไปจนถึง 20 กันยายน ปี 2024 ครอบคลุมทั่วทั้ง 5 ภูมิภาค คือ อเมริกาเหนือ, ละตินอเมริกาและแคริบเบียน, ยุโรป, ตะวันออกกลางและแอฟริกา, และเอเชียแปซิฟิก สำหรับตลาดเอเชียแปซิฟิก ประกอบด้วย ออสเตรเลีย, จีน, อินเดีย, อินโดนีเซีย, ญี่ปุ่น, มาเลเซีย, สิงคโปร์, ไทย, และเวียดนาม

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

"แมกซ์มาร์ท" มินิมาร์ทในปั๊มน้ำมัน PT ฉลองวันเกิดตลอดเดือนก.ย.-ต.ค.68 "9.9 Birthday MaxMart" ลดมันส์ฉลองเดือนเกิด"

"แมกซ์มาร์ท" มินิมาร์ทในปั๊มน้ำมัน PT ฉลองวันเกิดตลอดเดือนก.ย.-ต.ค.68 "9.9 Birthday MaxMart" ลดมันส์ฉลองเดือนเกิด"

การเมืองแบบไทย ไทย By : แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ ละครการเมืองไทย ก็เป็นการเมืองแบบไทย ไทย ฝั่งกระดานหุ้นไทย นักลงทุน ก็เล่นตาม....

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้