สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(28 สิงหาคม 2568)--------บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (ASPS) เปิดเผยบทวิเคราะห์ Market Highlight ว่า ตลาดหุ้นภูมิภาคยังเผชิญแรงกดดัน โดยเฉพาะจีนและฮ่องกงที่ดัชนีร่วงลงแรงกว่า 1% หลังรายงานกำไรภาคอุตสาหกรรมเดือนกรกฎาคมหดตัว -1.5%YoY สะท้อนอุปสงค์ที่ยังซบเซา แม้รัฐบาลจีนเดินหน้ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีมาตรการควบคุมตลาดทุน เช่น การเพิ่มอัตราหลักประกันการกู้ยืมซื้อหุ้น และจำกัดการซื้อรายวันของกองทุนรวม ขณะที่อินเดียได้รับผลกระทบจากการที่ประธานาธิบดี Trump ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าเป็น 50% มีผลตั้งแต่ 27 สิงหาคม ด้านปัจจัยภายในประเทศ เดือนสิงหาคมยังมีคดีการเมืองสำคัญหลายคดีที่ต้องติดตาม โดยเฉพาะกรณีที่เกี่ยวข้องกับบุคคลสำคัญในพรรคเพื่อไทยและตระกูลชินวัตร ซึ่งหากกระบวนการยุติธรรมชัดเจน จะช่วยเสริมความมั่นใจต่อตลาดหุ้นไทย และหนุนโอกาส Fund Flow ต่างชาติไหลเข้า เพิ่มเติม

ASPS ประเมินว่า ตลาดหุ้นไทยยังมีเสถียรภาพกว่าตลาดหุ้นจีน เนื่องจากการซื้อขายด้วยบัญชี Margin มีสัดส่วนเพียง 4.5% ของมูลค่าซื้อขาย และมียอดคงค้างเพียง 1% ของ Market Cap เท่านั้น ประกอบกับค่าเงินดอลลาร์ยังอยู่ในทิศทางอ่อนค่า และ Bond Yield 10 ปี ของสหรัฐฯ ลดลงต่อเนื่อง สะท้อนเข้าสู่วัฏจักรดอกเบี้ยขาลง หนุนค่าเงินบาทไม่อ่อนมากเกินไป รวมถึงราคาทองคำและน้ำมันที่ทยอยฟื้นตัว

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำหุ้นกลุ่มพลังงานและโรงกลั่นที่จะได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันและทองคำฟื้นตัว เช่น PTTEP, BCP, TOP, SPRC, IRPC รวมถึงหุ้นโรงแรมและสุขภาพที่ได้แรงหนุนจาก Fund Flow และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจท่องเที่ยว โดยมี Top Pick ได้แก่ PTTEP, ERW และ BDMS