AT THE OPEN (#ATO)
SET Index พักฐาน
เลือกหุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะตัว
Market Strategy
SET Index คาดพักฐานตามกรอบ 1225-1245 จุด ตลาดอยู่ในช่วงติดตามความคืบหน้าทางการเมืองต่อการเลือกนายกฯ ใหม่ แต่คงมุมมองสุญญากาศไม่นาน Downside ต่อตลาดจึงจำกัด เลือกหุ้น TTB และ CKP
ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 ให้คุณแพทองธารพ้นจากตำแหน่งนายกฯ ส่งผลให้กระบวนการถัดไปเตรียมเข้าสู่การเปิดประชุมสภาเพื่อเลือกนายกฯใหม่ ซึ่งจะต้องได้คะแนนเสียงจากเกินกึ่งหนึ่งของ ส.ส.ปัจจุบันอยู่ที่ 492 คนหรือได้เสียงสนับสนุนมากกว่า 247 คน ซึ่งปัจจุบันเป็นการแข่งกันรวมเสียงสนับสนุนระหว่างคุณชัยเกษมและคุณอนุทิน โดยตัวแปรสำคัญคือเสียงสนับสนุนจากพรรคประชาชนที่จะมีการประชุมพรรคในวันนี้ สำหรับการเลือกนายกฯ เร็วที่สุดคาดเกิดได้ในสัปดาห์นี้ ภายใต้สถานการณ์ข้างต้นคาดว่า SET Index อยู่ในภาวะพักฐานแต่ Downside จำกัด โดยยังมองแนวรับโซนเดิมที่ 1200-1230 จุด กลยุทธ์ระยะสั้นมองหุ้นในกลุ่ม Defensive และ Dividend Play จะยืนแข็งกว่าตลาดเช่น กลุ่มโรงไฟฟ้า CKP BCPG GPSC กลุ่มธนาคารที่ Dividend 1H68 สูงอย่าง KKP TTB
ศาลอุทธรณ์สหรัฐฯได้ตัดสินภาษีตอบโต้ เฟนทานิล ภาษี Base Line 10% ของทรัมป์ไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่อย่างไรก็ตามภาษีข้างต้นยังมีผลบังคับใช้ถึงวันที่ 14 ต.ค. 68 เพื่อให้ฝ่ายบริหารของทรัมป์ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา ส่งผลให้ภาษีที่สหรัฐฯเก็บกับไทยที่ 19% ยังดำเนินต่อและการเจรจารายละเอียดการค้าสหรัฐฯ ยังเป็นสิ่งที่จำเป็น โดยเฉพาะข้อตกลงเรื่องเกณฑ์ขั้นต่ำของ Local Content เพื่อใช้เป็นเกณฑ์สำหรับเก็บภาษี Transshipment ต่อไป สำหรับผลต่อ SET Index มองเป็นกลางต่อประเด็นนี้
ส่วนประเด็นอื่นๆ การรายงาน Core PCE เดือน ก.ค. 2.9%YoY สูงกว่าเดือนก่อนที่ขยายตัว 2.8%YoY แต่ก็เป็นไปตาม Consensus คาด ประกอบกับเชื่อว่าตอนนี้ FED น่าจะทำให้น้ำหนักกับตัวเลขตลาดแรงงานมากกว่า (ซึ่งจะมีการรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงานเดือน ส.ค. ในวันที่ 5 ก.ย.นี้) ส่งผลให้ FED WATCHTOOL ยังให้น้ำหนักกับการลดดอกเบี้ยฯในเดือน ก.ย. ด้วยโอกาสสูง 87%
Market Summary
SET Index ปรับลง 13.5 จุด หลังศาลฯตัดสินคดีคลิปเสียงเป็นลบต่อนายกฯแพทองธารเพิ่มความไม่แน่นอนทางการเมือง ส่งผลต่อต่างชาติขายสุทธิ 3.95 พันล้านบาท กดดันหุ้น Market Cap ใหญ่ ADVANC -1.7% PTT -1.6% TRUE -3.4% และหุ้นที่เกี่ยวภาคการท่องเที่ยวจากกระแสงดจัดงานอีเวนต์กดดัน CPN -4.6% PLANB -4.4% ERW -9% ด้านกลุ่มที่บวกเด่น คือ กลุ่มรับเหมาฯ STECON +12.5% STPI +1% เก็งคุณอนุทินแซงเข้าป้ายนายกฯคนถัดไป
