Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

สภาทองคำโลก คาดการณ์ราคาทองคำช่วงกลางปี 2568 ในทิศทางบวก เป้าหมายระหว่าง 3,100-3,500 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์

84

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(27 สิงหาคม 2568)----------บทวิเคราะห์ทองคำในประเทศไทย: เสาหลักที่มั่นคงท่ามกลางความผันผวนของตลาด การเพิ่มทองคำในพอร์ตการลงทุน เป็นอีกทางเลือกที่สามารถลดความเสี่ยง ลดความผันผวน และบรรเทาผลกระทบจากผลตอบแทนทที่ขาดทุนในช่วงที่เศรษฐกิจมีความไม่แน่นอน

ตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมา ทองคำนับว่ามีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของประเทศไทย ในฐานะสัญลักษณ์แห่งความมั่งคั่งและความเจริญรุ่งเรือง ในปัจจุบัน ทองคำได้กลับมารับความนิยมอีกครั้งในฐานะการลงทุนทางเลือกที่น่าสนใจ โดยเฉพาะในช่วงปี 2568 ที่ประเทศไทยและทั่วโลกกำลังเผชิญกับความผันผวนทางเศรษฐกิจและความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ คุณสมบัติพิเศษของทองคำ เช่น สภาพคล่อง และมูลค่าที่คงทนต่อภาวะวิกฤต จึงเป็นที่ดึงดูดอย่างยิ่ง ทั้งในหมู่นักลงทุนไทยรุ่นใหม่และนักลงทุนกลุ่มอื่น ๆ

จากรายงานสภาทองคำโลกถึงแนวโน้มความต้องการทองคำประจำไตรมาสที่ 2 ของปี 2568 พบว่า ความต้องการทองคำในประเทศไทยยังคงอยู่ในระดับที่สูง:
• อุปสงค์การบริโภคทองคำโดยรวมพุ่งสูงขึ้น 25% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเพิ่มขึ้น 11.6 ตันเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ของปี 2567
• การลงทุนในทองคำแท่งและเหรียญทองคำเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นถึง 38% คิดเป็นปริมาณ 10 ตันในไตรมาสนี้ นับเป็นการเติบโตที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มประเทศอาเซียน ในขณะที่ประเทศอื่น ๆ ส่วนใหญ่กลับมีปริมาณการลงทุนที่ลดลง
• การลงทุนในทองคำแท่งและเหรียญทองคำเติบโตขึ้น 35% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการลงทุนในทองคำที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องของนักลงทุนไทย แม้ราคาทองคำในตลาดโลกจะปรับตัวใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ก็ตาม
• นักลงทุนไทยยังคงถือครองทองคำอย่างต่อเนื่อง โดยปริมาณทองคำรีไซเคิลลดลงอย่างมีนัยสำคัญ สะท้อนถึงความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มราคาทองคำที่จะปรับตัวสูงขึ้น และการใช้ทองคำเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงในการลงทุน

ความต้องการในประเทศที่แข็งแกร่งนี้ท้าทายแรงกดดันทางเศรษฐกิจในวงกว้างที่มักส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค

ในภาพรวมระดับโลก ความต้องการทองคำโดยรวม (รวมถึงการซื้อขายนอกตลาดหลักทรัพย์ แบบ Over-the-counter หรือ OTC) แตะระดับ 1,249 ตันในไตรมาสที่ 2 ปีของปี 2568 เพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน การเติบโตนี้ขับเคลื่อนโดยกระแสการลงทุนที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะในกองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยน (ETF) ที่อ้างอิงทองคำ ซึ่งมีเงินไหลเข้าสุทธิถึง 170 ตันในไตรมาสนี้ และ 397 ตันในครึ่งปีแรก นับเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2563 โดยกองทุนที่จดทะเบียนในเอเชีย รวมถึงประเทศไทย มีบทบาทสำคัญด้วยยอดเงินไหลเข้าถึง 70 ตัน ซึ่งทัดเทียมกับกระแสเงินไหลเข้าของฝั่งสหรัฐอเมริกา

บทวิเคราะห์ล่าสุดเกี่ยวกับกองทุน ETF ทองคำในเดือนกรกฎาคม จากสภาทองคำโลก ได้เผยข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมว่า:

