สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(28 สิงหาคม 2568)-------- นายสุระ คณิตทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอมเซเว่น จํากัด (มหาชน)COM7 เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการครั้งที่ 7/2568 ของบริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) ("บริษัท") เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2568 ได้มีมติอนุมัติในหลักการให้บริษัท คอมเซเว่น โฮลดิ้ง จำกัด ("COM7H")ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 100 ของจำนวนหุ้นทั้งหมด เข้าลงทุนในบริษัท เอ็มวิชั่น จำกัด (มหาชน) ("MVP") โดยการจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่ MVP จะเสนอขายให้แก่ COM7H จำนวน 580,000,000 หุ้น ในราคาหุ้นละ 0.30 บาท คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 174,000,000 บาท ภายหลังจากที่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นของ MVP มีมติอนุมัติให้ MVP ดำเนินการเพิ่มทุนจดทะเบียนและจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนเพื่อเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement)ปัจจุบันบริษัท และ COM7H ไม่มีการถือหุ้นใน MVP โดยภายหลังการเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าว COM7H จะถือหุ้นใน MVP คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 51.00 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ MVPภายหลังการเพิ่มทุนเพื่อเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับบุคคลในวงจำกัดในครั้งนี้ (จำนวน 1,137,259,283 หุ้น)และ MVP จะมีสถานะเป็นบริษัทย่อยของบริษัท ("การจองซื้อหุ้น PP") และภายหลังการเข้าลงทุน COM7Hมีแผนจะส่งตัวแทนเข้าดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการและ/หรือผู้บริหารใน MVP ไม่น้อยกว่าสัดส่วนการถือหุ้นMVP เป็นบริษัทมหาชนจำกัดที่จัดตั้งขึ้นภายใต้กฎหมายไทย และเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) รายละเอียดข้อมูลเบื้องต้น และฐานะการเงินและผลการดําเนินงานของ MVP สามารถดูได้จาก
https://www.set.or.th/th/market/product/stock/quote/MVP/factsheetการเข้าลงทุนในครั้งนี้เป็นการขยายความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อสร้างคุณค่าเพิ่มร่วมกัน (ValueCreation) โดยใช้ประโยชน์จากความเชี่ยวชาญ ศักยภาพ และชื่อเสียงทางธุรกิจของทั้งสองฝ่ายในการขยายการเข้าถึงตลาดและสร้างผลประโยชน์ร่วมที่ชัดเจนและยั่งยืนตลอดจนเสริมสร้างและต่อยอดศักยภาพทางธุรกิจของบริษัทเพื่อการเติบโตในอนาคต และคาดว่าจะสามารถใช้ทรัพยากรบุคลากร เทคโนโลยี และเครือข่ายทางธุรกิจร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะนำไปสู่การลดต้นทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ขยายฐานลูกค้า และสร้างโอกาสทางรายได้ใหม่ในระยะยาว นอกจากนี้

คณะกรรมการบริษัทเห็นว่าราคาจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าวเป็นราคาที่เหมาะสมแม้ว่าจะเป็นราคาที่สูงกว่ามูลค่ายุติธรรมที่ประเมินโดยที่ปรึกษาการเงินซึ่งได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ แต่เป็นราคาที่มีส่วนลดร้อยละ 9.1 ของราคาตลาดตามหลักเกณฑ์ของประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทจ. 28/2565 เรื่องการอนุญาตให้บริษัทจดทะเบียนเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ต่อบุคคลในวงจำกัด (รวมทั้งที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม)โดย "ราคาตลาด" คำนวณจากราคาถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของหุ้นสามัญของ MVP ในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai)ย้อนหลัง 7 วันทำการติดต่อกันก่อนวันที่ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทของ MVPได้มีมติให้เสนอวาระการเพิ่มทุนจดทะเบียนและการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนเพื่อเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด(Private Placement) ต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้น คือระหว่างวันที่ 18 สิงหาคม 2568 ถึงวันที่ 26 สิงหาคม2568 ซึ่งเท่ากับหุ้นละ 0.33 บาท ทั้งนี้ COM7H จะใช้กระแสเงินสดภายในชำระค่าหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าวจึงไม่ส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องทางการเงินของ COM7H