DAILY Stock Pick
CKP
สะสมหุ้น Defensive ที่มี upside หนุน
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 3.70 บาท
ENSO index ประจำเดือน ก.ค. 68 ปรับเพิ่มโอกาสเกิด ลานีญา ในเดือน ก.ค. - ธ.ค. 68 โดยมีโอกาสเกิดสูงสุดถึง 50% (จาก 40% ในประมาณการเดิม) ในเดือน ธ.ค. 68 ส่งผลให้ปริมาณน้ำมี upside
เราคาดกำไรปี 68 โต 40%YoY โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของโรงไฟฟ้า XPCL หลังจากที่ต้องหยุดดำเนินการไป 17 วันในปี 2567 ในขณะที่ PE ปี 68 อยู่ที่ 12.5 เท่า (-1.7SD ของค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี) พร้อมกับเงินปันผล 3.3%
WEEKLY Stock Pick
TTB
เราคาด ปันผล 1H68 สูงที่สุดในกลุ่ม
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 2.00 บาท
เราคาดว่า TTB จะประกาศจ่ายปันผล 0.065 บาทต่อหุ้น ใน 1H68 หรือคิดเป็นอัตราเงินปันผล 3.4% สูงที่สุดในกลุ่มที่จ่ายปันผลเฉลี่ย 1.8% ในช่วงเวลาเดียวกัน
กำไรในปี 69-70 เราคาดเติบโตเฉลี่ย 5% จากทั้งรายได้ที่มาจากดอกเบี้ยและไม่ใช่ดอกเบี้ย ส่วนกำไรใน 2H68 เติบโต HoH เนื่องจาก Credit cost ที่ลดลง
KEY FACTOR
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับฐาน ดัชนี S&P500 -0.64% เผชิญแรงขายหลังความคาดหวังการลดดอกเบี้ยของ Fed เริ่มแผ่วลง และมีแรงกดดันจากตัวเลขดัชนี PCE ที่ยังคงทรงตัวสูงใกล้เคียงกับการคาดการณ์ของตลาด โดย Core PCE +2.9% YoY (Consensus +2.9% YoY, เดือนก่อนหน้า +2.8% YoY) ขณะเดียวกันจะมีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่เป็นเงื่อนไขการตัดสินใจของ Fed ประกอบด้วย ภาคแรงงานประจำเดือน (การจ้างงานเอกชน ADP, การจ้างงานนอกภาคเกษตร และ อัตราการว่างงาน) ซึ่งจะรายงานในสัปดาห์นี้ และตัวเลขเงินเฟ้อ (CPI) ที่จะรายงานในสัปดาห์หน้า (11 ก.ย.)
ตัวเลขกิจกรรมทางเศรษฐกิจภาคการผลิตของจีน ที่ดัชนี PMI อยู่ที่ระดับ 49.4 ยังทรงตัวต่ำกว่าระดับ 50 แม้ได้รับแรงหนุนชั่วคราวจากการเลื่อนการเก็บภาษีของสหรัฐฯ ออกไป 90 วันสะท้อนว่ามาตรการกดดันการแข่งขันด้านราคาภายในประเทศและการควบคุมการผลิตส่วนเกินของรัฐบาลยังเป็นปัจจัยกดดันสำคัญ
EYES ON
ในสัปดาห์ ความคืบหน้าการเลือกนายกฯ
1 ก.ย. RatingDog PMI ภาคการผลิตของจีน, PMI ภาคการผลิต Eurozone
2 ก.ย. ISM ภาคการผลิตของสหรัฐฯ, CPI ของ Eurozone
3 ก.ย. RatingDog PMI ภาคบริการของจีนและ Eurozone
4 ก.ย. การจ้างงานเอกชน ADP ของสหรัฐฯ
5 ก.ย. การจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงานของสหรัฐฯ
นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ, ออมทรัพย์ โง้วศิริ