สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(1 กันยาย 2568)-----------บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (ASPS) เปิดเผยบทวิเคราะห์ ภาพรวมตลาดโลกเข้าสู่เดือนกันยายนด้วยความไม่แน่นอนหลายด้าน โดยเฉพาะกรณี ภาษีศุลกากร (TARIFF) ของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ ที่ศาลอุทธรณ์สหรัฐฯ เพิ่งมีคำวินิจฉัยว่า “ไม่ชอบด้วยกฎหมาย” ซึ่งหากศาลสูงยืนยันคำตัดสิน อาจนำไปสู่การคืนภาษีผู้นำเข้าหลายหมื่นล้านดอลลาร์ และกดดันค่าเงินดอลลาร์ให้ “อ่อนค่า” ขณะที่ Bond Yield อาจมีแนวโน้มลดลง หนุนให้ Fed เดินหน้าปรับลดดอกเบี้ย นอกจากนี้ ตลาดยังรับรู้ตัวเลขเงินเฟ้อ (PCE) เดือน ก.ค. ที่ +2.6%YOY เป็นไปตามคาด และดัชนี PMI ภาคการผลิตจีนที่ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย แม้ยังต่ำกว่าระดับ 50 จุด

ทิศทางตลาดต่างประเทศ (Region Radar)

ตลาดโลกยังให้น้ำหนักการเติบโตของ AI อย่างต่อเนื่อง โดย IDTechEx คาดว่าตลาดชิป AI จะเติบโตแตะ $453,000 ล้านภายในปี 2030 (CAGR +14%) ส่งผลให้หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีจีนกลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง ดัชนี HANG SENG TECH ให้ผลตอบแทนดีกว่า NASDAQ ในเดือน ส.ค. ในกรณี Alibaba แม้รายได้ต่ำกว่าคาด แต่ราคาหุ้นปรับขึ้น +12% จากธุรกิจ Cloud ที่ยังโตแรง ขณะที่ Nvidia รายงานผลประกอบการสูงกว่าคาด แต่ราคาหุ้นถูกกดดันจากประเด็นจำกัดการขายชิปให้จีน

การเมืองไทย (Thai Focus)

จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นเมื่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยถอดถอนนายกรัฐมนตรีแพทองธาร และ ครม. ทั้งคณะ ส่งผลให้เกิดการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ โดยมีชื่อ “ชัยเกษม” และ “อนุทิน” เป็นแคนดิเดตนายกฯ จากพรรคเพื่อไทย และภูมิใจไทย ตามลำดับ ขณะเดียวกัน พรรคประชาชนเสนอเงื่อนไขสำคัญ เช่น ยุบสภาภายใน 4 เดือน และจัดประชามติแก้รัฐธรรมนูญ ทำให้เกิดแนวโน้มรัฐบาลเฉพาะกิจ ที่อาจไม่มั่นคงในระยะยาว

กลยุทธ์การลงทุน แม้ตลาดจะผันผวนในระยะสั้น แต่หากการเมืองชัดเจน มีโอกาสที่ SET Index จะฟื้นตัวคล้ายปี 2566 ที่ดัชนีปรับขึ้น +10% ใน 2 เดือนหลังเปลี่ยนนายกฯ

กลุ่มหุ้นแนะนำตามสถานการณ์: พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล: BTS, BEM, ADVANC, SC, SIRI พรรคภูมิใจไทยเป็นรัฐบาล: STECON, STPI หุ้นอิงดอกเบี้ยขาลง: MTC, SPALI หุ้นอิงภาษี TARIFF: CPF

DR ที่น่าสนใจ: AAPL80 (ลุ้นเปิดตัว iPhone 17), SANOFI80 (เหมาะกับช่วงตลาดซึม ก.ย.)