ทั้งนี้ ภายหลังจากที่คณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติในหลักการให้บริษัทย่อยจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนของ MVPในครั้งนี้ COM7H จะเข้าลงนามในสัญญาจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนและการจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าวจะเกิดขึ้นต่อเมื่อ (1) ที่ประชุมผู้ถือหุ้นของ MVPมีมติอนุมัติในวาระที่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มทุนและการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) (2) COM7H พอใจในผลการตรวจสอบสถานะของ MVP ทั้งทางด้านกฎหมาย ภาษีและบัญชีว่าไม่มีประเด็นใด ๆ ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลกระทบในทางลบอย่างมีนัยสำคัญต่อ MVP (3)ไม่ปรากฏว่ามีการเปลี่ยนแปลงกฎหมาย กฎเกณฑ์ คำสั่ง คำตัดสินที่ประกาศโดยหน่วยงานราชการ ศาลอนุญาโตตุลาการ และ/หรือเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจ ที่ส่งผลหรืออาจส่งผลต่อการเข้าจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนใน MVPหรือส่งผลกระทบในทางลบอย่างมีนัยสำคัญต่อการประกอบธุรกิจของ MVP และ (4)เงื่อนไขในสัญญาจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนสำเร็จครบถ้วนหรือได้รับการผ่อนผันจากคู่สัญญาฝ่ายที่เกี่ยวข้องแล้วเท่านั้นภายหลังการเข้าจองซื้อหุ้น PP เสร็จสิ้น COM7H จะถือหุ้นใน MVP ในสัดส่วนเกินกว่าร้อยละ 50 ของจำนวนสิทธิออกเสียงทั้งหมดของบริษัท เป็นผลให้ COM7Hมีหน้าที่ต้องทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของกิจการ (Mandatory Tender Offer)ตามที่กำหนดในประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทจ. 12/2554 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไขและวิธีการในการเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการ ลงวันที่ 13 พฤษภาคม 2554(รวมทั้งที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม) รวมถึงกฎเกณฑ์และประกาศที่เกี่ยวข้อง ("ธุรกรรม MTO") และ COM7Hจะแต่งตั้งให้ บริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัดซึ่งเป็นที่ปรึกษาทางการเงินที่อยู่ในบัญชีรายชื่อที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ให้ความเห็นชอบ เป็นผู้จัดเตรียมคำเสนอซื้อของ COM7H ในการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของกิจการของMVP ตลอดจนการจัดเตรียมเอกสารอื่นใดที่จำเป็นและเกี่ยวข้อง

อย่างไรก็ตาม ผู้ถือหุ้นเดิมของ MVP จำนวน 1 ราย ได้แสดงเจตนาที่จะไม่ขายหุ้นของ MVP ที่ผู้ถือหุ้นเดิมถืออยู่ในธุรกรรม MTO ได้แก่ นายสุระ คณิตทวีกุล ซึ่งถือหุ้นอยู่ใน MVP เป็นจำนวน23,608,100 หุ้น ดังนั้น จำนวนหุ้นที่ COM7H อาจได้เพิ่มเติมจากธุรกรรม MTOในครั้งนี้จึงคิดเป็นจำนวนไม่เกิน 313,651,183 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 27.58ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ MVP ภายหลังการเพิ่มทุนบริษัทคาดว่า COM7H จะเริ่มดำเนินธุรกรรม MTO ในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2569 โดยราคาเสนอซื้อหุ้นจะต้องไม่ต่ำกว่าราคาสูงสุดที่ผู้ทำคำเสนอซื้อ และบุคคลตามมาตรา 258ของบุคคลดังกล่าวได้หุ้นของบริษัทมาในช่วงระหว่างระยะเวลา 90 วันก่อนวันที่ยื่นคำเสนอซื้อต่อสำนักงานก.ล.ต. (กล่าวคือ ราคาเสนอซื้อหลักทรัพย์ในธุรกรรม MTOจะต้องไม่ต่ำกว่าราคาจองซื้อหุ้นในธุรกรรมการจองซื้อหุ้น PP ครั้งนี้) ทั้งนี้ COM7Hไม่ได้มีเจตนาจะเพิกถอนหุ้นของ MVP ออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯภายหลังจากธุรกรรม MTO เสร็จสิ้นแต่อย่างใดการจองซื้อหุ้น PP และการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของกิจการ เข้าข่ายเป็นการทำรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียน ตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทจ.20/2551 เรื่อง หลักเกณฑ์ในการทำรายการที่มีนัยสำคัญที่เข้าข่ายเป็นการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์(รวมทั้งที่ได้มีการแก้ไขเพิ่มเติม) และประกาศคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง
การเปิดเผยข้อมูลและการปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียนในการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ พ.ศ. 2547(รวมทั้งที่ได้มีการแก้ไขเพิ่มเติม) และเมื่อคำนวณขนาดรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์จากการจองซื้อหุ้น PPและมูลค่าหุ้นในธุรกรรม MTO แล้ว มีขนาดรายการสูงสุดเท่ากับร้อยละ 1.06ตามเกณฑ์มูลค่าสินทรัพย์ที่มีตัวตนสุทธิ (NTA) ตามงบการเงินรวม (ฉบับสอบทาน) ของบริษัท สำหรับงวดสิ้นสุดณ วันที่ 30 มิถุนายน 2568 (เกณฑ์ที่คำนวณขนาดรายการได้ผลลัพธ์สูงสุด)จึงไม่เข้าข่ายที่ทำให้บริษัทจะต้องรายงานสารสนเทศการเข้าทำรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ต่อตลาดหลักทรัพย์หรือต้องได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น

นอกจากนี้ บริษัทและบริษัทย่อยของบริษัทไม่มีความสัมพันธ์ใด ๆ กับ MVP ที่จะทำให้การจองซื้อหุ้น PP เข้าข่ายเป็นรายการที่เกี่ยวโยงกันของบริษัท ตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนที่ ทจ. 21/2551 เรื่องหลักเกณฑ์ในการเข้าทำรายการที่เกี่ยวโยงกัน (รวมทั้งที่ได้มีการแก้ไขเพิ่มเติม)และประกาศคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่องการเปิดเผยข้อมูลและการปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียนในรายการที่เกี่ยวโยงกัน พ.ศ. 2546(รวมทั้งที่ได้มีการแก้ไขเพิ่มเติม)