• การไหลเข้าของเงินลงทุนในกองทุน ETF ทองคำทั่วโลกยังคงแข็งแกร่งต่อเนื่อง โดยในเดือนกรกฎาคม 2568 มีเม็ดเงินไหลเข้าเพิ่มอีก 3.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้มูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 386.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
• ปริมาณการถือครองทองคำผ่าน ETF ทั่วโลกเพิ่มขึ้น 23 ตันในเดือนกรกฎาคม รวมเป็น 3,639 ตัน ซึ่งนับเป็นมูลค่าสิ้นเดือนที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2565
• การลงทุนมีการกระจายตัวอย่างกว้างขวางพร้อมสภาพคล่องสูง โดยแม้ว่าอเมริกาเหนือและยุโรปจะนำในด้านเงินไหลเข้า (1.4 พันล้านและ 1.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐตามลำดับ) แต่กองทุนในเอเชียก็มีการเติบโตเช่นกัน นำโดยญี่ปุ่นและอินเดีย ปริมาณการซื้อขายในทุกภูมิภาคยังคงแข็งแกร่ง สะท้อนถึงสภาพคล่องและการเข้าถึงการลงทุนในทองคำที่ดี
• แม้ว่าปริมาณการซื้อขายกองทุน ETF ทองคำจะลดลง 15% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าในเดือนกรกฎาคม แต่ปริมาณการซื้อขายยังคงสูงกว่าค่าเฉลี่ยของปี 2567 สะท้อนให้เห็นถึงความสนใจที่ยังคงมีอย่างต่อเนื่องและความยืดหยุ่นของการลงทุนในทองคำ

นอกจากนี้ตลาดยังตอบรับในเชิงบวกต่อสัญญาณจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการประชุมที่ เมืองแจ็กสันโฮล โดยความต้องการทองคำในตลาดโลกยังคงแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ การคาดการณ์ถึงแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้ทองคำมีความน่าดึงดูดยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับสถานะของทองคำในตลาดอีกด้วย

คุณเซาไก ฟาน (Shaokai Fan) หัวหน้าภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (ไม่รวมประเทศจีน) และหัวหน้าฝ่ายธนาคารกลางระดับโลก ของสภาทองคำโลก กล่าวว่า “การเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของความต้องการทองคำในประเทศไทย โดยเฉพาะการลงทุนในรูปแบบทองคำแท่งและเหรียญทองคำ สะท้อนให้เห็นว่าคนไทยใช้ทองคำเป็นเครื่องมือทั้งในการรักษามูลค่าความมั่งคั่งและการแสวงหาผลตอบแทนอย่างแข็งขัน ทั้งนี้ แนวโน้มการเติบโตดังกล่าวสอดคล้องกับกระแสการลงทุนในกองทุน ETF ทองคำในตลาดโลกที่เพิ่มสูงขึ้น และตอกย้ำถึงการเคลื่อนไหวในระดับสากลที่มองทองคำเป็นทั้งสินทรัพย์ปกป้องความเสี่ยงและเครื่องมือเชิงกลยุทธ์ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวน”

สำหรับมุมมองในอนาคต สภาทองคำโลกได้คาดการณ์ราคาทองคำช่วงกลางปี 2568 ในทิศทางบวก โดยคาดว่าราคาทองคำจะรักษาระดับหรือปรับตัวสูงขึ้น ด้วยเป้าหมายระหว่าง 3,100-3,500 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ และอาจสูงกว่านี้หากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกยังคงดำเนินต่อไป ด้วยปัจจัยกดดันจากการปรับขึ้นภาษีนำเข้า อัตราเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ความไม่แน่นอนของนโยบายธนาคารกลาง และความเสี่ยงทางการเมืองทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ คาดว่านักลงทุนไทยจะยังคงถือครองทองคำเป็นสินทรัพย์เชิงกลยุทธ์ในพอร์ตการลงทุนต่อเนื่องไปจนถึงปี 2569

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุด

Thailand Focus By : แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ วันนี้ วันแรก งานThailand Focus 2025 เช้าวันนี้ หุ้นไทยบวก 5.22 จุด บ่ายวันนี้ ...

PTG มุ่งมั่นปลูกฝัง DNA ความยั่งยืน ได้รับเกียรติบัตร "โครงการ ESG DNA" จากตลาดหลักทรัพย์ฯ

PTG มุ่งมั่นปลูกฝัง DNA ความยั่งยืน ได้รับเกียรติบัตร "โครงการ ESG DNA" จากตลาดหลักทรัพย์ฯ

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้